“จุลพันธ์” แนะตรวจสอบสิทธิ์ โอนเงินผู้สูงอายุ

กรุงเทพฯ 22 ม.ค. – “จุลพันธ์” แนะตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอปทางรัฐ 22 ม.ค. รองรับโอนเงิน 27 ม.ค.นี้ หากมีปัญหาส่งข้อมูลสายด่วน 1111


นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตั้งแต่ 22 มกราคม 68 เป็นต้นไป แนะนำให้ลูกหลานช่วยตรวจสอบสิทธิ โอนเงินให้กับผู้สูงอายุ ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” โดยกรอกบัญชีผู้ใช้หรือเลขประจำตัวประชาชน (Username) และรหัสผ่าน (Password) เพื่อ “เข้าสู่ระบบ” ให้เรียบร้อยก่อน และกด “ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน” โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เพื่อเข้าสู่หน้าแสดงผลผู้มีสิทธิโครงการฯ หากตรวจสอบสิทธิ์แล้วมีปัญหา ส่งข้อมูลมาให้สายด่วน 1111

นายจุลพันธ์ ย้ำว่าการโอนเงิน 27 ม.ค.68 จะโอนเงินเข้าบัญชี หลังเที่ยงคืน 26 ม.ค. หลังได้คัดกรองคุณสมบัติพบว่ามียอดเหลืออยู่ 3.2 ล้านราย ทั้งเสียชีวิตและเหตุอื่นๆ นับว่าศักยภาพของระบบ โอนเงินได้ครบทั้งหมดภายในวันเดียว ประชาชนถอนเงินจากบัญชีไปใช้จ่ายได้ทันที จึงฝากให้ตรวจสอบบัญชีเงินฝากผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนเท่านั้น คาดหวังเงินออกสู่ระบบในช่วงตรุษจีน 3 หมื่นล้านบาท เพื่อรับแรงส่งจากการโอนเงินกลุ่มเปราะบาง 1.45 แสนล้านบาท โอนเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละพัน 4-5 หมื่นล้านบาท จากนั้นไตรมาส 2 โอนเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เฟส 3 ให้กับกลุ่มที่เหลืออีก 1.5 แสนล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 68 สำหรับกลุ่มไม่มีมือถือ กำลังหาช่องทางตรวจสอบให้ชัดเจน ไม่ให้ซ้ำซ้อนจากกลุ่มอื่นที่ได้รับโอนเงินไปแล้ว เพื่อรับโอนเงินในรอบถัดไป


สำหรับกลุ่มเป้าหมาย ผู้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet มีสัญชาติไทยและมีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ 15 กันยายน 2567 (เกิดก่อนหรือในวันที่ 16 กันยายน 2507) และมีคุณสมบัติเพิ่มเติม ดังนี้
1.1 ไม่เป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566
1.2 ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากรวมกันเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567
1.3 ไม่เป็นผู้อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567
1.4 ไม่เป็นผู้ต้องขัง 4 ประเภท ได้แก่ นักโทษเด็ดขาด ผู้ต้องขังระหว่าง ผู้ต้องกักขัง และผู้ต้องกักกัน ตามฐานข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567
1.5 ไม่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ

โดยผู้สูงอายุที่มีสิทธิร่วมโครงการ จะได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านบัญชีเงินฝาก ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น (ไม่โอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ ผูกไว้กับเบอร์โทรศัพท์ ) ขอแนะนำให้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 22 มกราคม 2568 เริ่มโอนเงินภายใน 27 มกราคม 2568


กรณีผู้สูงอายุมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนอยู่แล้ว ควรตรวจสอบกับธนาคารด้วยว่าบัญชีดังกล่าวยังคงมีสถานะปกติทสามารถรับเงินโอนได้หรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมรับเงินในวันที่ 27 มกราคม 2568 ในกรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจำนวน 3 ครั้ง ได้แก่
รอบจ่ายซ้ำ จ่ายเงินภายในวันที่ ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่
ครั้งที่ 1 28 กุมภาพันธ์ 2568 25 กุมภาพันธ์ 2568
ครั้งที่ 2 28 มีนาคม 2568 25 มีนาคม 2568
ครั้งที่ 3 28 เมษายน 2568 23 เมษายน 2568


เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว กระทรวงการคลังจะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ ผู้ได้รับสิทธิในโครงการฯ สามารถตรวจสอบผลการจ่ายเงินว่าตนได้รับโอนเงิน 10,000 บาท สำเร็จหรือไม่ ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้ในวันถัดจากวันที่รัฐจ่ายเงิน (แสดงผลการจ่ายเงินครั้งแรกในวันที่ 28 มกราคม 2568) กระทรวงการคลัง เน้นย้ำ ให้ผู้สูงอายุ คาดว่าตนเองมีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไข ให้เร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่ หรือหากยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ขอให้ดำเนินการเพื่อให้พร้อมรับสิทธิตามโครงการฯ เพื่อใช้จ่ายซื้อสินค้าที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตโดยไม่กำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายแต่อย่างใด .-515 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข