สระแก้วเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง “แอนแทรกซ์”

สระแก้ว 3 มิ.ย.- สระแก้วลุยสอบสวนโรค หลังพบติดเชื้อแอนแทรกซ์รายแรกของจังหวัด เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง มีผู้ชำแหละ 7 ราย กินเนื้อดิบ 30 ราย เตรียมแผนฉีดวัคซีนและให้ยาปฏิชีวนะ

เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมกับปศุสัตว์จังหวัด เข้าสอบสวนโรค กรณีพบผู้ติดเชื้อแอนแทรกซ์รายแรกของ จ.สระแก้ว ตรวจสอบคอกควายของนายวุฒิพงษ์ อายุ 38 ปี ที่บ้านคลองผักขม ซึ่งเป็นเจ้าของควายตัวที่แพร่เชื้อโรคแอนแทรกซ์

โดยสั่งห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายควายและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด และออกคำสั่งกักกันสัตว์ 1 เดือน หากผลเพาะเชื้อไม่พบโรค จะนำวัคซีนและยามาฉีดให้กับสัตว์ทั้งหมด พร้อมเร่งเก็บตัวอย่างในพื้นที่พบการเกิดโรค 3 จุดทั้งหมด และฉีดพ่นในพื้นที่คอกควายตัวที่พบเชื้อ และจุดที่ควายตาย ในป่ายูคาลิปตัส

นายวุฒิพงษ์ เจ้าของควายตัวที่แพร่เชื้อแอนแทรกซ์ เล่าว่า คนป่วยบอกว่าก่อนป่วยได้กินเนื้อควายจากของตน ซึ่งตนฆ่าควายตัวนี้ช่วงก่อนสงกรานต์ ประมาณ 9 เม.ย.ผ่านมา ซึ่งควายตัวดังกล่าวซื้อมาจาก อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ไม่มีอาการป่วย

สาเหตุที่ฆ่าเพราะมันดื้อ ออกจากลวดที่ล้อม และพยศหนีจากฝูง จึงใช้ปืนยิงตายกลางป่ายูคาลิปตัส ก่อนนำมาชำแหละขายในพื้นที่ มีคนซื้อไปกินไม่ถึง 50 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนในหมู่บ้านคลองผักขมและพื้นที่ใกล้เคียง ประมาณ 20-30 กว่าคน แต่คนที่กินแต่ละบ้านที่ซื้อไป อาจมีมากกว่า 1 คนต่อบ้าน ตนยินดีทำตามและให้ความร่วมมือกับทางปศุสัตว์จังหวัดทุกอย่าง

ทั้งนี้ มีการประชุมร่วมกันกับทีมสอบสวนโรค เบื้องต้นพบว่า ผู้ป่วยติดเชื้อแอนแทรกซ์อาศัยอยู่ที่ตำบลท่าแยก มาประมาณ 5 ปี ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ผู้ป่วยรับจ้างตัดไม้ยูคาลิปตัส เมื่อวันที่ 9 เมษายน มีควายถูกยิงตาย และได้นำเนื้อมาชำแหละ ผู้ป่วยได้ร่วมกินก้อยดิบด้วย อย่างไรก็ตามพบว่า ผู้ร่วมชำแหละและคนที่กินก้อยดิบคนอื่นๆ ยังไม่มีใครป่วย

จากการสอบสวนโรค ยังไม่พบผู้ป่วยสงสัยหรือประวัติสัมผัสโรคเข้าข่าย ส่วนกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัส มีผู้ชำแหละ 7 ราย ผู้รับประทานเนื้อดิบ 30 ราย และผู้สัมผัสร่วมบ้าน 4 ราย ในรัศมี 5 กิโลเมตร พบวัว 243 ตัว และแพะ 29 ตัว โดยมีแผนฉีดวัคซีน และยาปฏิชีวนะในพื้นที่เสี่ยงวันนี้ ( 3 มิถุนายน) ปัจจุบันยังไม่พบสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ .-สำนักข่าวไทย