ปักกิ่ง 5 ก. พ. – นายกรัฐมนตรี ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อรถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะอาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 5 – 8 กุมภาพันธ์นี้ โดยนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ 11.30 น. และถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนพร้อมด้วยเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย รวมทั้งเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ให้การต้อนรับ มีเด็กชายชาวจีนมอบช่อดอกไม้แด่นายกรัฐมนตรี จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินผ่านแถวทหารเกียรติยศ เพื่อขึ้นรถยนต์ไปเรือนรับรองรัฐบาลเตี้ยวหยูไถ
นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการครั้งนี้ว่า จะได้พบกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และบุคคลที่มีบทบาทสำคัญของจีนทั้งนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งตนเคยพบกับนายกรัฐมนตรีของจีน 2-3 ครั้งแล้ว มาครั้งนี้ ก็ถือว่ามีความคุ้นเคย ประกอบกับไทยและจีนมีความสัมพันธ์ทางการทูต มายาวนาน 50 ปี จึงมีเรื่องที่จะประสานทำงานร่วมกันหลายเรื่อง ทั้งซอฟต์พาวเวอร์ ความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมของอนาคตในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น ดาต้าเซ็นเตอร์ และ พลังงานสีเขียว การใช้รถอีวี การตั้งโรงงาน และการเปลี่ยนผ่านจากระบบอนาล็อกมาเป็นดิจิทัล
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีเรื่องของปัญหาความปลอดภัย และอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยออกคลิปเป็น เอไอ ภาษาจีน เชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว ในไทย และบอกว่าเราพร้อมดูแล นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งจีน การเดิยทางเบือนจีนครั้งนี้ก็จะไปตอกย้ำ ความปลอดภัย ในประเทศไทยว่าพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี และจะมีการจัดงานเทศกาลอื่น ๆ อีกมากมายทั้งปี ส่วนกรณีที่มีข่าวลือต่างๆ ในช่องทางโซเชียลมีเดีย ก็ต้องไปขอความร่วมมือกับทางจีนด้วยว่า เมื่อพบเห็นขอให้ช่วยเอาลงให้ด้วย ไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นความจริง เพราะในประเทศไทยใช้คนละแพลตฟอร์มกับจีน เวลามีข่าวลือเหล่านี้ขึ้นมาก็ไม่ทราบข่าวสารพวกนี้จึงต้องขอความร่วมมือจากทางจีนด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเรื่องที่เป็นปัญหา ทั้งไทยและจีน คือปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ที่ต้องการความร่วมมือซึ่งกันและกัน และแก้ไขปัญหาเหล่านี้ร่วมกัน ร่วมกับ อาเซียน และอาจจะมีการแนะนำเทคโนโลยีซึ่งกันและกัน ในการจัดการกับปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมออนไลน์ ต่างๆ และในฐานะที่ครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทยกับจีน ก็จะมีการพัฒนาทักษะ และศักยภาพ ของคนร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงงานที่จีนมาจัดตั้ง โดยพัฒนาคนให้มีศักยภาพ พร้อมที่จะทำงานได้ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแห่งอนาคตต่าง ๆ ซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนกัน รวมไปถึง การหาความรู้เพิ่มเกี่ยวกับประเทศจีน เกี่ยวกับการศึกษาว่าพัฒนาคนของจีนอย่างไร ก็จะนำมาปรับใช้กับคนไทยด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่าจะมีการลงนามความตกลง ระหว่างไทย-จีน อย่างน้อย 14 ฉบับ จะสานต่อโครงการถไฟความเร็วสูงระยะที่หนึ่ง และสอง เชื่อมโยงไทย ลาวและจีน รวมถึงสานต่อ เรื่องโครงการแลนด์บริดจ์ ที่นายศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีได้เคยทำไว้ ส่วนเรื่องการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซอฟต์พาวเวอร์ ได้มีโอกาส พูดคุยกับ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อหาแนวทางในการสื่อสารระหว่างคนไทยกับจีนโดยผ่านซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อให้มีกิจกรรมร่วมกัน และร่วมเรียนรู้ ซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ จะมีโอกาาพบกับสมาคมธุรกิจไทยจีนและพบภาคเอกชน2-3รายด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า จะพูดคุยถึงขั้นตอนในการดำเนินการรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่จากจีนมายังประเทศไทย
นายกรัฐมนตรียังระบุว่าจะเดินทางไป เมืองฮาร์บิน ซึ่งมีการแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่9 ซึ่งมีนักกีฬาไทยเข้าร่วมแข่งขันด้วย จึงจะหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนที่บ้านพักนักกีฬาไทยและให้กำลังใจด้วยตัวเอง .319.-สำนักข่าวไทย