ศาลฎีกา 30 ก.ค.- ศาลนัดฟังคำสั่งคดีชั้น 14 “ทักษิณ” 9 ก.ย.นี้ 10.00 น. พร้อมสั่ง ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าฟังด้วย ด้าน “วิษณุ” รับเตรียมการก่อน “ทักษิณ” กลับไทย ชี้ 3 ปัจจัยต้องคุมขังพิเศษ เผยเคยเจอวันแรกแค่ครั้งเดียวและไม่เกี่ยวขอพระราชทานอภัยโทษ
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนคดีการบังคับโทษจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยคดีนี้มีอัยการ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ และมีนายทักษิณ เป็นจำเลย
การไต่สวนในวันนี้ถือว่า เป็นนัดที่ 7 และเป็นนัดสุดท้ายของการไต่สวน โดยมีพยานฝ่ายจำเลยเพียง1ปาก คือ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในชณะนั้น ขึ้นเบิกความในเวลา 09.30 น.
การไต่สวนในครั้งนี้ ใช้เวลาประมาณ 35 นาที โดยศาลได้สอบถามนายวิษณุ ในหลายประเด็น เนื่องจากขนะนั้น นายวิษณุได้ดำรงตำแหน่งรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มีความเกี่ยวข้องกับการรับตัวนักโทษในรัฐบาลสมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยส่วนใหญ่ศาลได้ถามถึงขั้นตอนการเตรียมพร้อมการในการรับตัวนายทักษิณ ตามเอกสารบันทึกถ้อยคำที่นายวิษณุได้ส่งให้กับศาล ซึ่งไล่เรียงตั้งแต่ก่อนที่นายทักษิณจะเดินทางกลับไทย
โดยนายวิษณุได้เบิกความสรุปว่า ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งในแง่กฎหมาย และการลงพื้นที่ดูความพร้อมของสถานที่คุมขังในหลายจุด สำหรับฉากทัศน์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งเตรียมการเก้อมาหลายครั้ง เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าจะกลับมา แต่ก็ยังไม่ได้กลับ สุดท้ายได้รัยการยืนยันว่า จะกลับไทยวันที่ 22 สิงหาคม 2566
นายวิษณุ ยังยอมรับว่า นายทักษิณถือเป็นบุคคล ที่จะต้องได้รับการคุมขังเป็นพิเศษ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ เนื่องจาก 1.เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี 2.เรื่องความปลอดภัย มีศัตรูเยอะอาจจะถูกต้องรายได้ และ 3. เกี่ยวกับเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ
ช่วงหนึ่งนายวิษณุเปิดเผยว่า การรักษาตัวนอกเรือนจำนายทักษิณได้เคยร้องขอไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แถวพระราม 9 ซึ่งนายวิษณุไม่เห็นด้วย ยืนยันให้รักษาในโรงพยาบาลรัฐเท่านั้น ส่วนการส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจนั้นไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อน เพียงแต่ได้รับรายงานจากปลัดกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น ที่แจ้งมาในคืนวันที่ 22 สิงหาคม 2566 พร้อมยืนยันว่า ตั้งแต่นายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจก็ไม่ได้เข้าไปเยี่ยมอีกเลย แต่ยอมรับว่า เคยเจอกันครั้งหนึ่ง ในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ตอนนายทักษิณ เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมีการพูดคุย เพื่อให้คลายกังวล เนื่องจากเห็นท่าทางของนายทักษิณมีความกังวล และอิดโรย เพราะไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่ช่วงเที่ยง พร้อมยังแนะนำให้นายทักษิณไปบวชด้วย
ขณะที่ฝ่ายโจทก์คือ ป.ป.ช. ได้ถามย้ำ ถึงการปฏิบัติและการส่งตัวผู้ป่วยไปรักษานอกเรือนจำ ว่าเป็นไปตามกฎกระทรวงหรือไม่ ซึ่งนายวิษณุ ได้เบิกความสรุปว่า ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับกฎกระทรวงดังกล่าว เนื่องจากมาเป็นรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเมื่อปี 2566
และช่วงหนึ่งนายวิษณุได้กล่าวว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณ มารู้หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าลงมาวันที่ 1 กันยายน 2566
สำหรับการไต่สวนคดีชั้น 14 วันนี้ถือว่า เสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลนัดฟังคำสั่งวันที่ 9 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น. โดยมีหมายเรียกให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และนายทักษิณ จำเลย มารับฟังคำสั่งในวันดังกล่าว เนื่องจากศาลต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาพยานหลักฐานที่มีจำนวนมาก .-319 -สำนักข่าวไทย