“ลำไย” เคลียร์ประเด็นมือที่ 3 ขอลองปรับตัวหากันอีกครั้ง

ลำใยไหทองคำ

4 มี.ค. – ปรับอารมณ์กันแทบไม่ทัน เมื่อวานนี้แฟนๆ ช็อกข่าวปิดฉากรัก 9 ปี ล่าสุด “ลำไย” โพสต์ยาวเคลียร์ทุกเรื่อง โดยเฉพาะประเด็นมือที่ 3 หลังโพสต์เลิก ปุ้ย L.กฮ. และจะขอลองปรับตัวเข้าหากันอีกครั้ง


ลำใย ไหทองคำ ออกมาโพสต์ยาว กรณีโพสต์เลิก “ปุ้ย” ยืนยันว่าไม่ได้มีมือที่สาม ปัญหาเรื่องจุกจิกเล็กน้อยที่เป็นปัญหากันมานาน ไม่เกี่ยวกับเรื่องแดนซ์ชาย เรื่องที่เพจต่าง ๆ โพสต์เรื่องลำไยกับแดนซ์ชาย คือคุยกันจริงค่ะ แต่คุยช่วงที่ตกลงกับพี่ปุ้ยว่าลองไปใช้ชีวิตแบบไม่มีกันดูค่ะ และเรื่องนี้จบไปพักใหญ่แล้วค่ะ

สาเหตุที่โพสต์เลิกกันมาจากปัญหาสะสมเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ปรับแก้กันไม่ลงตัวสักที ตามที่เราเคยพูดกันหลายครั้งเกี่ยวกับปัญหาเล็ก ๆ น้อย แต่ก็ยังไม่ลงตัว จนมีช่วงที่พี่ปุ้ยไปทัวร์คอนเสิร์ต แล้วลงไปอยู่ใต้ เราได้ตกลงกันว่าเราลองใช้ชีวิตแบบไม่มีกันดูมั้ย จะได้รู้ว่าจริง ๆแล้วเรายังต้องการกันอยู่หรือเปล่า หรือว่าเราจะคิดถึงกันมั้ยเราอยู่ได้มั้ย ถ้าไม่มีกันอยู่ได้มั้ย ตอนนี้เราอยู่กันเพราะความรักหรือความเคยชินที่มีกันเฉย ๆ แล้วถ้าช่วงที่เราห่างกันไป มีคนเข้ามาแล้วเรารู้สึกโอเคกว่าตอนที่เรามีกันก็บอกกัน เราตกลงกันแบบนี้ ช่วง 5-6 เดือนที่พี่ปุ้ยอยู่ใต้ ไป ๆ มา ๆ บ้าง ถ้าเข้าบ้านส่วนมากจะมาช่วงที่หนูไปงานต่างจังหวัด ระหว่างนี้เราคุยกันน้อยลงจากเดิม แต่ก็ยังถามสารทุกข์สุกดิบกัน และอัปเดตชีวิตกันอยู่เรื่อย


จากนั้นมีช่วงที่ลองคุยกับชายที่ชื่อบอส แต่ก่อนจะคุยหนูได้ถามย้ำไปกับพี่ปุ้ยว่าตกลงเรายังไง พี่จะกลับมาอยู่บ้านมั้ย แต่ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนค่ะ ตอบแค่ว่ายังไม่รู้เลย ตอนนี้ปุ้ยกำลังทำบ้านที่ใต้อยู่ หนูก็เลยบอกไปว่างั้นหนูจะลองคุยกับคนอื่นนะคะ พี่ปุ้ยบอกว่าถ้าลองคุยแล้วโอเคหรือไม่โอเคก็บอกนะครับ ตอนนี้ปุ้ยไม่ได้มีใคร แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นและไม่ได้โหยหา ปุ้ยเข้าใจขีวิตวัยรุ่น หลังจากนั้นเราก็คุยกับบอส แต่ก็อัปเดตพี่ปุ้ยบ้างว่าเป็นยังไง พี่ปุ้ยก็รับรู้ค่ะ

ส่วนกรณีที่บอสมีแฟนอยู่แล้วทำไมถึงไปคุยได้ ลำไยบอกว่า เริ่มต้นจากที่บอสเข้ามาทำงานสักพักแล้วเวลากินข้าว หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันในวงด้วยกันแล้วน้องมักจะทะเลาะกับแฟนทางโทรศัพท์บ่อย ๆ จนเกิดการถามกันขึ้นในวง น้องก็เล่าให้ฟังบ้างเรื่องปัญหาที่ทะเลาะกัน และมีวันหนึ่งน้องทักมาหาส่วนตัวจะปรึกษาเรื่องการเต้นบนเวที เพราะมีบางช่วงที่ทะเลาะกับแฟนเพราะการหึงหวงการแสดงบนเวที เราก็รับฟังและให้คำปรึกษา เป็นจุดเริ่มต้นที่ได้พูดคุยกันทางแชต (เราเข้าใจว่าน้องเลิกกันแล้ว แต่จริง ๆ ไม่ได้เลิกกัน)

