นายกฯ ห่วงน้ำท่วม กทม. สั่งเดินหน้ามาตรการรับฝน

กรุงเทพฯ 1 มิ.ย.-นายกฯ ห่วงฝนตกหนัก น้ำท่วม กทม. สั่งการทุกหน่วยเร่งเดินหน้า 10 มาตรการรับมือฤดูฝน สทนช. ผนึกกำลังเร่งวางแผนทั้งระบบ ป้องกันไม่ให้ “น้ำฝน-น้ำเหนือ-น้ำหนุน” บรรจบกัน

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีห่วงสถานการณ์น้ำในฤดูฝน 2567 จากที่จะเกิดสภาวะลานีญา รวมถึงผลคาดการณ์ปริมาณฝนซึ่งปีนี้อาจมีฝนตกมากกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 10% จึงเกรงว่า อาจกระทบพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล นายกรัฐมนตรีจึงเรียกหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งกรุงเทพมหานคร สทนช. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมราชทัณฑ์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นต้น ร่วมประชุมหารือเพื่อเตรียมการรับมือปัญหาน้ำท่วม โดยได้กำชับให้กทม. และสทนช. ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและดำเนินการตาม 10 มาตรการฤดูฝน ปี 2567 อย่างเคร่งครัด พร้อมบูรณาการทุกหน่วยงานวางแผนจัดลำดับความสำคัญในการบริหารจัดการน้ำและการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่เสี่ยงที่เป็นชุมชนแออัดเป็นหลั เพราะทุกครั้งที่ฝนตกเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ชุมชน ประชาชนใช้ชีวิตประจำวันได้ยากลำบากมาก


ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนรับสถานการณ์อย่างรัดกุมเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด พร้อมให้เร่งขุดลอกคูคลองและสร้างคันกั้นน้ำให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2567 ก่อนที่ฝนจะตกหนักในช่วงเดือนกันยายน 2567 ตลอดจนการเตรียมความพร้อมของระบบระบายน้ำและสถานีสูบน้ำ โดยเฉพาะอุโมงค์ระบายน้ำ ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ กทม. เร่งรัดการจัดทำแผนปฏิบัติการตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝนของรัฐบาล ทั้งการคาดการณ์ ชี้เป้าหมายพื้นที่เสี่ยง และแจ้งเตือนประชาชน การเตรียมความพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือ ระบบระบายน้ำ บุคลากรประจำพื้นที่เสี่ยง ตรวจสอบความพร้อมติดตามความมั่นคงปลอดภัย คันกั้นน้ำ ทำนบ พนังกั้นน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของทางน้ำ พร้อมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชนในการให้ข้อมูลสถานการณ์น้ำที่ถูกต้อง และการสร้างการรับรู้ ศูนย์บริการข้อมูลสถานการณ์น้ำและประชาสัมพันธ์ ตลอดจนการติดตามประเมินผลและปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ภัย เป็นต้น พร้อมรายงานให้ สทนช. รับทราบอย่างต่อเนื่อง


เลขาธิการ สทนช. กล่าวต่อว่า สาเหตุหลักที่ทำให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ และปริมณฑลมาจาก 3 สาเหตุคือ “น้ำฝน” ที่ตกหนักในพื้นที่ “น้ำเหนือ” ที่ไหลมาจากภาคเหนือและภาคกลางตอนบน และ “น้ำหนุน” คือ ภาวะน้ำทะเลหนุน ดังนั้นการแก้ปัญหาจะต้องบูรณาการร่วมกันทำงานวางแผนรับมืออย่างเป็นระบบ ตั้งแต่พื้นที่ตอนบน ตอนกลาง และตอนล่าง ก่อนระบายน้ำออกสู่ทะเล โดยกรุงเทพมหานครและกรมชลประทาน จะติดตามสถานการณ์น้ำเหนืออย่างใกล้ชิดและกำหนดเกณฑ์ในการบริหารจัดการน้ำร่วมกัน

กรมชลประทานจะมีการตัดยอดน้ำและหน่วงน้ำในพื้นที่ตอนบนโดยใช้แก้มลิงเช่น ทุ่งบางระกำ บึงราชนก บึงบอระเพ็ด เป็นต้น คาดว่า จะสามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่า 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แล้วค่อยๆ ปล่อยลงมาสู่พื้นที่ตอนกลางและตอนล่าง

