นักวิชาการ ทั้งค้านทั้งหนุน เปิดผับถึงตี 4

สำนักข่าวไทย23ส.ค.-นักวิชาการเสียงแตก กรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอ ศบค. ปลดล็อค ขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 ฝ่ายสนับสนุนเชื่อรายได้เพิ่มขึ้นชัดเจน

จากที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอ ศบค. เดือนก.ย. หรือต.ค.นี้ พิจารณา ปลดล็อคการจัดโซนนิ่ง ขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4  อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการด้านโภชนาการ กล่าวว่า  เรื่องนี้มองในแง่ดีก็คือผู้ประกอบการมีรายได้ และผู้คนได้สนุกสนานนานขึ้น นี่คือสิ่งที่พอจะมองเห็นจากนโยบายนี้ หลักๆจะอยู่ที่ผู้ประกอบการ จึงอยากจะถามกลับว่าหากมาตรการนี้เกิดขึ้นจริง มีกี่แห่งกี่จังหวัดที่ทำได้ และเมื่อนำรายได้ทั้งหมดจากการเปิดถึงตี 4 ส่งผลต่อรายได้มวลรวมขนาดไหน แล้วมีข้อมูลอะไรมาประกอบยืนยันในเรื่องรายได้ที่หน่วยงานที่เสนอบอกว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจประเทศดีขึ้นจากมาตรการนี้ อยากให้มีฐานข้อมูลที่น่าเชื่อถือมาสนับสนับ ถ้ามียืนยันทุกฝ่ายก็จะยอมรับได้ เข้าใจว่าทุกคนอยากให้เศรษฐกิจดี อยากให้ทุกคนมีรายได้ อยากให้ทุกคนสนุกสนาน แต่ผลกระทบที่จะตามมาในด้านสุขภาพ อนามัย มีตามมาอย่างมากมาย คงจะได้เห็นในข่าวไปมากแล้ว เรื่องนี้ถ้าจะเกิดขึ้นจริงตนคงจะไม่ไปห้าม แต่อยากฝากผู้ที่เกี่ยวข้องต้องมองสองด้าน อยากให้นำคนที่มองต่างมานั่งถกเถียงพูดคุยหาตรงกลางร่วมกันไม่ใช่คิดกันจากฝ่ายเดียว เพื่อสร้างความสมดุล และหามาตรการ กฎหมาย ข้อห้ามเอาของเก่าตอนปิดตี 2 มาใช้ เพราะปิดตี 4 ยิ่งต้องเพิ่มความรัดกุมให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะมาตรการโซนนิ่งที่ต้องเข้มข้น ไม่หย่อนยานทั้งผู้ประกอบการและผู้คุมกฎหมายไม่ให้เกิดผลกระทบ โดยขอให้ใช้มาตรการกฎหมายข้อห้ามใหม่ไม่ใช่เก่า