หลังจากนั้นไม่นานแฟนบอสมาเห็นแชตที่คุยกับเราเลยเป็นปัญหา วันนั้นต้องเรียกคนมาเต้นแทนกะทันหัน ตอนนั้นเรางง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นบอสก็ได้มาบอกความจริงของเรื่องทั้งหมด หนูเลยไปปรึกษาพี่ปุ้ยและทางค่าย ว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำยังไงดี และทางแฟนของบอสได้ติดต่อมาที่ค่ายพอดี ก็คุยกันหาตรงกลางกันว่าจะเอายังไงดี จะให้บอสออกจากวง ให้อภัยกันแล้วคบกันต่อ หรือว่าจะเลิกกัน แล้วให้ทางเราทำยังไงได้บ้างให้ซอพต์ต่อความรู้สึกของทุกฝ่าย


สรุปได้ว่าแฟนบอสขอเรียกเงิน 10 ล้าน ทางค่ายคิดว่ามันเยอะเกินไป เลยเสนอใหม่ว่าสามารถจ่ายให้ได้ 2 ล้าน น้องผู้หญิงโอเคมั้ย น้องก็ตกลงว่ารับเงิน 2 ล้านไปแล้วต่างคนต่างอยู่ น้องก็จะไปเรียนต่างประเทศ ไม่ได้ติดใจอะไรกันก็แยกย้ายกันไป

ส่วนบอสที่ต้องทำงานต่อ เพราะต้องทำงานใช้หนี้ที่ทางค่าย หลังจากนั้น หนู พี่ปุ้ย บอส ก็มาคุยกัน พี่ปุ้ยก็คุยกับบอสว่าให้ทำงานใช้หนี้ต่อได้ เป็นอันว่าจบปัญหาตรงนี้ไป

หลังจากเรื่องบอสจบไป หนูกับพี่ปุ้ยก็มาเปิดใจคุยกันอีกครั้ง สรุปได้ว่าตอนอยู่ด้วยกันน่าจะโอเคกว่าเลยลองมาปรับกันอีกทีเพราะเดินด้วยกันมาไกลแล้ว และก็ยังมีความผูกพันห่วงใยกันอยู่ จนมาถึงช่วงวันเกิดที่ผ่านมา พี่ปุ้ยรับปากว่าจะมางาน เตรียมชุดเตรียมของเรียบร้อย พอถึงช่วงเป่าเค้กหนูยังไม่เห็นคนที่บ้านมาถึงงานเลย ทั้งแม่ทั้งพี่ปุ้ย หนูเลยโทรไปถามสรุปว่าพี่ปุ้ยบอกว่าปุ้ยไม่ไปแล้ว แล้วก็บอกว่าจะให้คนมาส่งแม่ ซึ่งถึงเวลาเป่าเค้กแล้ว ตอนนั้นจำได้ว่าโกรธมาก ๆ แต่แขกก็มางานเยอะก็เลยปล่อยผ่านไปก่อน

หลังจากวันนั้นเราก็เริ่มตึง ๆ กัน คุยกันน้อยลง ทำอะไรนิดหน่อยก็ทะเลาะกันบ่อยขึ้น จนวันที่ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กก่อนจะโพสต์ได้ถามกันอีกทีว่าเราจะเอายังไง สรุปคือเราปรับกันไม่ได้แล้วใช่มั้ย ต่างคนก็ต่างไม่ยอมกัน น่าจะด้วยอารมณ์บวกกันการประชดประชันกัน พอได้คำตอบก็เลยโพสต์ไปตอนนั้นเลย

หลังจากโพสต์ไปไม่นาน พี่ปุ้ยก็โทรมาขอปรับความเข้าใจอีกครั้ง ซึ่งเราทั้งคู่ก็อารมณ์เย็นลงแล้ว สรุปได้ว่าเราขอลองปรับตัวเข้าหากันอีกรอบค่ะ.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตร.แจ้ง 2 ข้อหามือมีดทำร้าย “เป๊ก” คาดปมเข้าใจผิด