ส่วนพื้นที่ตอนกลางจะวางแผนจัดจราจรการระบายน้ำ โดยผันน้ำส่วนหนึ่งออกฝั่งตะวันออกผ่านคลองชัยนาท-ป่าสักและผันออกฝั่งตะวันตกผ่านคลองมะขามเฒ่า แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำน้อย เพื่อลดปริมาณน้ำเหนือที่จะไหลผ่านกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้อีกด้วย


สำหรับพื้นที่ตอนล่าง กทม. เตรียมพร้อมเฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำท่วมซึ่งมี 737 จุด โดยเร่งตรวจสอบจุดรั่วซึมของแนวป้องกันน้ำท่วม ตลอดริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อยและคลองมหาสวัสดิ์ พร้อมจัดเรียงกระสอบทรายในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันถาวร แนวฟันหลอและบริเวณแนวป้องกันที่มีระดับต่ำ และตรวจสอบสถานีสูบน้ำให้พร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งการติดตามข้อมูลสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ เร่งรัดกำจัดวัชพืช ขยะและสิ่งกีดขวางทางน้ำอื่นๆ ตลอดจนการประสานขอความร่วมมือจากกรมราชทัณฑ์และกองทัพบก เพื่อเร่งขุดลอกท่อระบายน้ำทั่วกรุงเทพฯ

พร้อมกันนี้ให้เตรียมพร้อมทั้งด้านบุคลากร วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลที่เหมาะสม พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ประจำจุดสูบน้ำให้สามารถเร่งแก้ไขปัญหาได้ตามแผนที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะพื้นที่เขตชุมชนและพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการเตรียมแผนในการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทางหลวง ในการช่วยเร่งระบายน้ำท่วมถนน เป็นต้น รวมทั้งให้คนในชุมชนช่วยเฝ้าระวังและแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงหรือแนวคันกั้นน้ำชำรุด กลับมายัง สทนช. เพื่อประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขได้ทันเวลา ซึ่งมั่นใจว่า จะสามารถช่วยลดผลกระทบและบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ เรื่อง พายุ “มาลิกซี” โดยระบุว่า เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันนี้ (1 มิ.ย.67) พายุโซนร้อน “มาลิกซี” ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองหยางเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนแล้ว และเมื่อเวลา 04.00 มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 21.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนทางตะวันออกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับในระยะต่อไป

พายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย แต่ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในระยะนี้ไว้ด้วย.-512.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลทหารชั้นฎีกา พิพากษารอลงอาญา 2 ปี จำเลยคดี “น้องเมย”

22 ก.ค. – 8 ปีที่รอคอย “คดีน้องเมย” นักเรียนเตรียมทหารปี 1 เสียชีวิต ศาลทหารชั้นฎีกา พิพากษาจำคุก 4 เดือน 16 วัน รอลงอาญา 2 ปี จำเลยไม่เคยได้รับโทษ ลงโทษไปไม่เป็นประโยชน์ ให้ปรับปรุงตัวรับราชการรับใช้ชาติต่อไปจะเป็นประโยชน์มากกว่า คดี “น้องเมย” นักเรียนเตรียมทหาร เสียชีวิตปริศนาเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2560 ขณะศึกษาอยู่ในโรงเรียนเตรียมทหาร ใบมรณบัตรระบุเพียงว่าเกิดจาก “ภาวะหัวใจล้มแล้วเฉียบพลัน” ขณะที่คนในครอบครัวตัญกาญจน์ ยืนยันว่าเป็นการเสียชีวิตที่ผิดปกติ จนนำมาสู่การส่งร่างผ่าพิสูจน์รอบ 2 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม หลังผลการผ่าพิสูจน์ในรอบแรกของสถาบันพยาธิวิทยา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า สร้างความคลางแคลงใจให้เป็นอย่างมาก กระทั่งผลการผ่าพิสูจน์รอบ 2 พบว่าสมอง ปอด และอวัยวะสำคัญหลายส่วนหายไป นอกจากนี้ยังพบรอยช้ำตามร่างกายหลายแห่ง ซึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่ทางครอบครัวยังคงเดินหน้าฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องในหลายคดี ด้วยหวังที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับน้องเมย ด้านการดำเนินคดีอาญานั้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในช่วงแรก คือวันที่ 23 […]

