“ทวี” เผย “อดีต ผกก.โจ้” ทำร้ายตัวเอง-ไม่พบใครเข้าใกล้ห้องขัง

ผู้กำกับโจ้

กรุงเทพฯ 8 มี.ค. – ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม ร่วม รมว.ยธ. แถลงกรณีการเสียชีวิตของ “อดีต ผกก.โจ้” ไม่ได้ป่วยจิตเวช อ้างขอขังเดี่ยวถูกเพื่อนทำร้าย ปฏิเสธผู้คุมเป็นคนทำ ระบุเป็นการทำร้ายตัวเองเสียชีวิต ไม่พบใครเข้าใกล้ห้องขัง


เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ผ่านมา (8 มี.ค.) บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายเผด็จ หริ่งรอด ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม ร่วมชี้แจงกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้

พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งวันนี้ได้มีหน่วยงานทั้งหมด 4 ฝ่าย ประกอบด้วย อัยการ ฝ่ายปกครอง หมอ และพนักงานสอบสวน รวมถึงครอบครัวที่มีแม่ ภรรยา และน้องสาว ได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมไปถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้


เบื้องต้นได้รับรายงานว่าเป็นการฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอ โดยการใช้ผ้าขนหนูความยาว 30-40 ซม. ผูกกับลูกกรงประตู ผูกผ้าอยู่ในระดับหน้าอก และตายด้วยท่านั่งหย่อนก้น เหยียดขาตรงด้านหน้า ซึ่งมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพทางเดินที่ทำให้เห็นว่าไม่มีผู้ใดเข้า-ออกในห้องขังของอดีตผู้กำกับโจ้ มีเพียงแค่เจ้าหน้าที่ที่นำยาเข้าไปให้ตามเวลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบรับจากอดีตผู้กำกับโจ้ ก่อนจะพบว่าเสียชีวิตลงแล้ว ส่วนจะเป็นการเสียชีวิตก่อนผูกคอ หรือผูกคอก่อนเสียชีวิตนั้น จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ทางเราจะยังไม่ตัดประเด็นเรื่องที่ผู้อื่นทำให้ตาย

ส่วนในเรื่องของการชันสูตรพลิกศพ รวมไปถึงการวินิจฉัย ให้เป็นความเห็นของทางแพทย์ ซึ่งทางครอบครัวอยากให้นำศพไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ก่อนที่จะส่งศพคืนให้ญาติ ส่วนญาติที่ติดใจในเรื่องของการเสียชีวิตครั้งนี้แล้วจะเก็บศพไว้จนกว่าจะพิสูจน์ความจริงก็เป็นสิทธิของทางญาติ โดยทางคณะทำงานจะพยายามทำให้โปร่งใสที่สุด เพื่อความเชื่อมั่นของประชาชน โดยคณะกรรมการจะมีการตรวจพยานหลักฐานทั้งในส่วนเรื่อง DNA บนผ้าว่ามี DNA ของคนอื่นหรือไม่ รวมถึงบนวัตถุพยานทุกอย่าง

สำหรับกรณีที่มีการแจ้งความในเรื่องของการถูกทำร้ายร่างกายของอดีตผู้กำกับโจ้ ภายในเรือนจำเมื่อเดือน ม.ค. ได้มีการตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยทางตัวอดีตผู้กำกับโจ้ ได้อ้างว่าถูกผู้คุมทำร้ายร่างกาย ทางเรือนจำเองก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการภายในตรวจสอบแล้ว และเจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวหาก็ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ที่ทำร้าย เรื่องดังกล่าวจึงยังไม่มีข้อสรุป และขอเวลาในการพิสูจน์


ส่วนที่มีญาติไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น ยืนยันว่าตำรวจได้มีการสอบแล้ว ส่วนในผลรายละเอียดจะให้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ชี้แจง

ด้าน นายสหการณ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชนกับผู้ต้องขังอย่างเต็มที่ ยืนยันว่าภายในเรือนจำมีกล้องวงจรปิดทุกจุด ยกเว้นภายในห้องนอนที่ถือว่าเป็นสิทธิมนุษยชนที่เราต้องดูแล

