น่าน 25 ก.ค.- “ธีรรัตน์” นำคณะลงพื้นที่ให้กำลังใจประชาชนชาวน่านต่อเนื่องที่ อ.เชียงกลาง และ อ.ปัว ย้ำ รัฐบาลดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และขอบคุณผู้ว่าฯ น่าน บูรณาการทุกหน่วยงานดูแลช่วยเหลือ-ไม่ทอดทิ้งพี่น้องประชาชน พร้อมเผยมีกำหนดลงพื้นที่เขตเทศบาลเมืองน่านในวันพรุ่งนี้
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่อำเภอเชียงกลาง ณ หอประชุมบ้านหนองแดง หมู่ที่ 1 อ.เชียงกลาง จ.น่าน พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 200 ชุด และลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่
จากนั้น ได้เดินทางต่อไปที่หอประชุมโรงเรียนบ้านร้อง ต.ปัว อ.ปัว จ.น่าน พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 395 ชุด และเดินทางเยี่ยมเยียนให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่
การลงพื้นที่ในวันนี้ นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายนพรัตน์ ถาวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมลงพื้นที่
นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมามอบกำลังใจ มอบความห่วงใยจากรัฐบาล ซึ่งเราได้ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นับตั้งแต่การคาดการณ์สภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งดำเนินการในมิติป้องกันด้วยการแจ้งเตือนภัยในทุกช่องทางสื่อสาร เพื่อที่จะบรรเทาผลกระทบความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนให้มีน้อยที่สุด ถือว่าปีนี้ทางราชการได้ส่งสัญญาณเตือนภัยพวกเราล่วงหน้า ทั้งระบบ cell broadcast ทำให้เราได้เตรียมความพร้อมและลดความสูญเสีย แต่ก็ต้องเรียนว่าพายุวิภาที่เกิดในครั้งนี้ แม้ว่าจะลดระดับความรุนแรงลง แต่ก็ยังส่งผลกระทบสร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชน รวมทั้งความเสียหายต่อทรัพย์สินส่วนรวมเป็นจำนวนมาก
“ที่อำเภอเชียงกลาง ตนก็ได้ไปพบกับผู้ได้รับผลกระทบซึ่งทุกคนเพิ่งผ่านอุทกภัยใหญ่ แต่ทุกคนยังมีกำลังใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ต้อนรับผู้มาเยือน ทำให้พวกเราทุกคนที่ได้ไปลงพื้นที่ก็ได้รับกำลังใจด้วยเช่นกัน รวมถึงพี่น้องชาวปัวทุกคนด้วย และตนจะนำกำลังใจที่พี่น้องมอบให้ไปส่งต่อให้พี่น้องในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป เพื่อฟันฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน ให้ทุกคนได้รับการดูแลจากภาครัฐอย่างดีที่สุด ต้องขอขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ท่านนายอำเภอ ปภ. ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อส. ชรบ. พี่ ๆทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พี่น้องอาสาสมัครกู้ภัย และทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้อง ที่พวกเราทำงานอย่างบูรณาการ ทุกหน่วยงานช่วยเหลือกัน และไม่ทิ้งพี่น้องประชาชน แม้เวลาตี 3 ตี 4 ก็ยังทำงาน ยังใช้เรือ ยังเข็นเรือไปรับพี่น้องกันอยู่ เพราะตอนแรกเราคาดการณ์ว่าย้ายไปชั้น 2 สามารถหลบภัยได้ แต่พอจริง ๆ แล้วมันไม่เพียงพอ รวมถึงพี่น้องประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉิน” นางสาวธีรรัตน์ กล่าว
นางสาวธีรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ที่โรงพยาบาลน่านกำลังปรับปรุงพื้นที่ชั้น 1 ที่มีการปรับปรุงอาคารใหม่ซึ่งได้รับผลกระทบจากโคลนเข้าไปอยู่ด้านใน ขณะนี้ก็เร่งทำความสะอาด คาดว่าใช้เวลา 2-3 วัน ก็จะกลับมาใช้ได้ ต้องถือว่าโชคดีที่ทางจังหวัดน่านได้มีการประชุมหารือพูดคุยกับโรงพยาบาลน่านนับตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ทำให้เราสามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปไว้ชั้นสูงได้ทัน และย้ายอุปกรณ์บางส่วนไปตั้งโรงพยาบาลสนาม ทำให้สามารถรองรับการดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชนได้
“ทั้งนี้หลังจากน้ำลด ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดจะได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงไปสำรวจและดำเนินการเยียวยาดูแลพี่น้องประชาชนตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด และสำหรับมวลน้ำที่ตอนนี้กำลังลดระดับที่จังหวัดน่าน ก็ต้องเตือนพี่ ๆ ที่อยู่ท้ายน้ำว่า น้ำวันนี้ก็จะลงต่อไปทำให้พื้นที่อื่นได้รับผลกระทบต่อไป ทั้งพื้นที่เกษตร และพื้นที่บ้านเรือน ซึ่งถ้าทุกคนเตรียมความพร้อมไว้ความเสียหายก็จะลดน้อยลง และในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ค. 68) ตนจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองน่าน เพื่อนำกำลังใจของพวกเราทุกคนไปมอบให้กับพี่น้องประชาชนคนอื่นที่ประสบภัยต่อไป
ด้าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ในปัจจุบันจังหวัดน่านมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 10 อำเภอ 46 ตำบล 90 หมู่บ้าน 7,513 ครัวเรือน โดยในส่วนของอำเภอเชียงกลาง จำนวน 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ได้รับผลกระทบประมาณ 1,100 ครัวเรือน 3,300 คน ขณะที่พื้นที่อำเภอปัว จำนวน 8 ตำบล 14 หมู่บ้าน เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ได้รับผลกระทบ ประมาณ 1,200 ครัวเรือน 3,600 คน มีเส้นทางการคมนาคมสัญจรสายหลักมีน้ำท่วมบริเวณ ปั้ม ปตท. อำเภอปัว รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ -สำนักข่าวไทย