ด้าน อาจารย์ยุคลวัชร์ ภักดีจักริวุฒิ์ นักวิชาการจากสาขาการสื่อสารและการท่องเที่ยว วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มศว. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า  ส่วนตัวสนับสนุนแนวคิดนี้ เพราะจะถือเปึนอีกทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยว สามารถใช้เวลาท่องเที่ยวได้นานขึ้น ช่วยลดความแออัดได้ด้วย เพราะแทนที่คนจะมายัดเยียดตั้งแต่หัวค่ำ ก็สามารถทยอยออกมาได้เรื่อยๆ ส่วนมาตรการนี้เชื่อว่าคงไม่ได้ประสบความสำเร็จไปทุกที่ทุกร้าน เพราะในโลกทุนิยมอะไรที่ทำแล้วไม่สำเร็จ และขาดทุนก็คงจะไม่ฝืนไปต่อ เพียงแต่อย่างน้อยได้เห็นความพยายามที่จะได้ช่วยกระตุ้นเรื่องหารนำเม็ดเงินเพิ่มจากการท่องเที่ยวของภาครัฐ ส่วนมาตรการนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นหรือไม่ ประเด็นนี้ยังไม่ชัดเจน แต่ที่ชัดเจนแน่ๆคือ รายได้ที่จะเพิ่มขึ้นจากการขายสินค้าและบริการจากเวลาที่ขยายให้ รวมทั้งความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว เพราะถ้าดึงสิ่งที่เคยผิดขึ้นมาทำให้ถูกต้องมีกฎ ระเบียบ ข้อห้าม มาตรการต่างๆ และตรวจสอบได้ ก็จะเพิ่มความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญ ในอดีตหรือแม้แต่ปัจจุบันต้องยอมรับความจริงว่ามีสถาoบันเทิงที่แอบเปิดเกินเวลา ที่นักเที่ยวเขารู้กันอยู่แล้ว เรื่องโซนนิ่งสำคัญมาก เพราะลำพังปิดตี 2 ยังแอบเปิดได้โดยที่ไม่มีการจับกุม แล้วถ้าจะให้ปิดตี 4 ต้องเข้มงวดกว่าเดิมหลายเท่า ส่วนเรื่องที่มีนักวิชาการบางส่วนออกมาแสดงความเป็นห่วงเรื่องอุบัติเหตุ หรือผลกระทบที่จะตามมา เรื่องนี้ต้องนำตัวเลขสถิติมายืนยันว่าเป็นผลจากมาตรการนี้ บางทีการแสดงความเป็นห่วงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะคงต้องมองอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง

ขณะที่ตัวแทนถนนข้าวสาร อย่าง นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวว่า แนวคิดนี้มองว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากรายได้ต่างชาติที่เข้ามาเที่ยว อีกทั้งต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆ ต่อมุมมองเอ็นเตอร์เทนเมนต์ หลังดำเนินการก็มาดูผลดีผลเสีย ถ้าเสียก็แก้ไข ถ้าดีขยายไปพื้นที่อื่นๆ ส่วนความวิตกกังวลจากหลายฝ่ายว่าเป็นจุดมั่วสุมนั้น แนวคิดนี้จะจำกัดเปิดเป็นโซน และจะมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจหลายรอบอยู่แล้ว โดยผู้ประกอบการก็พร้อมทำตามระเบียบ เช่น ระวังเรื่องเสียงรบกวนยามดึก อีกทั้งเจ้าของโรงแรมในถนนข้าวสารและใกล้เคียง ก็เตรียมทำโปรราคาห้องถูก 500 บาท หลังปิดบริการตี 4 หรือตั้งแต่ตี 2 เป็นต้นไป เพื่อรองรับคนดื่มที่มาถนนข้าวสาร เป็นอีกทางที่จะช่วยลดอุบัติเหตุ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน “ทักษิณ” ออกนอกเส้นทางไปไหน ?

4 ก.ย. – ไปไหน? เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” เลี้ยวออกนอกเส้นทาง หลังบินออกจากดอนเมือง ระบุปลายทางสิงคโปร์ พบบินวนอยู่ 2 รอบ ก่อนไปต่อ จับตามุ่งหน้า “ดูไบ” ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่. – สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]

“อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกไหว้พ่อแม่ก่อนโหวตนายกฯ

รัฐสภา 4 ก.ย.- “อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกยังไม่มี เผยตั้งใจไหว้พ่อ-แม่ เป็นสิริมงคลก่อนโหวตนายกฯ คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางกลับเข้ามาที่อาคารรัฐสภาอีกครั้ง ช่วงเย็นวันนี้ (4 ก.ย.) โดยผู้สื่อข่าวพยามสอบถามถึงโผ “ครม.อนุทิน 1” ว่า มีการจัดเตรียมให้ใครนั่งตำแหน่งใดและนายอนุทิน จะควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ร้องหูย ก่อนจะบอกว่ายังไม่มี ข่าวก็ลงไปเรื่อย ยังไม่ได้จัดอะไร ขนาดหัวหน้ายังไม่ได้เลย ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรุ่งนี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก่อนจะเข้าอาคารรัฐสภา จะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเพื่อความเป็นสิริมงคลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไหว้พ่อไหว้แม่นี่แหละ เป็นสิริมงคลที่สุดแล้ว -สำนักข่าวไทย

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่นไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป กลับมา […]