ทส. ห่วงปัญหาขยะติดเชื้อเพิ่มขึ้นช่วงโควิด-19

กรุงเทพฯ 10 ส.ค. – รมว. วราวุธ เผย ห่วงปัญหาขยะติดเชื้อที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 มอบกรมควบคุมมลพิษประสานกรมอนามัยและกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อร่วมกันขอความร่วมมือประชาชนคัดแยกขยะที่ต้นทาง เพื่อให้กำจัดง่ายขึ้น ลดขยะติดเชื้อตกค้าง


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้ประชุมกับส่วนงานต่างๆ ของทส. เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาขยะติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น จากหน้ากากอนามัย ชุดทดสอบแอนติเจน รวมทั้งขยะจากโรงพยาบาลสนาม Hospitel โฮมไอโซเลชั่น เป็นต้น โดย 2 เดือนที่ผ่านมามีการตกค้างสะสม ไม่สามารถกำจัดได้ทันในบางพื้นที่ เนื่องจากระบบเตาเผามูลฝอยติดเชื้อมีจำนวนและมีกำลังรองรับมูลฝอยติดเชื้อต่อวันไม่เพียงพอ ส่งผลให้มีปริมาณมูลฝอยติดเชื้อตกค้างสะสมเพิ่มขึ้น ประกอบกับปัจจุบันไม่มีการคัดแยกเศษอาหาร เศษพลาสติก อุปกรณ์ทางการเเพทย์ ส่งผลให้มูลฝอยติดเชื้อมีปริมาณมาก อีกทั้งเป็นขยะมีความชื้นสูงไม่เหมาะสมที่จะนำไปกำจัดด้วยการเผาในเตาเผามูลฝอยติดเชื้อ

ทั้งนี้ได้มอบหมายกรมควบคุมมลพิษประสานกับกรมอนามัยและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด(สีแดงเข้ม) 29 จังหวัด เพื่อกำหนดแนวทางป้องกันและเเก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยติดเชื้อตกค้าง


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า เสนอให้มีการคัดแยกขยะจากต้นทาง ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นและเร่งด่วย หากทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนคัดแยกขยะ ขะสามารถนำไปกำจัดได้เหมาะสมและรวดเร็ว โดยให้แยกขยะเศษอาหาร ขยะพลาสติก และขยะติดเชื้อออกจากกัน ซึ่งเมื่อถึงปลายทางในการกำจัด จะนำขยะกลุ่มเศษอาหารและขยะพลาสติก ไปฆ่าเชื้อโดยการฉีดพ่นแอลกอฮอล์/น้ำยาฆ่าเชื้อ/สารฟอกขาว หลังจากนั้นนำไปฝังในบ่อฝังกลบ ส่วนขยะติดเชื้อจากโรงพยาบาลและสถานประกอบการต่างๆ จะต้องมีการกำจัดโดยการเผาในเตาเผามูลฝอยติดเชื้อตามกฎกระทรวงว่าด้วยการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ พ.ศ. 2545 (ตาม พ.ร.บ. การสาธารณสุข 2535)

ล่าสุด ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้แจ้งต่ออธิบดีกรมควบคุมมลพิษว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมห่วงใยปัญหาขยะติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น จึงสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้ร่วมกันแก้ไข เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น