อุบลราชธานี 12 ม.ค.-“ชัยวัฒน์” ชี้เงินสดในห้องทำงาน “อธิบดีรัชฎา” ไม่ใช่เงินเช่าพระ ตามที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานในพื้นที่ จ.ปัตตานี เจ้าของซองเงินสดดังกล่าวเข้าให้ปากคำตำรวจ ปปป. พร้อมเรียกร้องเจ้าหน้าที่ทุกสำนักให้การตามจริง เชื่อตำรวจและ ป.ป.ช. จะเห็นใจที่ถูกบังคับให้จ่ายเพื่อไม่ให้ถูกโยกย้าย
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) กล่าวถึงข่าวที่ว่า พนักงานสอบสวน บก.ปปป. เรียกพยานตามรายชื่อที่ปรากฏบนซองเงินสดในห้องทำงานของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยพยานรายแรกที่เข้าให้ปากคำเป็นเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ซึ่งให้การว่า เงิน 100,000 บาท ที่นำไปมอบให้นายรัชฎา เป็นเงินบูชาพระบรมรูปจำลอง รัชกาลที่ 5 และไม่ใช่เงินสินบนนั้น นายชัยวัฒน์ ระบุว่า เป็นการให้ข้อความอันเป็นเท็จต่อพนักงานสอบสวน หากผู้ให้การชี้แจงรายละเอียดที่ลึกลงไปกว่านี้ไม่ได้
ทั้งนี้นายชัยวัฒน์ ได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการจ่ายเงินค่าบูชาพระบรมรูปที่สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติฯ เป็นผู้ดำเนินการแล้วว่า จ่ายองค์ละ 15,000 บาท โดยการโอนผ่านเข้ากองทุนสวัสดิการกรมอุทยานแห่งชาติฯ ไม่ใช่การนำเงินสดมามอบให้ห้องทำงานของนายรัชฎาอย่างแน่นอน ตลอดจนการโอนของทุกสำนักรวม 21 สำนัก ปรากฏเป็นเอกสารการโอนเป็นสำคัญซึ่งมอบแก่พนักงานสอบสวนปปป. แล้ว ดังนั้นเงินค่าบูชาพระบรมรูป รัชกาลที่ 5 จึงไม่เกี่ยวข้องกับเงินสดที่พบในห้องทำงานของอธิบดี
นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้หัวหน้าหน่วยงานภาคสนามและผู้อำนวยการส่วนต่างๆ ของทุกสำนักให้การตามความเป็นจริง โดยเชื่อว่า พนักงานสอบสวนบก .ปปป. และ ปปช จะเห็นใจและให้ความชอบธรรมแก่ทุกคนที่ถูกบังคับให้จ่ายเงิน ไม่เช่นนั้นต้องถูกโยกย้าย
นายชัยวัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ถูกจับกุมฐานเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา มีคนสนิทของอธิบดีโทรศัพท์กดดันผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ต่างๆโดยอ้างตำแหน่งพร้อมระบุว่า ยังมีอำนาจอยู่ ย้ำให้แจ้งแก่ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ผู้อำนวยการส่วนจัดการต้นน้ำ ผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ ผู้อำนวยการส่วนโครงการพระราชดำริและกิจการพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หัวหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำ หัวหน้าสถานีควบคุมฟป่า หัวหน้าโครงการพระราชดำริว่า หากมีเจ้าหน้าที่เรียกสอบให้ให้การว่า เงินที่พบในห้องทำงานอธิบดี เป็นเงินที่รวบรวมส่งให้ฝ่ายบริหารเพื่อระดมทุนเข้ามาช่วยเหลือในกองทุนต่างๆ เช่น กองทุนช่วยเหลือแก้ไขปัญหาช้างป่า ค่าบูชาบรมรูปจำลอง รัชการที่ 5 ซึ่งมีการบูชากันเมื่อไม่นานมานี้ ค่าสมทบทุนสร้างพระซึ่งอธิบดีมีแนวคิดจะสร้างพระ หรือกองทุนสนับสนุนเครือข่ายแก้ไขปัญหาไฟป่า
นายชัยวัฒน์ยังขอโทษเจ้าหน้าที่ทุกคนซึ่งเป็นผู้ปกป้องพิทักษ์ป่าที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ โดยสิ่งที่ตนทำนั้นไม่ได้ต้องการกลั่นแกล้งใคร แต่ต้องการช่วยเหลือหัวหน้าหน่วยงานที่ถูกบังคับให้ต้องจ่ายเงินเพื่อแลกกับการรักษาตำแหน่งซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง.-สำนักข่าวไทย