4 ก.ค.2566 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการลงมติลับและนับคะแนน ในการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 หลังจากที่ นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นเสนอชื่อนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ขณะที่นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.สราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอชื่อนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ ชิงตำแหน่ง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 โดยมี ส.ส.เข้าร่วมประชุม 497 คน จากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 498 คน มีมติเลือก นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ด้วยคะแนน 312 ต่อ 105 ชนะ นายวิทยา คู่แข่งขาดลอย งดลงคะแนน 77 เสียง บัตรเสีย 2ใบ
ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เสนอชื่อ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส. เชียงรายจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่มีใครลงแข่งขัน จึงได้รับ เลือกเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้นายปดิพัทธ์ แสดงวิสัยทัศน์ระบุว่าขอบคุณสมาชิกที่ให้ความไว้วางใจ และเราอยากเห็นประชาชนกลับมามั่นใจในสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่ง โดยจะทำให้สภานิติบัญญัติกลับมามีตัวตนและศักดิ์ศรี ไม่อยู่ใต้อาณัติของฝ่ายบริหาร หากได้มีโอกาสดูภารกิจของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำงานแบบ Smart Parliament ที่เสริมสร้างกระบวนการนิติบัญญัติตามมตรฐานสากล และเรียกความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศ จึงขอเสนอกระบวนการตรวจสอบฝ่ายนิติบัญญัติที่ประชาชนสามารถติดตามกฎหมายได้อย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ พร้อมมั่นใจและให้คำสัญญาว่าจะทำหน้าที่รองประธานสภาฯ อย่างดีที่สุด ปราศจากอคติ เพื่อความสง่างามและมีประสิทธิภาพ
ด้านนายพิเชษฐ์ ยืนยันจะปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานไว้เมื่อวนนี้ ให้โอกาสสมาชิก นำความเดือดร้อนของประชาชนจากคนละ 2 นาทีเป็น 3 นาที ดำเนินการประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นธรรม ให้เกียรติสมาชิกทุกคน กอบกู้ศักดิ์ศรีขององค์กรนิติบัญญัติ อำนวยความสะดวกให้กับ กรรมาธิการ แก้ไขปัญหาให้กับประชาชน รวมทั้งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
หลังจากนี้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะส่งรายชื่อ ประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ต่อไป และต้องรอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งประธาน และรองประธานสภาฯ ก่อน ประธานจึงจะนัดประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีกรอบเวลา 15 วัน หลังจากทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมแต่งตั้งประธาน และรองประธานสภาฯ แล้ว
ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช