กรุงเทพฯ 21 พ.ย.- กรมอุทยานแห่งชาติฯ ลุยปราบปรามขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติต่อเนื่อง เป็นการขยายผลการจับกุมผู้ลักลอบซื้อขายลูกเสือโคร่ง พนักงานสอบสวนเผยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ซื้อขายลูกเสือโคร่ง ล่าสุดยังจับกุมชาวลาวที่นำซากกระจงและกระรอกบินจำนวนมากเข้ามาขายในฝั่งไทย
นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนสภ.เมืองมุกดาหารเกี่ยวกับคดีที่นายถนัด วงศ์สาร เป็นผู้ต้องหา จากการลักลอบนำลูกเสือโคร่ง 4 ตัว จากประเทศลาว เข้ามาขายที่จังหวัดมุกดาหาร ทราบว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเฉพาะข้อกล่าวหาครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง และข้อกล่าวหานำเข้าและส่งออกสัตว์ป่าคุ้มครอง
พนักงานสอบสวนได้ฝากขังผู้ต้องหา ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 โดยคัดค้านการประกันตัว ขณะนี้กำลังเร่งขยายผลจับกุมและดำเนินคดีผู้ร่วมขบวนการ โดยติดตามตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าผู้ต้องหาจะใช้เป็นเส้นทางในการเดินทางเข้า-ออกประเทศ
สำหรับเสือโคร่ง (Panthera tigris) เป็นชนิดพันธุ์ในบัญชี 1 อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (The Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora : CITES) ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ห้ามค้าโดยเด็ดขาด ยกเว้นเพื่อการศึกษา วิจัย หรือเพาะพันธุ์ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากประเทศที่จะนำเข้าเสียก่อน ประเทศส่งออกจึงจะออกใบอนุญาตส่งออกได้ ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงความอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้นๆ ด้วย ตัวอย่างชนิดพันธุ์ในบัญชี 1 เช่น ช้างเอเชีย เสือโคร่ง ลิงอุรังอุตัง จระเข้น้ำจืด จระเข้น้ำเค็ม เต่ามะเฟือง ปลายี่สกไทย เป็นต้น
นายนฤพนธ์ กล่าวต่อว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ออกตรวจเพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 5 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ได้ออกตรวจบริเวณจุดผ่อนปรน ตลาดเปงจาน อำเภอรัตนวาปี จังหวัดหนองคาย อีกครั้ง หลังจากที่สามารถตรวจยึดซากสัตว์ป่าที่มีผู้นำมาจำหน่ายในตลาดได้ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยพบว่ายังมีกลุ่มลักลอบค้าสัตว์ป่านำสัตว์ป่าข้ามจากฝั่ง สปป ลาว เข้ามาลักลอบขายให้กับคนไทยที่อยู่ฝั่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ได้ประสานด่านตรวจสัตว์ป่าจังหวัดหนองคาย สายตรวจปราบปรามฯ สบอ.10 (อุดรธานี) นายอำเภอรัตนวาปี สถานีเรือรัตนวาปี หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตหนองคาย มว. สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดที่ 2 กก.3 บก.ปทส. เข้าตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งจากสายข่าว พบการกระทำผิด 3 คดี ดังนี้
– คดีที่ 1 จับกุมตัวผู้ต้องหา 1 คน คือ นางบุญตอม แสงวันเพ็ญ อายุ 36 ปี อยู่บ้านหาดดอนคูณ แขวงบอลิคำไซ สปป ลาว พร้อมด้วยของกลางเป็นซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือ ซากกระจงเล็ก 1 ซาก
– คดีที่ 2 จับกุมตัวผู้ต้องหา 1 คน คือ นางอ้น จันทะบูน อายุ 45 ปี อยู่บ้านนาโล่ แขวงบอลิคำไซ สปป ลาว พร้อมด้วยของกลางเป็นซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือ ซากกระรอกบินสีเขม่า 4 ซาก ซากกระรอกบินแก้มสีแดง 6 ซาก
– คดีที่ 3 พบว่ามีการซุกซ่อนซากสัตว์ป่าไว้ที่ข้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโพนแพง ไม่พบผู้ใดแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของซากสัตว์ป่าดังกล่าว จากการตรวจสอบพบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ได้แก่ ซากกระรอกบินสีเขม่า 57 ซาก ซากกระรอกบินแก้มสีแดง 10 ซาก และซากกระจงเล็ก 2 ซาก
คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนวาปี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย