สผ. ชูนวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพนการทำงาน

สผ. 15 ส.ค.63 – สผ. พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และให้บริการประชาชน เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติไทยแลนด์4.0


ดร.รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมขาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สผ.ซึ่งมีภารกิจด้านกำหนดนโยบายและแผนการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยเสนอแนะนโยบายและแผนการอนุรักษ์และบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ติดตามตรวจสอบมาตรการเงื่อนไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจของประเทศ และสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนและคุณภาพชีวิตที่ดี ภายใต้วิสัยทัศน์ สร้างสมดุลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในปี 2580

ที่ผ่านมา สผ. ได้นำเทคโนโลยีมาใช้สนับสนุนในการปฏิบัติงาน โดยสร้างนวัตกรรม และรูปแบบการบริการใหม่ เช่น  Smart E-Fund  ระบบฐานข้อมูลของกองทุนสิ่งแวดล้อมที่เชื่อมโยงข้อมูลให้ครอบคลุมในทุกด้าน รองรับการใช้งานผ่าน เว็บไซต์ และ แอพพลิเคชั่น ยกระดับการให้บริการแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ลดขั้นตอน มีความถูกต้องแม่นยำ โดย Smart E-Fund จะเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลทั้ง 3 ระบบ คือ 1. ระบบการยื่นข้อเสนอโครงการ เป็นการยื่นข้อเสนอโครงการด้วยตนเองผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมในการจัดทำโครงการหรือกิจกรรมการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ 2. ระบบการตรวจสอบสถานะโครงการ เป็นการตรวจสอบสถานะของโครงการของผู้ยื่นข้อเสนอโครงการว่าอยู่ในขั้นตอนใด และ 3. ระบบรายงานติดตามโครงการ เป็นการรายงานผลการดำเนินโครงการของผู้ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อม ให้กองทุนสิ่งแวดล้อมทราบเป็นรายไตรมาสว่าโครงการมีการดำเนินงานตามแผนที่กำหนดไว้หรือไม่ ระบบนี้ยังใช้สืบค้นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2535 จนถึงปัจจุบัน Smart E-Fund เป็นระบบที่สร้างพลังเครือข่ายให้มีส่วนร่วมเพื่อป้องกัน ดูแล ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน แลช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวสู่Thailand 4.0 อย่างเต็มตัว


ระบบคลังข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย TH-BIF หรือ Thailand Biodiversity Information Facility  เป็นศูนย์กลางข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2561-2565 โดยดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงาน สถาบันการศึกษาและหน่วยวิจัย ให้บริการสืบค้นข้อมูลพืช สัตว์ และจุลินทรีย์ สิ่งมีชีวิตต่างถิ่น ระดับความรุนแรงของการรุกรานสถานภาพการคุกคาม สถานภาพทางกฎหมาย ภูมิปัญญา และการนำไปใช้ประโยชน์ 

รวมไปถึงข้อมูลสนับสนุนด้านทรัพย์สินทางปัญญา ผู้เชี่ยวชาญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยสผ. ได้พัฒนาช่องทางการนำเข้าระบบคลังข้อมูล ให้ผู้ใช้งานเข้าถึงเรียกดูข้อมูลได้ ณ จุดเดียว เพิ่มศักยภาพในการคุ้มครองด้านความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืนเป็นข้อมูลสนับสนุนการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร งานวิจัย นำมาใช้พัฒนาเศรษฐกิจบนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพ

ระบบสารสนเทศการจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย TGEIS  หรือ  Thailand Greenhouse Gas Emissions Inventory systems เป็นระบบที่ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากรัฐบาลออสเตรเลีย ออกแบบระบบฐานข้อมูลพร้อมพัฒนาเว็บไซต์เป็น เว็บแอพพลิเคชั่นระบบปิด ที่ใช้งานผ่าน Intranet Web Base ช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล โดยมีวิธีประเมินผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามคู่มือ IPCC 2006 ทำให้ไทยมีฐานข้อมูลกลางในการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล เพื่อประเมินบัญชีก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นระบบ และประกอบในรายงานที่เสนอต่อUNFCCC ได้ ทั้งนี้ยังเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับนำไปใช้ประกอบในการวางแผนกำหนดนโยบาย มาตรการการลดก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการกำหนดทิศทางการวางยุทธศาสตร์ของประเทศอีกด้วย


สำหรับการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA  สผ. ได้จัดทำศูนย์ข้อมูลการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม Smart EIA  ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกรวดเร็ว มีการทำงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ รวมถึงง่ายต่อการใช้งานในพื้นที่ สามารถสืบค้นข้อมูล ค้นหาโครงการที่ต้องจัดทำ EIA ที่ผ่านความเห็นชอบจาก สผ. ตรวจสอบได้ว่าบริเวณใกล้เคียงมีโครงการที่ผ่านความเห็นชอบแล้วหรือไม่ และมีรายละเอียดโครงการอย่างไรได้ทันทีผ่านแอพพิเคชั่น โดยประชาชน และหน่วยงานต่าง ๆ สามารถตรวจสอบผลการพิจารณารายงาน EIA สถานะการส่งรายงาน Monitor และสถานภาพการขอรับใบอนุญาตเป็นผู้มีสิทธิทำรายงาน EIA ที่ยื่นผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ 

ด้านเจ้าของโครงการ นิติบุคคล ผู้มีสิทธิทำรายงาน หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ สามารถตรวจสอบสถานะรายงาน EIA รายงาน Monitor และการขอรับใบอนุญาตเป็นผู้มีสิทธิทำรายงาน EIA ที่ยื่นผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ทั้งกระบวนการเป็นการเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ 

นอกจากนี้รายงาน EIA รายงาน Monitor และข้อมูลการขอรับใบอนุญาตนั้น ได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยป้องกันและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนในทุกระดับมีความเสมอภาค และเท่าเทียม ทั้งหมดนี้จะช่วยยกระดับให้ สผ. ก้าวเข้าสู่องค์กรดิจิตอลที่มีการทำงานที่เปิดกว้าง เชื่อมโยงข้อมูลด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ยกระดับการทำงานด้วยนวัตกรรม ซึ่งจะตอบสนองการให้บริการประชาชนและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้พร้อมเดินทางไปสู่องค์กรดิจิตอล ภายใต้การดำเนินงานที่ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีธรรมาภิบาล บนพื้นฐานการขับเคลื่อนประเทศไทย สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ล่า “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงินกว่า 3 ล้าน

กทม. 1 ก.ค. – ตำรวจยังคงไล่ล่าแก๊งปล้นเงินกลางห้างดังย่านลาดพร้าว ได้เงินไปกว่า 3.4 ล้านบาท ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับแล้ว พบเป็นคนดังโซเชียลสายคุก ฉายา “เสือปุ่น” มีประวัติคดีโชกโชน .-สำนักข่าวไทย

“เจนี่” ถือฤกษ์ดี ปลงผมบวชสามเณรี ญาติมิตรร่วมอนุโมทนา

สระบุรี 1 ก.ค. – “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” วัย 44 ปี ถือฤกษ์งามยามดี เช้าวันนี้ (1 ก.ค.68) ปลงผมบวชสามเณรี ในโครงการบรรพชาสามเณรี รุ่นที่ 3 บริเวณปะรำพิธี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี โดยมีครอบครัว ญาติสนิท ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ ร่วมอนุโมทนา. – สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]