24 ก.ค. – นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนในการเดินทาง จากสถานการณ์พายุโซนร้อนวิภาที่ส่งผลให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมทุกโหมดการเดินทาง ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ ดำเนินมาตรการความปลอดภัยสูงสุด เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ หน่วยงานกระทรวงคมนาคมได้รายงานสถานการณ์อุทกภัยบนโครงข่ายของกระทรวงคมนาคม ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ดังนี้
- กรมทางหลวง (ทล.) สายทางได้รับผลกระทบในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย น่าน พะเยา แพร่ และตาก รวม 43 สายทาง การจราจรผ่านได้ 29 สายทาง ผ่านไม่ได้ 14 สายทาง
- กรมทางหลวงชนบท (ทช.) สายทางได้รับผลกระทบในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน พะเยา แพร่ เชียงใหม่ อุบลราชธานี และตาก รวม 20 สายทาง สัญจรผ่านได้ 10 สายทาง ผ่านไม่ได้ 10 สายทาง
- บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) แจ้งหยุดเดินรถโดยสารชั่วคราว 2 เส้นทาง ได้แก่ สายที่ 47 กรุงเทพฯ – ทุ่งช้าง และสายที่ 910 กรุงเทพฯ – น่าน สำหรับผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์จะเดินทางสามารถคืนตั๋วโดยสารหรือเลื่อนการเดินทางได้ที่สถานีเดินรถ บขส. ทั่วประเทศ ทั้งนี้ บขส. จะติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
- การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รายงานว่า พายุวิภาส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ บางช่วงที่อยู่ระหว่างดำเนินงาน อาทิ พื้นที่สะพานรถไฟ และพื้นที่ติดตั้งระบบระบายน้ำ พบว่ามีมวลน้ำไหลเข้าท่วมบางส่วน ทำให้ต้องหยุดหรือชะลอการดำเนินงานชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรและโครงสร้างงานก่อสร้าง ทั้งนี้ รฟท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชะลอการดำเนินงานที่มีความเสี่ยงสูงทันทีเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากสภาพอากาศที่ยังคงแปรปรวน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่าง ๆ เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
- กรมท่าอากาศยาน (ทย.) แจ้งว่าท่าอากาศยานน่านนครคงเปิดให้บริการตามปกติ รวมทั้งสายการบินเปิดทำการบินตามปกติ (เวลาเที่ยวบินอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์) การเดินทางเข้า – ออกสนามบิน สามารถสัญจรได้ แต่เนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และภายในตัวเมืองอาจเกิดจราจรติดขัด จึงขอให้ผู้โดยสารวางแผนการเดินทางล่วงหน้า และเผื่อเวลาในการเดินทาง ทั้งนี้ ท่าอากาศยานน่านนครทำการเปิดทางให้น้ำไหลออกจากลานจอดอากาศยานได้สะดวกป้องกันการเกิดน้ำท่วมขัง และอำนวยความสะดวกให้โรงพยาบาลน่านนำรถพยาบาลเข้ามาจอดภายในพื้นที่ท่าอากาศยาน
- ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) แจ้งวิธีปฏิบัติกรณีมีเที่ยวบินล่าช้า ซึ่งมีศูนย์ปฏิบัติการท่าอากาศยาน Airside Operation Control Center (AOCC) โดยเจ้าหน้าที่ประจำ AOCC จะติดตามสถานะเที่ยวบินขาเข้า – ออก และแสดงสถานะเที่ยวบินแบบเรียลไทม์ขึ้นจอที่อาคารผู้โดยสาร กรณีเที่ยวบินล่าช้าหรือยกเลิกรวมถึงการจัดสายพานรับกระเป๋าขาเข้า เจ้าหน้าที่ประจำ AOCC จะติดตามและบริหารจัดการสายพานรับกระเป๋าขาเข้าไม่ให้เกิดความหนาแน่นในโถงรับกระเป๋า ทั้งนี้ หากมีเที่ยวบินล่าช้าหรือสายการบินมีการยกเลิกเป็นจำนวนมาก ทดม. ได้จัดเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวก ให้ข้อมูลแก่ผู้โดยสาร และจัดเตรียมพื้นที่รับรองให้เพียงพอ สนับสนุนการดำเนินการของสายการบิน พร้อมทั้งจัดให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
- สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) แจ้งผู้โดยสารที่มีแผนการเดินทางภายในประเทศและระหว่างประเทศในช่วงนี้ ติดตามข้อมูลข่าวสารและสถานะของเที่ยวบินกับสายการบินอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอิทธิพลของพายุวิภาอาจส่งผลกระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินอาจเกิดความล่าช้า หรือการยกเลิกเที่ยวบิน เพื่อเป็นการดูแลสิทธิของผู้โดยสารตามข้อบังคับ กบร.101 หากเที่ยวบินได้รับผลกระทบจากความล่าช้าหรือการยกเลิกเนื่องจากพายุ ผู้โดยสารมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือจากสายการบิน อาทิ การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน หรือการขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารเต็มจำนวน เป็นต้น สำหรับผู้โดยสารที่ไม่สามารถเดินทางมาขึ้นเครื่องบินได้ให้ตรวจสอบมาตรการช่วยเหลือของสายการบินหรือติดต่อสายการบินต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนผู้ประสบเหตุอุทกภัยสามารถติดต่อขอรับการช่วยเหลือจากกระทรวงคมนาคมได้ที่สายด่วน (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) ได้แก่ กระทรวงคมนาคม 1356 ทล. 1586 ทช. 1146 รฟท. 1690 กรมเจ้าท่า 1199 และ AOT Contact Center 1722.-513-สำนักข่าวไทย