พรรคประชาธิปัตย์ 4 ก.ค.- “สุชัชวีร์” ไขก๊อก ลาออก “ปชป.” เตรียมรวมคนตั้งพรรคใหม่ ทำการเมืองระดับประเทศ เน้นพัฒนาคนจากการศึกษา ลั่นถ้าการศึกษาเปลี่ยนไม่ได้ อย่าหวังว่าประเทศไทยจะมีอนาคต ส่อไม่ลงผู้ว่าฯ กทม.ต่อ
ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์ในเวลา 10.00 น. เพื่อกราบไหว้พระแม่ธรณีบีบมวยผม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค
ดร.สุชัชวีร์ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าได้ให้เลขานุการส่วนตัวยื่นหนังสือลาจากเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองของคณะกรรมการการเลือกตั้งและนายทะเบียนพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยแล้ว และต้องขอกราบขอบคุณสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าพรรคซึ่งตนได้โทรศัพท์เรียนให้ทราบถึงการตัดสินใจไปแล้ว รวมทั้งขอบคุณกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้เกียรติ ทำงานกับพรรคการเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ขอยืนยันชัดเจนว่าไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งใด ๆ แต่มาจากอุดมการณ์และความฝันของตนที่ออกมาทำงานการเมือง ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในประเทศจริง ๆ เพราะวันนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะที่วิกฤติ และสถานการณ์ขณะนี้รอไม่ได้ ดังนั้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศที่เริ่มต้นจากการพัฒนาคนเรื่องการศึกษา ถือเป็นความตั้งใจอันแน่วแน่และเป็นการตัดสินใจอย่างรอบคอบว่าจากนี้เป็นต้นไปจะใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ทั้งหมด มาใช้ในการเปลี่ยนแปลงประเทศ และเริ่มต้นจากการเปลี่ยนเรื่องของการศึกษา ถ้าเราไม่เปลี่ยนเราแพ้เวียดนามแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ตนยอมไม่ได้
เมื่อถามว่าส่วนหนึ่งในเหตุผลการลาออกคือ พรรคประชาธิปัตย์ยังตัดสินใจร่วมรัฐบาลอยู่ใช่หรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า นั่นเป็นการตัดสินใจของพรรค ตนให้เกียรติหัวหน้าพรรคและผู้ใหญ่ในพรรค และไม่ใช่เหตุผลที่ตัดสินใจลาออก เพราะตนมีเหตุผลชัดเจนอย่างที่กล่าวมา ซึ่งสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้ วิกฤติทางการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ความมั่นคง และถ้าเกิดจะเปลี่ยนจุดเริ่มต้น คือต้องเริ่มต้นจากการพัฒนาคนในด้านการศึกษา จึงตั้งใจเดินหน้าทำงานเรื่องนี้ตามอุดมการณ์ตามความรู้ความสามารถที่มี
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล จะสามารถเดินหน้าในเรื่องที่ต้องการได้ง่ายกว่าหรือไม่ นายสุชัชวีร์กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ไม่มีอะไรดีขึ้น ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงและเราคงรอไม่ได้
เมื่อถามว่าที่บอกว่าต้องเปลี่ยนแปลงคือจะไปตั้งพรรคใหม่ ชื่อพรรคไทยก้าวใหม่ ใช่หรือไม่ นายสุชัชวีร์กล่าวว่า” ครับ แต่ตอนนี้ก็ยังคุยกับผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน ผมเชื่อว่ามีคนที่ร่วมอุดมการณ์เดียวกันกับผมเยอะ ที่ต้องการเห็นว่าประเทศไทยดีกว่านี้จริงๆ และที่ผ่านมาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตอนนี้ก็ต้องเดินทางคุยกับทุกคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน รักชาติแล้วอยากจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ที่เริ่มต้นด้วยการศึกษา
