ตรวจเลือด “ช้างตุลา” ไม่พบเชื้อเฮอร์ปีส์ ฟื้นฟูสุขภาพต่อเนื่อง

ชลบุรี 22 พ.ย. – กรมอุทยานแห่งชาติฯ ตรวจเลือดลูกช้างป่าหลงโขลง “น้องตุลา” เป็นครั้งที่ 2 ไม่พบเชื้อเฮอร์ปีส์ ซึ่งเป็นเชื้อที่มักคร่าชีวิตลูกช้าง แต่ไม่วางใจ จึงฟื้นฟูสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน พิจารณาหาพื้นที่อนุบาลใหม่ที่มีช้าง “แม่รับ” ดูแล ย้ำจะคำนึงถึงความพร้อมของลูกช้างเป็นสำคัญ


นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) กล่าวว่า ขณะนี้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อนุบาลลูกช้างป่าหลงโขลง “น้องตุลา” อยู่ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว สัตวแพทย์ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นครั้งที่ 2 ปรากฏว่า ไม่พบเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ จากที่ก่อนหน้านี้สงสัยว่า ลูกช้างอาจป่วยด้วยเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ จึงเป็นสาเหตุให้ถูกโขลงทิ้ง แต่ไม่ได้วางใจ เนื่องจากเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์จะแฝงอยู่ในลูกช้าง หากร่างกายอ่อนแอ หรือเกิดภาวะเครียด จะแสดงอาการโดยส่งผลต่อระบบเลือด ทำให้อวัยวะภายในล้มเหลว และทำให้ลูกช้างล้มในที่สุด ดังนั้นจึงได้ให้ยาต้านไวรัสกินอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสริมด้วยยาบำรุงต่างๆ

หลังจากที่พบลูกช้างเพศผู้ตัวนี้ เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา แล้วนำมาอนุบาลที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ได้ให้เจ้าหน้าที่ดูแล “น้องตุลา” อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยลูกช้างกินนมวันละ 13-14 ลิตร น้ำหนัก 90.30 กิโลกรัม ร่าเริง ซุกซน และไม่มีอาการซึม ตอนกลางคืนห่มผ้าและจุดไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่นตลอดทั้งคืน พาเดินออกกำลังกายทุกวัน ซึ่ง “น้องตุลา” ชอบมาก ยกเว้นวันที่ฝนตก อย่างเช่นวานนี้ไม่ได้พาออกไปเล่นกลางแจ้ง น้องตุลามาคอยริมคอกจนยืนหลับไป


กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะพิจารณาหาสถานที่ที่เหมาะสมในการนำ “น้องตุลา” ไปอนุบาลต่อ โดยจะหาช้าง “แม่รับ” มาดูแลและสอนการใช้ชีวิตตามธรรมชาติของช้าง แต่ต้องรอให้ลูกช้างหย่านม และแน่ใจว่าสุขภาพแข็งแรงก่อน โดยการเคลื่อนย้ายลูกช้างขณะนี้ อาจไม่เป็นผลดี ส่วนการคืนลูกช้างป่าสู่ธรรมชาติดังที่ทำในกรณี “น้องทับเสลา” ลูกช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี ที่พลัดหลงโขลง ซึ่งต่อมานำไปอนุบาลที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง จังหวัดลำปาง เป็นแนวทางที่จะพิจารณาอีกครั้งในอนาคตที่ต้องคำนึงถึงความพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพร้อมของลูกช้างเป็นสำคัญ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม

กกต.ขอบคุณ ปชช.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

เลขาธิการ กกต. แถลงสถานการณ์หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งหายที่จังหวัดบึงกาฬ

นายกฯ วิดีโอคอลให้กำลังใจ 5 คนไทยที่อิสราเอล

นายกรัฐมนตรี วิดีโอคอลให้กำลังใจ 5 คนไทยที่อิสราเอล ดีใจทุกคนสุขภาพแข็งแรงดี อยากให้ตรวจเช็กให้เรียบร้อยก่อนกลับไทย ยืนยันรัฐบาลดูแลสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่