กรุงเทพฯ 20 มิ.ย. -ผบ.ตร. สั่ง ปคบ.ทำคดีดารุมะ ซูชิ หลังพฤติการณ์เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ขณะที่ ปคบ.รับลูก เตรียมรวมสำนวนคดีผู้ซื้อแฟรนไชส์ และ Voucher เป็นสำนวนคดีเดียวกัน
นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความนำผู้เสียหาย จากกรณีร้านดารุมะ ซูชิ ที่ขายคูปองบุฟเฟต์แซลมอน แล้วปิดร้านหนี เข้าแจ้งความกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคม. หลังผู้เสียหายซึ่งซื้อ Voucher เข้าขอความช่วยเหลือทางคดี
นายรัชพล เปิดเผยว่าเดินทางมาในวันนี้เรียกร้องให้ ปคบ. เป็นเจ้าภาพหลักในการทำคดี และรวมสำนวนคดีไว้เป็นสำนวนเดียวเพื่อให้ง่ายต่อการทำคดี โดยตนรับเป็นทนายว่าความในคดีนี้ สำหรับคดีนี้มีความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท มีผู้เสียหายในกลุ่มที่เข้ามาขอคำปรึกษาทางกฎหมายกับตนแล้วขณะนี้กว่า 400 คน แต่หลายคนไม่สะดวกที่จะเดินทางมาแจ้งความด้วยตนเอง บางคนได้แจ้งความตามพื้นที่ต่างๆ ไปแล้วก่อนหน้านี้ รวมถึงแจ้งความออนไลน์ และจากพฤติการณ์เบื้องต้นพบว่ามีลักษณะเข้าข่ายการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งตนพร้อมให้การช่วยเหลือเป็นทนายว่าความให้โดยขอให้ประชาชนที่ยังไม่ได้แจ้งความติดต่อมาหาก่อนได้ตลอดเวลา
ด้านนายอัญพัชร์ ปิยะสถิตย์โชติ หนึ่งในผู้จัดการสาขา เล่าว่าเหตุที่ต้องมาแจ้งความวันนี้ เนื่องจากพนักงานก็ได้รับผลกระทบจากการปิดร้านต้องตกงาน โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า จึงต้องมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน อีกทั้งต้องการให้เจ้าของแบรนด์ ออกมาให้คำตอบที่ชัดเจนกับพนักงานและลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด โดยเฉพาะพนักงานตอนนี้ ลำบากมาก ๆ ไม่รู้ชะตากรรมอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยวันพรุ่งนี้กลุ่มพนักงานจะเดินทางไปสำนักงานประกันสังคมเพื่อขอรับความช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการบริหารด้านการเงินของบริษัททั้งหมด รายได้ รายรับ รายจ่าย เจ้าของแบรนด์จะเป็นคนดำเนินการแต่เพียงผู้เดียว ผู้จัดการสาขาทุกคนมีหน้าที่เพียงรับพนักงานและตกลงอัตราค่าจ้าง และสรุปรายละเอียดค่าแรงของพนักงานในแต่ละเดือนให้เขาเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาการจ่ายเงินเดือนไม่มีปัญหา ประกอบกับการเดินทางไปต่างประเทศ ของเจ้าของแบรนด์ก็เป็นเรื่องปกติที่จะเดินทางไปทุกๆ 2-3 เดือน แต่มาผิดสังเกตก่อนเกิดเรื่องเพียง 2-3 วันเท่านั้น เมื่อพบว่าไม่มีการสั่งสินค้าที่ต้องใช้ภายในร้านเข้ามาเติมแต่อย่างใด และมีการลบตัวเองออกจากกลุ่มไลน์ทุกกลุ่มและไม่สามารถติดต่อได้
ขณะที่ พ.ต.อ.เชษฐ์พันธ์ กิติเจริญศักดิ์ ผกก.1 บก.ปคบ. เผยเบื้องต้นจะรับเรื่องทั้งหมดไว้พิจารณา มีแนวโน้มว่าจะรวมเป็นสำนวนเดียวกันได้ โดยจากพฤติการณ์เข้าข่ายลักษณะการฉ้อโกง แต่ยังต้องรอการสอบสวนอย่างละเอียด ทั้งผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์และผู้ที่ซื้อแคชวอยเชอร์ พร้อมยอมรับว่าการซื้อขายแฟรนไชส์คล้ายกับแชร์ลูกโซ่
ส่วนตัวเจ้าของแบรนด์ ตรวจสอบเบื้องต้นตอนนี้พบว่าเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนจะไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือไม่ ยังไม่ยืนยัน ตำรวจไม่มีอำนาจตรวจสอบ เพราะขณะนั้นยังไม่เป็นคดีความ
ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับผู้บริโภค หรือ ปคบ. ยังระบุอีกว่า ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ ปคบ.ทำคดีนี้ พร้อมให้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้ผู้เสียหายเพิ่มเติมหรือที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะแจ้งความดีหรือไม่ ต้องการจะแจ้งความดำเนินคดีสามารถติดต่อมาได้โดยตรงที่ ปคบ.
สำหรับผู้เสียจากกรณีร้านดารูมะ ซูชิ ตอนนี้ทยอยเข้าแจ้งความทั้งส่วนของเพจสายไหมต้องรอด รวมถึงกลุ่มผู้เสียหายที่รวมตัวไปร้องทุกข์ที่ สคบ. มีทั้งสิ้นกว่า 500 รายแล้ว และคาดว่าจะมีเดินทางเข้าแจ้งความเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก. -สำนักข่าวไทย