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าการตั้งพรรคใหม่ จะมีคุณหญิงกัลยาเข้าร่วมด้วยนั้น นายสุชัชวีร์กล่าวว่า คุณหญิงกัลยาเป็นหนึ่งในปูชนียบุคคล ด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี แต่ก็คงจะมีอีกหลายๆ คนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ คนที่มีพลังความรู้ และที่สำคัญมีอุดมการณ์อยากเห็นประเทศไทยดีขึ้น และมีความกล้าหาญ จึงอยากจะเชิญชวนทุกท่านออกมาทำงานการเมืองร่วมกัน
นอกจากคุณหญิงกัลยาแล้วมีบุคคลอื่นภายในพรรคประชาธิปัตย์ร่วมด้วยหรือไม่ นายสุชัชวีร์กล่าวว่า กำลังคุยกันอยู่ อยากให้ติดตาม แต่อยากให้คนที่รักชาติ อุดมการณ์เหมือนๆ กัน อยากเปลี่ยนประเทศไทยเริ่มต้นด้วยการศึกษาเหมือนกันตนก็จะเดินทางไปคุย
เมื่อถามว่าคุณหญิงกัลยาตอบรับคำเชิญหรือไม่ นายสุชัชวีร์กล่าวว่า เราคุยกันหลายคน ตนไม่อยากจะระบุว่าเป็นใคร ทั้งในแวดวงวิชาการ แวดวงอุตสาหกรรมธุรกิจ และแวดวงอื่นๆ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ
เมื่อถามถึงสถานการณ์การเมืองที่นายกรัฐมนตรีไปทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายสุชัชวีร์กล่าวว่า เป็นกำลังใจให้ อยากให้ ครม.ชุดใหม่วางทิศทางของประเทศไทย ไม่เช่นนั้นแล้ววันนี้ทั้งคนไทยและต่างชาติสูญเสียความมั่นใจกับประเทศไทยไปมาก จึงขอเป็นกำลังใจให้
เมื่อถามว่าเมื่อเห็นหน้าตาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาแล้ว จะสามารถฝากความหวังได้หรือไม่ นายสุชชัชวีร์กล่าวว่า ต้องให้โอกาส เพราะยังเพิ่งเริ่มต้น
ส่วนจะเปิดตัวพรรคใหม่ได้เมื่อไหร่นั้น นายสุชัชวีร์กล่าวว่ายังคุยกันอยู่เลย คงจะต้องรออีกสักพัก วันนี้มากราบพระแม่ธรณี ขอให้ท่านไปคุ้มครองผมด้วย
นายสุชัชวีร์ยังกล่าวถึงกระแสที่อยากให้ตนเองลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในปีหน้า ว่า ขอบคุณทุกคนที่ยังสนับสนุน งาน กทม. เป็นเรื่องสำคัญและเป็นงานที่ตนรัก แต่สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้อยู่ในภาวะที่ทุกคนต้องช่วยกันเพราะเป็นสภาวะวิกฤติทางด้านเศรษฐกิจและเชื่อมโยงกับการศึกษาที่คนไทยไม่สามารถแข่งขันได้จริงๆ ถ้าประเทศเปลี่ยนไม่ได้การศึกษาเปลี่ยนไม่ได้ อย่าหวังว่าประเทศไทยจะมีอนาคต
” วันนี้ต้องยอมรับว่าการเมืองไม่ได้พูดถึงเรื่องการศึกษาเลย ทั้งๆ ที่วันนี้การศึกษา เป็นจุดเป็นจุดตาย การศึกษาไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นทางรอด แต่ดูสิวันนี้เวียดนามไปถึงไหนแล้ว แล้วบอกได้เลยถ้าเราไม่ปรับวันนี้ เราแพ้เวียดนามแน่นอน ตอนที่ตนยังเรียนหนังสือเขาบอกว่าไทยจะเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย ต่อจากเกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ วันนี้กลายเป็นหัวหน้าเต่าของอาเซียนไปแล้ว ผมเชื่อว่าคนรุ่นผมและคนรุ่นน้องๆ ยอมรับตรงนี้ไม่ได้ ดังนั้นทิศทางใหม่ของการศึกษาวันนี้จำเป็นอย่างยิ่ง เบื้องต้นมุ่งมั่นและต้องเอาเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญแรกในการฟื้นฟูประเทศ ไม่มีประเทศไหนในโลกที่ยกระดับจากประเทศที่ยากจนประเทศด้อยพัฒนาขึ้นมาเป็นประเทศที่ร่ำรวย และพัฒนาแล้ว และมีคุณภาพที่ดี โดยที่ไม่ยึดถือการศึกษาเป็นเรื่องแรก” นายสุชัชวีร์กล่าว
เมื่อถามย้ำว่าจะไปการเมืองระดับประเทศแล้วใช่หรือไม่ ไม่ย้อนกลับมาการเมืองท้องถิ่น นายสุชัชวีร์กล่าวว่า วันนี้เรื่องของประเทศเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เราโฟกัสการเปลี่ยนแปลงระดับประเทศ
เมื่อถามว่าหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ตอนนี้เราจะเตรียมพรรคทันใช่หรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ขออวยพรให้ไม่อยากให้ประเทศไทยไปเจออุบัติเหตุอย่างที่ไม่คาดคิด เป็นกำลังใจให้.-312 -สำนักข่าวไทย