3 ส.ค.- ตำรวจ สน.หัวหมาก แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มวัย 21 ใช้มีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” นักร้องชื่อดัง บาดเจ็บที่คางเป็นแผลฉกรรจ์ อ้างถูกหาเรื่องก่อน เบื้องต้นคาดปมเข้าใจผิด จ่อสอบปากคำเพิ่มเติม เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 3 ส.ค.68 ร.ต.อ.ชัยนรินทร์ กวีพราหมณ์ รอง.สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด มีผู้บาดเจ็บ ภายในปั๊มน้ำมัน ซอยรามคำแหง 76 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมกำลังสายตรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.หัวหมาก และอาสามูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน พบร่างนายผลิตโชค หรือ เป๊ก อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณใต้คาง 1 แผล ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมิติเวช ส่วนผู้ก่อเหตุไม่หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ […]

เฝ้าระวังตลอดคืน พบโดรนปริศนาบินล้ำเขตแดนอรัญฯ

สระแก้ว 3 ส.ค.- พบโดรนปริศนาไม่ทราบฝ่ายบินล้ำแดนจากกัมพูชาเข้ามาในไทย ชาวบ้าน-ชรบ.ในพื้นที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เฝ้าระวังตลอดทั้งคืน คืนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น. ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยจุดที่ทีมข่าวเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างจากแนวชายแดนเพียง 2 กิโลเมตร บรรยากาศในพื้นที่ขณะนั้นมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ออกมาคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับแจ้งว่าอาจมีโดรนปริศนาเข้ามาในพื้นที่ ระหว่างที่ทีมข่าวกำลังสัมภาษณ์พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ พบโดรนลำหนึ่งบินเข้ามาจากเขตชายแดนฝั่งกัมพูชา ล้ำเข้ามาในอาณาเขตประเทศไทยลึกประมาณ 2 กิโลเมตร ขณะที่โดรนลำนั้นลอยอยู่เหนือพื้นที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้ไฟสปอร์ตไลต์กำลังแรงสูงร่วมกับแสงเลเซอร์จากอุปกรณ์ของทหาร ส่องไปยังโดรนปริศนาอย่างชัดเจน ทำให้เห็นลำตัวของโดรนแม้อยู่ในความมืด สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีการเปิดเผยว่าโดรนลำนั้นมีเป้าหมายใดหรือเป็นของฝ่ายใด ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงยังคงเพิ่มมาตรการตรวจตราและเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดหรือภัยคุกคามความมั่นคงในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ

3 ส.ค. – เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ ห้วงปะทะวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ (3 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา ทหารได้ทำลายบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ ซึ่งสามารถขึ้นมาถึงภูมะเขือได้ หลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ภูมะเขือ ผลักดันทหารกัมพูชาอยู่บนจะงอยหน้าผาออกไปทั้งหมด พร้อมทำลายกระเช้า และฐานทหารกัมพูชาด้านล่างภูมะเขือ โดยการใช้โดรนติดระเบิด ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพทหารทำลายบันไดช่องคานม้า ในระหว่างยึดพื้นที่ได้จากการเหตุปะทะช่วง 5 วันที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ชาวเชียงใหม่ร่วมจุดเทียนสดุดี 15 วีรบุรุษชายแดน

3 ส.ค.- ชาวเชียงใหม่ ร่วมกันจุดเทียน แสดงความไว้อาลัย สดุดี 15 วีรบุรุษทหารที่พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณ หน้าลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ตัวเมืองเชียงใหม่ ประชาชนได้รวมตัวทำกิจกรรมร้องเพลง เขียนข้อความ พร้อมโบกธงชาติไทย เพื่อส่งกำลังใจให้กับทหารที่อยู่แนวหน้า ชายแดนไทย-กัมพูชา และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย เพื่อเป็นการสดุดีทหาร 15 นายที่พลีชีพในการสู้รบปกป้องอธิปไตย อีกทั้งอ่านรายชื่อทหาร วางพวงหรีดและจุดเทียน แสดงความไว้อาลัยพร้อมทั้งยืนสงบนิ่ง อธิฐานขอให้เจ้าหน้าที่ที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ปลอดภัยทุกนาย นอกจากนี้ บริเวณย่านถนนท่าแพ หน้าอาคารพุทธสถานเชียงใหม่ มีการนำภาพทหารที่เสียชีวิตทั้ง 15 นายติดไว้ริมถนนและมีการตั้งโต๊ะเพื่อให้ประชาชน มาวางดอกไม้ แสดงความอาลัย -สำนักข่าวไทย