ปคบ.ทลายแก๊งขายใบผลตรวจโควิดปลอม

กองปราบฯ 16 มี.ค.- ตำรวจ ปคบ.ทลายเครือข่ายขายใบรับรองผลตรวจโควิดปลอม ได้ผู้ต้องหา 3 คน พบยังลอบขายวุฒิการศึกษาปลอม รวมทั้งเอกสารทางราชการอื่นๆ


ตำรวจ ปคบ.ทลายเครือข่ายขายใบรับรองผลตรวจโควิดปลอม จับกุมเครือข่ายผู้ต้องหา 3 คน คือ น.ส.พลอย อายุ 24 ปี นายวีรพล หรือมะตูม อายุ 26 ปี และนายมูนีร หรือนิด อายุ 22 ปี โดยติดตามจับกุม น.ส.พลอย ได้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง เขตบางกอกน้อย กทม. และจับกุมนายวีรพล ได้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ถนนวิชิตสงคราม อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ส่วนนายมูนีร ไหวตัวทัน หลบหนี ตํารวจติดตามกดดันอย่างต่อเนื่อง จนนายมูนีร ยอมเข้ามอบตัว เบื้องต้น น.ส.พลอย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนนายวีรพล และนายมูนีร ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. กระทรวงสาธารณสุข ว่ามีผู้ลักลอบหาผลประโยชน์ โดยการปลอมแปลงเอกสารผลตรวจโควิด แล้วนํามาจําหน่ายให้แก่บุคคลทั่วไป เพื่อใช้ในการสมัครงานต่างๆ หรือการเดินทางไปต่างประเทศ เป็นต้น โดยที่ผู้รับการตรวจไม่ต้องเดินทางไปตรวจแต่อย่างใด


พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปคบ เปิดผยว่า ตำรวจ ปคบ.สืบสวนพบว่า เว็บไซต์ https://covid-lab.airsite.co มีการโฆษณาขายใบรับรองผลการตรวจโควิด ราคา 890 บาท รับผลภายใน 15 นาที เพียงแจ้งชื่อนามสกุล วันที่ออกใบรับรองผลการตรวจโควิด โดยผู้ตรวจไม่ต้องเดินทางไปตรวจ โดยใบรับรองจะออกในนามบริษัท พีซีที ลาบอราตอรี่ เซอร์วิส จํากัด (PCT LABORATORY SERVICE CO,.LTD.) ซึ่งจากการตรวจสอบกับบริษัทดังกล่าว พบว่าเป็นใบรับรองผลปลอม บริษัทไม่ได้เป็นผู้ออกให้ เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย บริษัทจึงแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม

ตํารวจติดต่อล่อซื้อผ่านไลน์ที่แจ้งไว้ในเว็บไซต์ “PCR TEST 890 -” พฤติการณ์เครือข่ายนี้มีการแบ่งหน้ากันทำ 3 กลุ่ม คือ นายมุนีร ทำหน้าที่เป็นแอดมินเว็บไซต์พูดคุยสอบถามข้อมูลกับลูกค้า จากนั้นจะส่งข้อมูลให้นายปังปอนด์ จัดทำใบรับรองผลตรวจโควิดปลอม โดยมี น.ส.พลอย และนายวีรพล จัดหาจ้างเปิดบัญชีม้า เพื่อรับโอนเงินจากลูกค้า เมื่อทำใบรับรองโควิดปลอมเรียบร้อย จะจัดส่งทางไปรษณีย์หรือขนส่งเอกชน

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณกลางปี 2564 นายมูนีร ต้องการจะเดินทางไปประเทศตุรกี ต้อง ใช้ใบรับรองผลการตรวจโควิด นายมูนีร จึงติดต่อนายปังปอนด์ ซึ่งรู้จักกันทางทวิตเตอร์ให้ปลอมแปลงเอกสารใบรับรองผลการตรวจโควิดให้ จากนั้นนายมูนีร นําเอกสารดังกล่าวไปใช้เดินทางไปประเทศตุรกี เมื่อกลับมานายมูนีร จึงพูดคุยตกลงกับนายปังปอนด์ เพื่อที่จะขายใบรับรองผลการตรวจโควิดปลอม โดยนายปังปอนด์ หาซื้อบัญชีธนาคารของผู้อื่นเพื่อใช้เป็นบัญชีม้าจาก น.ส.พลอย และนายวีรพล ผ่านทางเฟซบุ๊ก ในราคาบัญชีละ 3,500 บาท ส่วนนายมูนีร ได้ไปจ้างบริษัทแห่งหนึ่งเขียนเว็บไซต์ และยิงแอดโฆษณา เมื่อมีผู้สนใจติดต่อมา นายมูนีร จะเป็นแอดมินพูดคุยกับลูกค้า โดยนายมูนีร จะส่งชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด และวันที่ที่ต้องการให้ระบุในใบรับรองผลตรวจ ให้แก่นายปังปอนด์ จากนั้นนายปังปอนด์ จะปลอมแปลงใบรับรองผลการตรวจโควิด แล้วส่งให้นายมูนีร เพื่อส่งต่อให้ลูกค้า เมื่อลูกค้าชําระเงินเรียบร้อยแล้ว นายมูนีร จะเป็นผู้รวบรวมและยักย้ายถ่ายเทเงินไปยังบัญชีม้าต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม จากนั้นจะมีการแบ่งผลประโยชน์กัน โดยนายมูนีร ได้ 500 บาท/คน ส่วนนายปัง ปอนด์ ได้ 390 บาท/คน จากราคา 890 บาท


จากการตรวจสอบพบว่า เครือข่ายปลอมใบรับรองโควิค ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564- มกราคม 2565 กลุ่มผู้ต้องหาได้เงินจากการขายใบรับรองผลการตรวจโควิดปลอมประมาณ 300,000 บาท นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวได้ลักลอบจําหน่ายวุฒิการศึกษาปลอมให้แก่บุคคลทั่วไป เพื่อนําไปใช้การสมัครเรียนต่อหรือทํางาน ตั้งแต่ระดับชั้นประถมไปจนถึงมหาวิทยาลัย ในราคาตั้งแต่ 1,500-7,000 บาท อีกทั้งยังรับปลอมแปลงใบขับขี่บัตรประจําตัว, ประชาชน, บัตรข้าราชการ, โฉนดที่ดิน และทะเบียนรถ อีกด้วย โดยพบว่าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564- มกราคม 2565 กลุ่มผู้ต้องหาได้รับเงินจากปลอมแปลงเอกสารดังกล่าวประมาณ 5 ล้านบาท

ตำรวจ ปคบ.แนะการตรวจสอบใบรับรองผลโควิดปลอม จะมีการโฆษณาว่าไม่ต้องเดินทางมาตรวจโควิดด้วยตนเอง หรือให้โทรตรวจสอบข้อมูลกับบริษัทที่อ้างถึง รวมถึงตรวจสอบเอกสารผลใบรับรอง สแกน QR code หากเป็นของจริง สแกนไปแล้วจะขึ้นข้อมูลผลตรวจทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย