ครอบครัวเศร้ารับศพหนุ่มวิศวะปี 4 ถูกอริยิงรัว 8 นัดดับ พ่อเชื่อปมขัดแย้งสถาบัน

กรุงเทพฯ 23 ก.ค. – สุดอุกอาจ! หนุ่มวิศวะช่างไฟปี 4 ถูกอริขี่รถจักรยานยนต์ตาม ก่อนใช้ปืนรัวยิง 8 นัด กลางดึก ล่าสุดครอบครัวเข้ารับศพที่ รพ.ศิริราช พ่อเชื่อปมขัดแย้งระหว่างสถาบัน ยืนยันลูกชายไม่มีคู่อริ ด้านตำรวจไล่กล้องวงจรปิดพบเบาะแสผู้ต้องสงสัย


กล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุภายในซอยเทอดไท 86 กลางแยกกำนันแม้น เขตภาษีเจริญ สามารถจับภาพผู้ก่อเหตุไว้ได้ เหตุเกิดช่วงเวลา 21.50 น.วันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่าผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์มาจากถนนบางบอน 1 ถึงแยกกำนันแม้น มีรถแท็กซี่ขับจากถนนด้านซ้ายออกมาจากคอนโดฯ มุ่งตรงถนนกำนันแม้น ทำให้ผู้ตายต้องชะลอรถเพื่อเลี้ยวขวาตามหลังรถแท็กซี่ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบสี ยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน มาประกบ ก่อนที่คนซ้อนท้ายจะชักปืนออกมาจ่อยิงอย่างกระชั้นชิด เข้าที่กลางหน้าอก 1 นัด ชายโครงฝั่งซ้ายข้างลำตัว 1 นัด ชายโครงขวา 1 นัด ข้อมือขวา 1 นัด ใต้สะดือ 1 นัด ต้นขาขวา 1 นัด หน้าแข้งขวาอีก 1 นัด หัวไหล่ซ้าย 1 นัด จนรถผู้ตายเสียหลักล้มลง ส่วนผู้ตายยังไม่เสียชีวิตในทันที วิ่งหนีตายย้อนกลับไปทางบ้านของตนเอง ซึ่งคนร้ายหันกลับมามองและเห็นว่าผู้ตายยังไม่เสียชีวิต จึงวกรถกลับมายิงซ้ำจนเสียชีวิตคาที่

ช่วงบ่ายวันนี้ ครอบครัวเดินทางมารับศพหนุ่มวิศวกรรมไฟฟ้าปี 4 อายุ 24 ปี ที่ถูกคู่อริประกบยิงขณะขี่รถจักยานยนต์ โดยรัวยิงกว่า 8 นัด จนหนุ่มวิศวะเสียชีวิตกลางแยกกำนันแม้น เขตภาษีเจริญ เมื่อช่วง 22.00 น.


พ่อผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า ตนเองมีลูก 2 คน คนที่เสียชีวิตเป็นลูกคนเล็ก ไม่มีเคยประวัติอาชญากรรม เป็นเด็กเรียน เชื่อว่าสาเหตุมาจากความขัดแย้งระหว่างสถาบันการศึกษา เพราะปกติแล้วลูกชายเป็นคนไม่ค่อยมีปัญหากับใคร ตอนกลางวันลูกชายไปเรียนหนังสือ เลิกเรียนจะไปขับแกร็บส่งอาหาร จากนั้นจะกลับเข้าบ้านเตรียมตัวออกไปทำงานต่อ โดยช่วงก่อนเกิดเหตุ ลูกชายขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านประมาณ 22.00 น. เพื่อจะไปทำงานกะกลางคืน เป็นช่างซ่อมบำรุงในคอนโดฯ แห่งหนึ่ง ทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียน และกำลังจะจบการศึกษา เป็นความหวังของครอบครัว ลูกชายตั้งใจว่าหากเรียนจบจะบวชให้ แต่มาถูกยิงเสียชีวิต