“แพทองธาร” เปิดเวทีดินเนอร์พรรคร่วม เชื่อมีโอกาสกลับมารับใช้ ปชช.-สถาบัน

พญาไท 22 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดเวทีดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ขอบคุณตลอด 1 ปี หนุนในฐานะนายกฯ มั่นใจเอกภาพรัฐบาลผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ บอกแม้ไม่ได้อยู่ในฐานะนายกฯ แต่ไม่เคยวางภาระสักวัน ยืนยันเจตนาบริสุทธิ์ เชื่อมีโอกาสกลับมารับใช้ประชาชน – สถาบัน พรรคร่วมรัฐบาลนัดรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน โดยมีพรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าภาพจัดงานภายใต้ชื่อ “สามัคคีประเทศไทย ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน” ซึ่งมีทั้งรัฐมนตรี แกนนำพรรค สส.และข้าราชการการเมืองพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาบรรยายพิเศษด้วย สำหรับบรรยากาศภายในห้องจัดเลี้ยง ได้มีการจัดโต๊ะอาหาร โดยแบ่งเป็นโต๊ะยาว หรือ Long Tableขนาดใหญ่สำหรับรัฐมนตรี นั่งร่วมกับบรรดาหัวหน้าและแกนนำระดับสูงพรรคร่วมรัฐบาล จำนวน 2 โต๊ะ ส่วนที่เหลือเป็นโต๊ะกลมสำหรับ สส.พรรคร่วมรัฐบาล โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั่งร่วมโต๊ะกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ,นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี […]

จ.น่าน เมืองหน้าด่าน พร้อมรับ “พายุวิภา”

น่าน 22 ก.ค. – พายุวิภาเริ่มอ่อนกำลังลง แต่เคลื่อนเข้าใกล้ไทยมากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มทำให้หลายพื้นที่ภาคเหนือมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะ จ.น่าน เป็นเหมือนด่านหน้ารับพายุวิภา ชาวบ้านเตรียมพร้อมรับมือ กลางเมืองน่าน ซึ่งฝนยังคงตกต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงบ่ายจากฤทธิ์ของพายุวิภาที่เคลื่อนตัวมาใกล้เรื่อยๆ หลังขึ้นฝั่งเวียดนามและเคลื่อนตัวเข้าลาว ซึ่ง จ.น่าน อยู่ห่างจากเวียงจันทน์ ไม่ถึง 400 กิโลเมตร และรัศมีของพายุจะทำให้ฝนตกต่อเนื่องไปอีก 1-2 วัน ทำให้ชาวน่านต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ขั้นสูงสุด ตอนนี้ตามบ้านเรือน อาคารร้านค้าในตัวเมืองน่าน เต็มไปด้วยแนวกระสอบทรายถูกวางไว้เพื่อกันน้ำท่วม ซึ่งหลายคนกังวลว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่จากฝนที่ตกต่อเนื่อง ขณะที่ระดับน้ำน่านที่ไหลผ่านตัวเมืองน่าน ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 4 เมตรกว่า ห่างจากจุดวิกฤติที่ 7 เมตร แต่ถ้ารวมพนังกั้นน้ำจะกันน้ำได้สูงสุด 8 เมตร 50 เซนติเมตร นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ลงพื้นที่ตรวจจุดเสี่ยงที่น้ำจะทะลักเข้ามา พร้อมบอกว่าตอนนี้ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ เนื่องจากพายุวิภาทำให้ฝนตกครอบคลุมทั้ง 15 อำเภอ โดยเฉพาะ อ.ท่าวังผา ที่คาดว่าจะเป็นศูนย์กลาง คาดว่าฝนจะตกต่อเนื่อง โดยจุดพีคน่าจะอยู่ช่วงคืนวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ […]

ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเริ่มแล้ว “ทักษิณ” จ่อบรรยายพิเศษ

พญาไท 22 ก.ค.- เริ่มแล้ว ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล “ทักษิณ” ร่วมวง เตรียมบรรยายพิเศษ เผยมาคุยเรื่องการเมือง ขณะแกนนำพรรคร่วมมางานพร้อมเพรียง พรรคร่วมรัฐบาลจัดงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท เพื่อกระชับความสัมพันธ์ หลังปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ภายหลังพรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพบปัญหาเรื่ององค์ประชุม โดยถือว่าเป็นครั้งเเรกที่ได้เชิญสส.ของแต่ละพรรคร่วมฯ เข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยในรัฐบาลของ นางสาวเเพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้จัดไปแล้วหนึ่งครั้ง ในสมัยของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โดยงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน ภายใต้ชื่อ “สามัคคีประเทศไทย ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน” ได้เชิญ บรรดารัฐมนตรี หัวหน้าพรรค แกนนำ และสส. ของพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่ไฮไลท์วันนี้ มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาร่วมบรรยายพิเศษ ด้วย ขณะที่ในเวลาประมาณ 17.00 น. บรรดาแกนนำเพื่อไทย และสส.เดินทางเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง […]