ทส.ระดมทุกมาตรการคุ้มครอง “พะยูน”

กรุงเทพฯ 13 พ.ย. – รมว.ทส. สั่งกรมทะเลและกรมอุทยานฯ ผนึกกำลังเดินหน้ามาตรการปกป้องคุ้มครองพะยูนและแหล่งหญ้าทะเล


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินทุกมาตรการในการปกป้องคุ้มครอง “พะยูน” เนื่องจากสถานการณ์ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบให้พะยูนขาดแคลนอาหาร พบพะยูนที่มีลักษณะผอมมากกว่าปกติ ซึ่งเกิดจากหญ้าทะเลเสื่อมโทรม ทำให้พะยูนมีอาหารไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องอพยพไปยังพื้นที่ใหม่ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกยตื้นเพิ่มขึ้นและอาจต้องเผชิญกับอันตรายต่อชีวิตของพะยูนได้ตลอดเวลา เนื่องจากพื้นที่ใหม่ๆ มีกิจกรรมทางน้ำ การเดินเรือ มีการทำประมง ซึ่งประชาชนมีการดำเนินกิจกรรมเป็นปกติ โดยไม่รู้ว่ามีการเคลื่อนย้ายของพะยูนเข้ามาในพื้นที่ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้

ทั้งนี้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานประชุมระดมความคิดเห็นในการกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาวิกฤตพะยูนเกยตื้นให้เป็นรูปธรรม โดยกำหนดมาตรการหลัก 4 ประการ ในการแก้ไขปัญหาพะยูนเกยตื้นและหญ้าทะเลเสื่อมโทรม ตลอดจนกำหนดแผนงานในระยะเร่งด่วนที่จะเพิ่มอาหารให้กับพะยูนในธรรมชาติ และดูแลพะยูนที่ผอมเป็นพิเศษ ด้วยการเพิ่มอาหารให้กับพะยูน คือ การปลูกหญ้าบนบกแล้วนำมาเป็นอาหารให้พะยูน การสั่งซื้อหญ้าทะเลเข้ามาเสริม และการกั้นเขตแหล่งหญ้าทะเลธรรมชาติเพื่อให้หญ้าทะเลสามารถเจริญเติบโตได้เร็วขึ้น


นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ได้ร่วมกับอธิบดีกรมอุทยานฯ นำทีมนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมกับเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของทีมอาสาสมัครงานวิจัยสำรวจพะยูนด้วยอากาศยานไร้คนขับ บริเวณจุดชมวิวอ่าวป่าคลอก จากการสำรวจพบพะยูนคู่แม่-ลูกกำลังว่ายน้ำ พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบเครื่องดื่มแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงทีมอาสาท้องถิ่นและผู้นำชุมชน ซึ่งทำหน้าที่เฝ้าระวังคุ้มครองพะยูนและติดตามสถานการณ์หญ้าทะเลเสื่อมโทรมอย่างใกล้ชิด ตลอดจนร่วมประชุมหารือกับนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานราชการทุกภาคส่วนในพื้นที่ เพื่อกำหนดมาตรการในการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์พะยูนเกยตื้นและหญ้าทะเลเสื่อมโทรม ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  1. จัดตั้งคณะทำงานในการประสานงาน
  2. จัดตั้งทีมอาสาสมัคร และชุดลาดตระเวนเฝ้าระวังคุ้มครองพะยูน
  3. จัดทำประกาศ/ป้ายประชาสัมพันธ์การจำกัดการสัญจรหรือลดความเร็วเรือ และแผนที่เส้นทางหรือแหล่งอาศัยพะยูน ให้ประชาชน ชุมชนชายฝั่ง และผู้ประกอบการเดินเรือได้รับทราบ
  4. ดำเนินการฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล โดยการปลูกหญ้าทะเลในพื้นที่ที่กำหนด จากนั้นนำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมแปลงเสริมอาหารพะยูน บริเวณท่าเทียบเรือราไวย์ ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต พร้อมดูการสาธิตทำแปลงเสริมอาหารพะยูน โดยใช้สาหร่ายผมนาง ผักกวางตุ้ง ผักบุ้ง นำมาเป็นอาหารเลียนแบบธรรมชาติให้กับพะยูน

ทั้งนี้ กรม ทช. จะเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำแผนการดำเนินงานร่วมกับกรมอุทยานฯ เพื่อเสนอของบกลางเป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วน ตลอดจนจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับการสำรวจและติดตามประชากรพะยูน เพื่อการวางแผนอนุรักษ์ต่อไปในระยะยาว ที่ผ่านมากรม ทช. ได้มีการวางแนวทางจัดเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์พะยูนเกยตื้นในทุกพื้นที่ ภายใต้โครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยให้มีการสอบอบรมการช่วยเหลือพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก รวมถึงสร้างโรงพยาบาลสัตว์ทะเลหายากในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และระยอง เพื่อรองรับการช่วยเหลือหรือดูแลพะยูนและสัตว์ทะเลหายากที่ป่วย อีกทั้งทำงานร่วมกับกลุ่มเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเล และส่งมอบสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้กับชุมชนในพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล ร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์พะยูนและแหล่งหญ้าทะเลอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปยังผู้ประกอบการเดินเรือ กลุ่มนักท่องเที่ยวเรือเจ็ทสกีให้ช่วยกันระมัดระวังขณะเดินเรือ หรือทำกิจกรรมทางทะเล ให้ชะลอความเร็วหากเข้าใกล้ฝั่ง รวมถึงเขตพื้นที่คุ้มครองพะยูนและหญ้าทะเล อีกทั้งเน้นย้ำให้พี่น้องชาวประมงช่วยดูแลและเฝ้าระวัง หมั่นตรวจเช็คเครื่องมือประมงขณะทำประมงอย่างต่อเนื่อง งดใช้เครื่องมืออวนขนาดใหญ่ และหลีกเลี่ยงการทำประมงบริเวณแหล่งหญ้าทะเลหรือพื้นที่การแพร่กระจายของพะยูน เพื่อป้องกันไม่ให้พะยูนติดอวนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตลอดจนงดเว้นการเดินเรือผ่านแหล่งหญ้าทะเล หรือหากจำเป็นต้องใช้เส้นทาง ควรใช้ความเร็วไม่เกิน 3 น๊อต ในส่วนกรณีหากพบเห็นพะยูนบาดเจ็บหรือเกยตื้นตาย สามารถแจ้งข่าวสารให้กับกรม ทช. หรือโทรแจ้งสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล หมายเลข 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือและนำส่งศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายากต่อไป “

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ จังหวัดตรัง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมและเขตห้ามล่าสัตว์ป่าลิบง เดิมเป็นพื้นที่แหล่งหญ้าทะเลที่อุดมสมบูรณ์ จากการสำรวจพบว่า หายไปกว่าสองหมื่นไร่ ซึ่งมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ พื้นที่ที่เป็นแหล่งของการเกิด การอยู่อาศัย การเกิดขึ้นของหญ้าทะเลก็ลดลง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลและเป็นส่วนหนึ่งที่มองว่าจะทำอย่างไรให้หญ้าทะเลกลับคืนมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง สำหรับเรื่องเร่งด่วนที่กรมอุทยานฯ ได้รับมอบหมายจากท่านรัฐมนตรี คือ กรมอุทยานฯ จะนำเงินรายได้ของกรมฯ มาจัดทำคอกอนุบาลพะยูนก่อน ตามที่อธิบดีกรม ทช. ได้กำหนดพื้นที่ควบคุม เร่งอนุบาลพะยูนที่สุขภาพไม่แข็งแรง และเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดภัยคุกคาม


พร้อมกันนี้จะเร่งจัดทำแผนงบประมาณโดยจะขอสนับสนุนจากงบประมาณกลางของรัฐบาล เพื่อนำมาสร้างศูนย์ฟื้นฟู ศูนย์เพาะเลี้ยงหญ้าทะเล งานวิจัย และการลาดตระเวนเฝ้าระวังที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองพะยูนทุกมาตรการ ถ้าทุกฝ่ายเร่งดำเนินการ ตนเชื่อมั่นว่าในอนาคตพะยูนจะกลับมามากขึ้นเหมือนเดิม ทั้งนี้ ในส่วนของการทำคอกให้พะยูนได้มีการหารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว โดยจะเลือกบริเวณหาดราไวย์ และหาดบางขวัญ ป่าคลอก รวมทั้งจะมีการดำเนินการในพื้นที่อื่นๆ อีกต่อไป โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่อ่าวพังงาเป็นพื้นที่แหล่งพะยูนได้มีการอพยพมาด้วย. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ.-สำนักข่าวไทย

หกเดือนหก กองทัพอากาศเตรียมความพร้อม สั่งวันนี้ ส่งทันที ถึงที่หมาย

กองทัพอากาศ 6 มิ.ย.- กองทัพอากาศ เผยพร้อมติดตั้งระเบิด เครื่องบินรบ แสดงความพร้อมกำลังพล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจกองทัพอากาศ เผยข้อความ หกเดือนหก (6.6)⚡กองทัพอากาศ เตรียมความพร้อม สั่งวันนี้ • ส่งทันที • ถึงที่หมาย ฝูงบิน 103 กองบิน 1เครื่องบิน F-16 นามเรียกขาน ” Lightning “ติดตั้งระเบิด พร้อมขึ้นปฏิบัติการสายฟ้าฟาด ปกป้องอธิปไตย พร้อมกันนี้ มีการติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ด้วย.-313.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ถก สมช. ชี้รัฐบาล-กองทัพ ไร้ปัญหา ทำงานเป็นเอกภาพ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.-นายกฯ ถก สมช.แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้รัฐบาลกับกองทัพ เคลียร์อำนาจหน้าที่แล้วไร้ปัญหา ย้ำ ทำงานเป็นเอกภาพ รักษาเอกราชอธิปไตยของประเทศ พร้อมรับทุกสถานการณ์ ยึดสันติวิธี บอกมอบหน้างานประเมินหากต้องปะทะ ทุกอย่างยังโอเค ยืนยันรัฐบาลทำงานไม่ช้า กำชับ ก.ดีอี ดูเนื้อหาปลุกปั่นหวั่นขยายขัดแย้ง ด้าน ผบ.ทสส. ลั่น กองทัพพร้อมหนุนรัฐบาล แจงประชุมเหล่าทัพไม่เชิญสื่อ ขอทำงานมืออาชีพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เพื่อหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้มีการพูดคุยถึงมาตรการต่างๆ ในการรับมือสถานการณ์ หลังจากเมื่อวานนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปคุยกับทีมกัมพูชา ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้สถานการณ์ยังโอเคอยู่ และยืนยันว่า ทุกหน่วย ทุกฝ่ายทั้งกองทัพและรัฐบาลมีการปรึกษากันตลอดก่อนที่จะดำเนินการใดใด อำนาจไหนที่เป็นของใคร และทุกคนทราบในอำนาจของตัวเองเป็นอย่างดี และวันนี้สิ่งที่ต้องการคือความเป็นเอกภาพในการทำงานทั้งหมด ซึ่งวันนี้ ได้คุยกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี […]

คปท.รวมตัวหน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงจุดยืนกรณีพิพาทพรมแดน

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ชูธงชาติไทย-ป้ายสัญลักษณ์ หน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงเจตจำนงปกป้องประเทศชาติ กรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ได้เดินทางมารวมตัวกันบริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง เพื่อเคลื่อนไหวจากกรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ต่างประดับประดาด้วยธงชาติ และชูป้ายสัญลักษณ์ข้อความแสดงอุดมการณ์เจตนารมณ์ถึงการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้นำรถขยายเสียงมาพูดปราศรัยแสดงเจตจำนงที่จะปกป้องประเทศชาติในช่วงสถานการณ์พิพาทระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้มีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชา เปิดกระจกออกมาเพื่อใช้มือถือถ่ายภาพการชุมนุมเป็นระยะๆ สำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ทาง สน.วังทองหลาง และ บก.น.4 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 หมวด ประมาณ 100 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ วางกำลังดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา พร้อมนำแผงรั้วเหล็กกั้นมาวางเป็นแนวยาว เพื่อไม่ให้ม็อบเข้าประชิดติดตัวกำแพงสถานเอกอัครราชทูต เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะส่งผลต่อความมั่นคงระหว่าง 2 ประเทศ.-414-สำนักข่าวไทย