กรุงเทพฯ 17 มิ.ย. – ผบ.ตร. แถลงจับ “สันติ” มือฆ่ายกครัวยัดท้ายรถที่ไต้หวัน เจ้าตัวให้การภาคเสธ ไม่ชัดประเด็นสังหาร เตรียมฝากขังพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.)
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. นายอีธาน หลิน (Ethan Y.H. Lin) ทูตตำรวจไต้หวันประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุม นายสันติ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาหมายจับ ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” หลังก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.พจนีย์ อายุ 35 ปี และนายประเสริฐ อายุ 32 ปี สองสามีภรรยาชาวไทยและลูกแฝดในครรภ์ ก่อนหลบหนีมายังประเทศไทย
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ในวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.00 น. นายสันติ ได้เดินทางเข้ามาที่ประเทศไทยผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ และเดินทางโดยเครื่องบินต่อไปยัง จ.เชียงใหม่ ในวันเดียวกัน เพื่อทำการหลบหนี กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ ได้รับการติดต่อจาก บิดานายสันติ เพื่อนำตัวนายสันติเข้ามอบตัว ที่หมู่บ้านอรุโณทัย หมู่ 10 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จึงเดินทางไปตรวจสอบตามที่นัดหมาย และทำการจับกุมตัวได้ดังกล่าว
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า นายสันติให้การภาคเสธ ว่าไม่ได้ลงมือก่อเหตุแต่ได้พาดพิงไปยังบุคคลอื่น ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อรูปคดี ซึ่งหากมีความจำเป็น ก็อาจต้องให้พนักงานสอบสวนประสานกับทางตำรวจไต้หวันเพื่อสอบสวนเพิ่มเติม ในกรอบระยะเวลา 84 วัน ก่อนสรุปสำนวนและมีความเห็นทางคดีส่งพนักงานอัยการพิจารณา ส่วนกรณีที่ผู้ตายตั้งครรภ์ลูกแฝด จะเป็นเหตุให้ผู้ต้องหาได้รับโทษหนักขึ้นหรือไม่นั้น พนักงานสอบสวนจะบรรยายพฤติกรรมทางคดีอย่างละเอียดเพื่อชี้ให้ศาลเห็นการกระทำและพิจารณาลงโทษผู้ต้องหา อย่างไรก็ตาม ในชั้นนี้ยังไม่สามารถดำเนินคดีเรื่องการอำพรางศพได้ เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นที่ไต้หวันโดยทางพนักงานสอบสวนกองปราบปรามจะดำเนินคดีเฉพาะในส่วนของข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า กองบังคับปราบปราม สามารถทำการสอบสวนดำเนินคดีกับนายสันติได้ตามกฎหมาย โดยจะดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาฟ้องร้องที่ศาลอาญา ซึ่งศาลอาญามีอำนาจลงโทษนายสันติได้เช่นเดียวกับคดีอาญาทั่วไป แต่อย่างไรก็ตาม ความผิดในคดีนี้ถือเป็นความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 ได้บัญญัติให้อัยการสูงสุดหรือผู้รักษาราชการแทนโดย เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ซึ่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม จะรายงานให้สำนักงานอัยการสูงสุดทราบเป็นลำดับต่อไป
ขณะที่ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า การสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหายังคงยืนยันว่าไม่ได้ลงมือสังหารผู้ตาย แต่ยอมรับว่ารู้เห็นในเหตุการณ์บางส่วน ซึ่งทางตำรวจเองยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา ส่วนสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเป็นไปตามข่าวที่เกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) จะนำตัวผู้ต้องหาฝากขังต่อศาลอาญา และจะไม่นำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย