กรุงเทพฯ 20 ก.ค. – กลุ่มผู้เสียหายชาว จ.อุดรธานี ที่ถูกโกงแชร์กว่า 40 คน เข้าแจ้งความ บก.ปอศ. ให้ดำเนินคดีกับท้าวแชร์ 2 บ้าน รวม 3 คน หลอกลงทุนเล่นแชร์ ออมเงิน แต่สุดท้ายกลับนำเงินไปใช้ส่วนตัว มีผู้ร่วมเล่นแชร์มากกว่า 300 คนต่อบ้าน ความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท
กลุ่มผู้เสียหายชาว จ.อุดรธานี ที่ถูกโกงแชร์กว่า 40 คน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. เพื่อให้ดำเนินคดีกับท้าวแชร์ 2 บ้าน ได้แก่ บ้านแชร์มนต์และบ้านแชร์มะลิวรรณ รวม 3 คน แต่สุดท้ายปิดวงแชร์และเชิดเงินผู้เสียหายไปใช้จ่ายส่วนตัว กินหรู อยู่สบาย ใช้ชีวิตหรูหรา แต่ไม่คืนเงิน มีผู้ร่วมเล่นแชร์มากกว่า 300 คนต่อบ้าน สร้างความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท
ทนายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ และนายภานุมาศ จิตรวศิรกุล หรือ เฮียเปี๊ยก ที่เปิดกลุ่มช่วยเหลือผู้เสียหายเปิดเผยว่า วงแชร์นี้เปิดมาร่วมปีแล้ว และจะเปิดพร้อมกันหลาย ๆ วง โดยใช้ชื่อคนสนิท ญาติพี่น้อง มาเป็นมือต้น หรือเรียกว่า มือผี เพื่อรับเงินจากลูกแชร์ เมื่อรับเงินครบจะประกาศล้มวงแชร์ทันที และนอกจากจะหลอกให้ชาวบ้านเล่นแชร์แล้ว ยังมีการชักชวนหลอกให้ออม หรือร่วมลงทุนต่าง ๆ อ้างว่า จะนำไปให้ลูกแชร์กู้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้วงแชร์ แต่สุดท้ายกลับนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว
ผู้เสียหายบางรายที่ตกเป็นเหยื่อ มีลูกป่วยติดเตียง หวังจะเอาเงินที่ได้จากแชร์ไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลลูก แต่สุดท้ายกลับไม่ได้เงิน และปัจจุบันยังรอเงินเพื่อไปใช้รักษาลูกอยู่ ขณะที่บางรายไม่มีเงินแม้กระทั่งเอาไปทำศพญาติพี่น้อง บางรายเครียดจนคลอดก่อนกำหนด ส่วนลูกที่คลอดออกมาก็มีภาวะหายใจผิดปกติ แต่ในทางกลับกัน ท้าวแชร์กลับใช้ชีวิตกินหรูอยู่สบาย เมื่อผู้เสียหายไปทักท้วงและขอเงินคืน ก็จะอ้างว่าโดนโกงต่อมาอีกทอดหนึ่ง แต่เมื่อถามหาหลักฐานการโกงกลับไม่มีให้ และบล็อกผู้เสียหายออกจากกลุ่มไลน์ ขณะที่ท้าวแชร์บางรายก็อ้างว่ามีสรรพากรเรียกเก็บภาษีกว่า 1,500,000 บาท จึงไม่มีเงินจ่าย
ด้านผู้เสียหาย เผยว่ามีคนรู้จักชักชวนโดยเริ่มจากลงแชร์มือเล็ก ๆ ประมาณ 5,000-10,000 บาท ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งช่วงปลายปีเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ มีการเปิดระดมทุนและเพิ่มจำนวนเงินแชร์เพิ่มมากขึ้นไปถึงหลักแสนและหลักล้านบาทในที่สุด จากนั้น ท้าวแชร์ก็เริ่มซื้อของแบรนด์เนม จนต้นปีที่ผ่านมา ท้าวแชร์เริ่มมาประกาศขายมือแชร์ และเพียงอาทิตย์เดียวก็ประกาศล้มบ้านแชร์ ทำให้ตนเองเสียหาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้นำทองรับขวัญของลูกไปจำนำและลงทุนไปร่วม 140,000 บาท ทำให้ตนเองเครียดมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ จนไม่สามารถให้นมลูกได้ และเพื่อนผู้เสียหายบางรายมีแม่ป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่มีเงินไปจ่ายค่ารักษาทำให้แม่ต้องเสียชีวิต
ส่วนผู้เสียหายอีกราย กล่าวทั้งน้ำตา ลงทุนไปเกือบ 1 ล้านบาท เพราะเห็นว่าท้าวแชร์เป็นคนรู้จัก เป็นคนบ้านเดียวกัน แต่สุดท้ายกลับถูกโกง จึงวอนขอความเห็นใจว่ากว่าจะหาเงินมาได้ มีภาระที่ต้องใช้จ่ายเหมือนกัน ขอให้ท้าวแชร์ยอมคืนเงิน
นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนผู้เสียหายที่เป็นแพทย์ ซึ่งไว้ใจและรู้จักท้าวแชร์มานาน ถูกท้าวแชร์หลอกให้ลงทุน อ้างว่า จะนำไปหนุนวงแชร์ ก่อนที่ต่อมาจะอ้างว่าเอาเงินไปปล่อยกู้ให้เจ้ามือหวยรายใหญ่ที่จังหวัดนครราชสีมา และจะให้ผลตอบแทน แต่เมื่อถึงวันจ่ายผลตอบแทน กลับมาขอให้เพิ่มเงินลงทุนต่อเรื่อย ๆ รวมแล้วลงทุนไปกว่า 5 ล้านบาท แต่กลับไม่ได้รับเงินคืนทั้งเงินต้นและผลตอบแทนใด ๆ คาดว่าสุดท้ายท้าวแชร์นำเงินไปใช้เอง
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายยังบอกอีกว่า ท้าวแชร์ยังได้ฟ้องกลับผู้เสียหายหลายรายในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้ผู้เสียหายตัดสินใจรวมตัวกันมาแจ้งความในวันนี้ และเบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. ได้ตรวจดูเอกสารเบื้องต้น พร้อมแนะนำให้ผู้เสียหายทั้งหมดไปลงทะเบียนแจ้งความออนไลน์ในเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com เผื่อมีผู้เสียหายอยู่ต่างจังหวัดไม่สะดวกเดินทางมาแจ้งความด้วยตัวเอง ซึ่งจะทำให้ข้อมูลผู้เสียหายทุกคนรวมเป็นคดีเดียวกัน. -สำนักข่าวไทย