พม. 17 เม.ย.- “วราวุธ” กำชับ ศรส. พม. จับมือ หน่วยงาน ร่วมประเมินพัฒนาการ 4 พี่น้องวัยฟันน้ำนม หลังก่อเหตุงัดแงะเบาะ จยย. ใต้สถานีรถไฟฟ้าฝั่งธนฯ ขโมยทรัพย์สิน
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ในสื่อโซเชียลระบุ 4 พี่น้องวัยฟันน้ำนม ตระเวนก่อเหตุงัดแงะเบาะรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านเพื่อขโมยทรัพย์สินและสิ่งของ ตามสถานีรถไฟฟ้าย่านฝั่งธนบุรี โดยอ้างว่าแม่ไม่ให้เงิน ซึ่งทางศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 68 ที่ผ่านมา ศรส. ของกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) โดยเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร กระทรวง พม. พร้อมกับ ประธานชุมชน ผู้อำนวยการโรงเรียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันลงพื้นที่เยี่ยมบ้านของเด็กทั้ง 4 คน ในชุมชนบนถนนวุฒากาศ เขตธนบุรี ได้เข้าพูดคุยกับมารดาของเด็กๆ อายุ 35 ปี ไม่ได้ประกอบอาชีพ มีรายได้จากการรับจ้างดูแลผู้ป่วยที่บ้านใกล้เคียง วันละ 400 บาท อาศัยอยู่กับสามีและแม่ของสามี มีบุตร 5 คน ได้แก่ เด็กชายแฝดอายุ 9 ปี เด็กชายอายุ 8 ปี และ 4 ปี และเด็กหญิงอายุ 5 ปี
จากการสอบถามข้อเท็จจริงทราบว่า มารดาและย่าเป็นหลักในการผู้ดูแลเด็กๆ ซึ่งเด็กแฝด 9 ขวบจะมีพฤติกรรมซุกซน ไม่อยู่นิ่ง เคยไปปรึกษาแพทย์แล้วประเมินเบื้องต้นว่าอาจเข้าข่ายสมาธิสั้น แต่เนื่องด้วยมารดาไม่มีเงิน จึงไม่ได้พาเด็กไปรับการรักษา สำหรับพฤติกรรมลักทรัพย์นั้น เด็กแฝดมักจะออกจากบ้านไปเที่ยวเล่นในบริเวณใกล้เคียงกับเพื่อนในชุมชน และมักจะเปิดช่องใส่ของของรถจักรยานยนต์ที่ชาวบ้านจอดไว้ตามริมทางและสถานีรถไฟฟ้า เพื่อตรวจดูสิ่งของต่างๆ เด็กแฝดเคยใช้สีกระป๋องพ่นรถของชาวบ้านที่จอดไว้ จนมารดาต้องรับผิดชอบกับทางบริษัทประกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการผ่อนผันค่าเสียหาย โดยมารดาและย่าเคยตักเตือนเด็กไปหลายครั้ง แต่ไม่เป็นผล เพราะไม่สามารถติดตามเด็กได้ทุกครั้ง ทำให้มารดาและย่ามีความกังวลใจในการดูแลเด็ก
เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร ได้ประเมินเบื้องต้น เห็นว่าเด็กๆ ทั้ง 5 คน ควรได้รับการประเมินพัฒนาการทางด้านร่างกายและจิตใจจากแพทย์ ขณะเดียวกัน ครอบครัวของเด็กควรเข้ารับการประเมินจากทีมสหวิชาชีพด้วย เพื่อให้ความช่วยเหลือตามกระบวนการสังคมสงเคราะห์ต่อไป อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นนี้เจ้าหน้าที่ได้ให้มารดาและย่าลงลายมือในหนังสือบันทึกการให้คำแนะนำในการรับเด็กกลับไปอยู่ในความดูแล และบันทึกข้อตกลงในการเลี้ยงดูเด็กให้ได้ตามมาตรฐาน พร้อมทั้งได้ให้คำปรึกษาแนะนำและบริการด้านเด็กตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และประสานโรงพยาบาลตากสิน ในการนำเด็กๆ เข้ารับการตรวจพัฒนาการทางด้านร่างกายและจิตใจ อีกทั้งประสานงานกับประธานชุมชน โรงเรียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมตามกระบวนการสหวิชาชีพต่อไป .314.-สำนักข่าวไทย