นอกจากนี้ตอนเรียน ปวช. ลูกชายเคยโดนหาเรื่อง แต่ไม่เคยไปเอาคืน จนย้ายมาเรียนปทุมวัน เพราะลูกชายอยากเรียนสายไฟฟ้า แม้ปีแรกจะสอบไม่ติด แต่พยายามสอบครั้งที่ 2 จนสอบติด ตอนนั้นก็เป็นห่วง แต่ลูกชายชอบและเลือกเอง ก็ได้แต่คอยเตือน ช่วงก่อนโควิด เมื่อ 2-3 ปีก่อน เคยมีกลุ่มวัยรุ่นตามมาหาเรื่อง แต่ลูกชายเลี่ยงมาได้ตลอด จนมีโควิด-19 ต้องหยุดเรียนก็ไม่ได้เจอกัน แต่พอกลับมาเปิดเรียนได้ 4-5 วันก็มาเกิดเหตุ ยืนยันว่าส่วนตัวลูกชายตนเองไม่เคยมีคู่อริ ถ้ามีคงเป็นคู่อริเกี่ยวกับสถาบัน และฝากถึงคนก่อเหตุให้หยุดได้แล้ว ทำอะไรไว้ขอให้ออกมารับผิดชอบ

ส่วนความคืบหน้าของคดี ตำรวจได้สอบปากคำพ่อเพิ่มเติม และไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นพบรูปพรรณของผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ แต่ยังไม่ชัด ซึ่งตำรวจจะนำไปเทียบเคียงกับเบาะแสคดีไล่ยิ่งนักศึกษาที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียง อาจมีความเชื่อมโยงกัน


ขณะที่วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่สำรวจจุดเกิดเหตุ บริเวณแยกกำนันแม้น เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พบว่ายังมีคราบเลือดอยู่ในที่เกิดเหตุ จุดนี้อยู่ห่างจากบ้านผู้เสียชีวิตประมาณ 300 เมตร คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างตรงข้ามบ้านผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่าเคยเห็นผู้เสียชีวิตเป็นประจำ เป็นนักศึกษาและขับแกร็บส่งอาหาร ผู้เสียชีวิตมักจะออกมาสูบบุหรี่ข้างบ้านก็จะทักทาย และชอบออกจากบ้านในช่วงเย็นเป็นประจำ ช่วงหัวค่ำก่อนเกิดเหตุไม่มีสิ่งผิดปกติ และในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ถือว่าเป็นเหตุการณ์ยิงกันครั้งแรกในซอยนี้ คนก่อเหตุต้องเตรียมการมาอย่างดี เนื่องจากรู้ว่าผู้เสียชีวิตจะออกจากบ้านเวลาไหน ตำรวจน่าจะสามารถติดตามผู้ก่อเหตุได้ไม่ยาก เนื่องจากในซอยที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดอยู่หลายจุด

ส่วนแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าขณะให้น้ำหนักปมก่อเหตุเป็นเรื่องขัดแยระหว่างสถาบัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่นาน ผู้เสียชีวิตเคยถูกกลุ่มคู่อริต่างสถาบันขู่เอาชีวิต และถูกสะกดรอยเฝ้าสังเกตพฤติกรรมมาสักระยะหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีเพื่อนผู้ตายอีก 1 คนที่เคยถูกคุกคามในลักษณะเดียวกัน จนต้องย้ายบ้านหนีจึงรอดชีวิตมาได้ ตอนนี้ฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ได้ติดต่อขอข้อมูลกับพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ เนื่องจากเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์นักศึกษาอาชีวะสถาบันหนึ่งก่อเหตุยิงนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จ.นนทบุรี ซึ่งผู้ที่ก่อเหตุมีพฤติการณ์และใช้ยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน ล้อดำ เช่นเดียวกัน จึงอาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นผู้ก่อเหตุกลุ่มเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย

เก๋งแต่งซิ่ง เสียหลักพุ่งชนยับ 10 คันรวดบนทางด่วน

กทม. 16 ส.ค.-เก๋งแต่งซิ่งประลองความเร็ว เสียหลักพุ่งชนกันยับ 10 คันรวดบนทางด่วนมุ่งหน้าบางปะอิน เจ้าของรถบีเอ็ม เล่านาทีถูกชน เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคัน บนทางด่วนช่วงทางขึ้นเมืองทองธานี มุ่งหน้าบางปะอิน โดยภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งบันทึกภาพเวลา 00.59 น.วันนี้ (16 ส.ค.68) รถเก๋งสีขาวจำนวน 3 คัน ขับตามกันมาด้วยความเร็วก่อนเกิดการชนกัน ทำให้รถเสียหลักหมุน ก่อนจะถูกรถเก๋งที่ขับตามมาพุ่งชนซ้ำอีกหลายคัน บางคันเกือบตกทางด่วน หลังตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษ เร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถเก๋งแต่งซิ่งประมาณ 10 คัน บางคันเป็นรถหรูราคาแพง ได้รับความเสียหายยับเยิน กีดขวางทั้ง 2 ช่องจราจร มีเศษชิ้นส่วนของรถยนต์ที่แตกและหลุดกระจายเต็มพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปากเกร็ดและเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษได้ประสานรถยกเร่งเคลื่อนย้ายรถที่เสียหายออกพร้อมทำความสะอาดคราบน้ำมันและชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อเปิดการจราจรใช้เวลากว่า 3 ชม. จากการสอบถาม นายอชิตพล อายุ 29 ปี เจ้าของรถยนต์บีเอ็ม ที่ถูกชนกล่าวว่า ตนขับรถไปรับแฟนมาจากที่ทำงาน เพื่อจะเดินทางกลับบ้านย่านธรรมศาสตร์รังสิต ขณะที่ขับรถอยู่ในช่องทางขวา เห็นรถเก๋งสีขาวที่ขับตามมาด้วยความเร็ว ตนจะเปลี่ยนเลนหลบไปในช่องทางซ้าย แต่ก็ถูกรถเก๋งคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายก่อนที่รถจะเสียหลักหมุน เป็นจังหวะเดียวกันกับรถอีกคันที่ขับตามกันมาด้วยความเร็วพุ่งชนซ้ำอีกครั้ง […]

‘ทรัมป์’ – ‘ปูติน’ หารือไร้ข้อสรุปเรื่องยุติสงครามในยูเครน

แองเคอเรจ, อะแลสกา 15 ส.ค. – การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอย ได้สิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ เพื่อยุติหรือพักรบสงครามในยูเครน แม้ว่าผู้นำทั้งสองจะกล่าวว่าการพูดคุยเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ก็ตาม หลังจากการประชุมยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง ในอะแลสกา ผู้นำทั้งสองได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยระบุว่ามีความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ ที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ และไม่เปิดโอกาสให้ตั้งคำถาม นายทรัมป์ซึ่งปกติเป็นคนช่างพูด กลับเพิกเฉยต่อคำถามที่นักข่าวตะโกนถาม นายทรัมป์กล่าวว่า มีความคืบหน้าบ้าง แต่จะยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ จนกว่าจะมีการทำข้อตกลง ดูเหมือนว่าการพูดคุยครั้งนี้จะไม่ได้นำไปสู่การดำเนินการที่มีความหมายเพื่อหยุดยิงในความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในยุโรปในรอบ 80 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นายทรัมป์ได้ตั้งไว้ก่อนการประชุม แต่เพียงแค่การได้นั่งพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ถือเป็นชัยชนะสำหรับนายปูตินแล้ว หลังจากเขาถูกผู้นำชาติตะวันตกกีดกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 หลังการประชุมสุดยอด นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์นิวส์ ว่าเขาจะชะลอการกำหนดภาษีนำเข้ากับจีนสำหรับการซื้อน้ำมันรัสเซีย หลังจากที่การเจรจากับนายปูตินมีความคืบหน้า นายทรัมป์ยังเคยขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้เขายังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ แม้ว่านายปูตินจะเพิกเฉยต่อเส้นตายหยุดยิงที่นายทรัมป์กำหนดไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในการให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์ นิวส์ นายทรัมป์ยังได้เสนอแนะว่าจะมีการจัดการประชุมระหว่างนายปูตินและประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี […]

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย