ทำเนียบ 10 ม.ค.-“สันติ” เผย พปชร.เตรียมประชุม ประกาศแคนดิเดตนายกฯในเดือนนี้ มั่นใจพรรคเลือก “พล.อ.ประวิตร”คนเดียว ยืนยันไม่หวั่นไหวรวมไทยสร้างชาติเปิดตัว”พล.อ.ประยุทธ์”
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เปิดเผยว่าเดือนมกราคมนี้จะมีการประชุมพรรค พปชร.และประกาศให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ซึ่งจะกำหนดวันประชุมภายใน 2-4 วันนี้ โดยจะชูให้พลเอกประวิตรเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพียงคนเดียว เพื่อให้พรรคประสบความสำเร็จและเกิดความมั่นใจกับประชาชน อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค แต่ในพรรคขณะนี้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
นายสันติ ยืนยันว่าพลเอกประวิตรจะรับเป็นแคนดิเดดนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นหัวหน้าพรรค และได้ทำประโยชน์เพื่อบ้านเมืองมาตลอดชีวิต หากกรรมการบริหารพรรคเห็นว่าพลเอกประวิตรเหมาะสมที่จะพัฒนาบ้านเมือง ด้วยการเป็นเบอร์หนึ่ง นำพาการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ความมั่นคง ความอยู่ดีกินดี ของประชาชน และขออย่ามองว่าเป็นการมาแข่งขันกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน จะเห็นว่าใครสามารถที่จะเป็นที่พึ่งไปสร้างอนาคตให้กับพื้นที่ของตนเองให้เจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะการพัฒนาลูกหลานในอนาคตให้มีศักยภาพ หากไม่ตื่นตัวโดยการสร้างเสริมให้มีความรู้ติดอาวุธให้กับลูกหลาน แล้วจะนำใครมาต่อสู้กับนวัตกรรมของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
“ยืนยันว่าพลเอกประวิตรเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี คนต่อไปมากกว่า เพราะเป็นทหาร และยังมีความรู้ด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนไม่รู้คือมีความสามารถในการใช้คนทำงาน แต่ละภาคส่วน เช่น การบริหารจัดการน้ำ การจัดการที่ดิน ซึ่งต่างประสบผลสำเร็จ”นายสันติ กล่าว.
สำหรับกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติเปิดตัวพล.อ.ประยุทธ์นั้น นายสันติ กล่าวว่าไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวใดๆ เนื่องจากในอนาคต เมื่อใครทำดีก็ต้องทำให้ดีมากกว่า ขณะที่การส่งผู้สมัคร ส.ส. อาจจะชนกันในบางพื้นที่นั้นก็เป็นเรื่องการเมือง หากหลักให้กัน ประชาชนจะยอมรับไม่ ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐจะสู้เต็มที่ในทุกเขต ยืนยันไม่มีการดิวพรรคพี่พรรคน้องให้หลบกันในแต่ละพื้นที่อย่างแน่นอน ทั้งนี้การที่ ส.ส.จะย้ายพรรค เชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะ ถึงแม้พรรคจะเช็คลิสต์บัญชีรายชื่อล่าสุดก็เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะคนจะไป ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่ในฐานะเลขาฯพรรค ก็จะต้องทำหน้าที่หาคนใหม่ที่ดีกว่ามาสำรองไว้ เพราะพรรคก็หาคนที่มีความตั้งใจมาสำรองไว้ เป็นหลักประกัน ดังนั้น ส.ส.ที่จะย้ายไปย้ายมาต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
ส่วนจะมีการจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่นั้น นายสันติ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องทำอย่างเต็มที่ จะไปรังเกียจ ส.ส.ต่างพรรคไม่ได้ เพราะประชาชนได้เลือกเข้ามาแล้ว และตอนนี้ยังไม่ได้คิดว่าพร้อมที่จะร่วมมือกับพรรคใด รอให้ประชาชนได้เลือกตั้งก่อน โดยเฉพาะเลือกพรรคพลังประชารัฐให้มากๆ หากเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง เกินครึ่งก็ไม่มีความจำเป็นต้องจับมือร่วมกับใครและเดินหน้านโยบายของพรรคอย่างเต็มที่ต่อไป ซึ่งเตรียมเปิดนโยบายพรรคในเร็วๆนี้.สำนักข่าวไทย