สำหรับมาตรการของต้องห้ามที่จะนำไปสู่การก่อเหตุ มีความเข้มงวดในเรื่องนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าผ้าที่ผู้เสียชีวิตใช้ก่อเหตุเป็นการอนุโลมของเรือนจำให้กับผู้ต้องขังทุกคน เนื่องจากช่วงนี้มีอากาศร้อนจึงให้ไว้ซับเหงื่อ ในขณะที่อดีตผู้กำกับโจ้ก่อเหตุเป็นช่วงเวลานอนที่อยู่ในห้องปิดทึบและอยู่เพียงคนเดียว จึงไม่มีใครเห็น โดยเหตุผลที่ต้องอยู่ห้องขังแยกเพียงผู้เดียว เนื่องจากผู้ต้องขังร้องขอเอง ไม่ได้มีการจับขังเดี่ยว เพราะวิตกังวล กลัวคนทำร้าย และทำให้ตัวผู้ต้องขังรู้สึกปลอดภัยมากกว่า ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์มีมาตรการดูแลผู้ป่วยโดยการให้ยาตลอดเวลา อีกทั้งยังมีการนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตามอาการ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเราได้มีการประเมินไว้แล้ว โดยไม่พบว่าทางตัวอดีตผู้กำกับโจ้จะก่อเหตุ

ขณะที่ นายเผด็จ กล่าวว่า อดีตผู้กำกับโจ้มีการทำเรื่องขอไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อจะแยกขังเดี่ยวมาเป็นเวลา 2 เดือน หลังจากที่มีปัญหาปากเสียงกับเพื่อนร่วมห้องขัง โดยได้ถูกย้ายจากแดน 7เดิม ไปแดน 5 ในปัจจุบัน ส่วนการมีปัญหากับเจ้าหน้าที่นั้น ด้านเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายในเรือนจำ ส่วนที่ญาติอดีตผู้กำกับโจ้ไปแจ้งความอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ทำร้าย โดยนำเอกสารจากทางทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่ได้มีการออกใบรับรองแพทย์ว่ามีบาดแผลฟกช้ำบริเวณซี่โครงด้านซ้าย ที่แพทย์ให้ความเห็นเป็นการถูกกระทบกับของแข็งไม่มีคม แต่จะเกิดจากการกระทำของเพื่อนร่วมห้องขังหรือผู้คุมนั้น ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ในส่วนนี้เป็นสิทธิของญาติที่สามารถไปแจ้งความได้ ซึ่งส่วนนี้ต้องรอทางพนักงานสอบสวนพิสูจน์

ในส่วนที่มีการตั้งคณะกรรมการภายในขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเรื่องการทำร้ายร่างกายของอดีตผู้กำกับโจ้ จะทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรม ลักษณะเป็นการฮั้วกันหรือไม่ ยืนยันว่าตอนนี้มีการตั้งคณะกรรมการสอบ แต่ผลยังไม่ออก พร้อมกับยืนยันว่าที่ผ่านมา อดีตผู้กำกับโจ้ไม่ได้ป่วยจิตเวช เพราะว่ามาตรการของเรือนจำหากพบว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวชจะมีการดูแลอย่างใกล้ชิด แต่เป็นเพียงการรักษาตามอาการกังวลและเครียดเท่านั้น.-420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

เหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก ฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 5 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ อีสานตอนบน และภาคตะวันออก ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ดานัส”แล้ว คาดว่า […]

ทลายบ่อนกลางกรุง พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา

กทม. 4 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เอาจริง สั่งจัดระเบียบสังคมทันที หลังรับตำแหน่ง มท.1 ประเดิมงานแรก สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนพนันกลางกรุง หลังมีประชาชนร้องเรียน พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ปิดบ่อนสะพานใหม่” จับกุมบ่อนการพนันกลางกรุง โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นายอิสรา เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สนธิกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนสะพานใหม่ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร […]

ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร

กองทัพบก 4 ก.ค.-ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร หลังลาดตระเวนพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปทหารพรานของไทยปะทะคารมกับทหารกัมพูชา ที่กำลังพยายามรุกลํ้าเข้ามาในดินแดนไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีอาวุธปืนครบมือนั้น พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารีว่า ชุดลาดตระเวนของกองร้อยทหารพรานที่ 2304 ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ได้ทำการลาดตระเวนพื้นที่ ตรวจพบความเคลื่อนไหวของกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณจุดชมวิวภูผี ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดน ใกล้บริเวณปราสาทโดนตวล และเขาพระวิหาร และบริเวณเส้นทางลาดตระเวนใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายไทยมีการลาดตระเวนตรวจตราอย่างต่อเนื่อง จึงได้เข้าทักทายเจรจากัน และแยกย้ายกันไป ไม่มีเหตุความรุนแรงใด พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมา หลายจุดพบกำลังทหารกัมพูชามาลาดตระเวนในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น และบางครั้งมีเจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับหน่วยของกัมพูชาร่วมลงพื้นที่ด้วยตนเอง เมื่อมาพบเจอกับฝ่ายทหารไทยก็จะมีพูดทักทายกัน และบางครั้งก็อาจจะมีแสดงออกทางอารมณ์ในลักษณะเหมือนถกเถียงกันบ้าง แต่ทั้งหมดไม่ถึงขั้นตั้งใจจะใช้ความรุนแรงต่อกัน เพราะต่างฝ่ายต่างระมัดระวังไม่ให้มีการละเมิดข้อตกลง และต้องยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี ตามแนวทางผู้บังคับบัญชา.-313.-สำนักข่าวไทย

นักธรณีวิทยา​ย้ำไม่มีสัญญาณ​สึนามิ​เข้าไทย​ ไม่ต้องตระหนก

กรุงเทพฯ​ 4 ก.ค. – ผู้เชี่ยวชาญทางธรณีวิทยา ย้ำขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณทางวิทยาศาสตร์​บ่งชี้ว่า​จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่อาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิซัดเข้าสู่ประเทศไทย​ จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่องบริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แนะติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในช่วง​ 1-2​ สัปดาห์ที่ผ่านมา บริเวณใกล้หมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา เป็นการเลื่อนตัวในแนวราบ ไม่ใช่แนวดิ่ง จึงไม่เข้าลักษณะที่จะทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ ขณะเดียวกัน จากการติดตามข้อมูลยังไม่พบสัญญาณทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่บ่งชี้ว่า​ จะมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเกิดคลื่นสึนามิ ศ.ดร.สันติ กล่าว​ว่า​ ก่อนหน้านี้​เรารู้​จักแนวมุดตัวของเปลือก​โลก​บริเวณ​หมู่เกาะ​นิโคบาร์​-สุมาตรา ที่หากมีการเคลื่อนตัวจะมีโอกาส​เกิดสึนามิ​ แต่ล่าสุด​พบ​ว่า​ มีแนวภูเขาไฟ​ใต้น้ำ​บริเวณ​หมู่เกาะ​สุมาตรา​ที่​ไม่เคยปะทุมาก่อนและบอกไม่ได้​ว่าจะปะทุ​เมื่อ​ใด ซึ่งนักธรณีวิทยา​และหน่วยงาน​ด้านภัยพิบัติ​จะต้องติดตาม​อย่างต่อเนื่อง​ต่อไป​ ทั้งนี้ แม้ในอดีตจะเคยเกิดสึนามิจากรอยเลื่อนสุมาตราที่เกิดการมุดตัวของเปลือกโลก​ แต่ย้ำว่า​ เหตุการณ์ปัจจุบันไม่มีตัวชี้วัดในลักษณะเดียวกัน จึงขอให้ประชาชนอย่ากังวลเกินควร อย่างไรก็ตาม การตื่นรู้ต่อภัยพิบัติเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะการใช้เครื่องมือสื่อสาร เช่น แอปพลิเคชันกรมอุตุนิยมวิทยา การติดตามข้อมูลจากภาครัฐ และระบบแจ้งเตือนภัยในท้องถิ่นเช่น Cell Broadcast​ ที่​ภาครัฐ​เร่งดำเนินการ​สำหรับ​แจ้ง​เตือน​ภัยพิบัติ​ต่าง​ ๆ ให้​ครอบคลุม​ทั่วประเทศ​ ทั้งนี้ ​การเตรียมความพร้อมคือเรื่องสำคัญ รัฐเองก็พยายามส่งสัญญาณให้ถึงประชาชนโดยเร็ว […]