กรุงเทพฯ 7 มี.ค. – แพทย์นิติเวชคนแรกที่ชันสูตรร่าง “แตงโม” พบบาดแผลขนาดใหญ่ต้นขาขวา และรอยช้ำบริเวณข้อพับเข่าขวา ต้องให้แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ ชี้ชัดว่าเกิดจากวัตถุชนิดใด
นพ.ศราวุฒิ สุจริตธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนิติเวช สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นแพทย์เวรนิติเวชที่เดินทางไปตรวจศพ “แตงโม” คนแรกหลังพบศพ เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนพบศพ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ที่ตกเรือจมเจ้าพระยาเสียชีวิต จึงได้เดินทางไปตรวจชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 โดยพบว่าศพมีสภาพเริ่มเน่า ใบหน้าไม่สามารถจำได้ แต่มีเสื้อผ้าที่เป็นชุดบอดี้สูทและเครื่องประดับ ซึ่งญาติยืนยันว่าเป็นของ “แตงโม” สวมใส่ก่อนเสียชีวิตจริง โดยสภาพศพคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วเกือบ 2 วันบวกลบ สอดคล้องกับช่วงเวลาที่ได้รับแจ้งว่า “แตงโม” ตกน้ำ
ส่วนตามร่างกายพบบาดแผลขนาดใหญ่บริเวณขาขวา และข้อพับขาขวาเป็นแผลช้ำเล็กน้อย ส่วนบริเวณอื่นไม่พบ ซึ่งจากบาดแผลขนาดใหญ่ที่ขาขวาสิ่งที่คิดถึงอย่างแรกคือถูกใบพัดเรือ เพราะพบได้บ่อยในศพที่ตกน้ำ แต่จะเกิดจากบาดแผลอะไรและเป็นอย่างอื่นได้ไหมต้องให้แพทย์นิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ผ่าชันสูตรเพื่อดูว่ามีวัตถุอื่นอีกไหมที่จะเข้ากันได้และต้องนำวัตถุต้องสงสัยนั้นมาเทียบว่าสามารถทำให้เกิดบาดแผลได้ไหม รวมถึงตรวจดูคราบเลือดและรอยแผลอื่น ๆ ว่าเชื่อมโยงกันได้หรือไม่ แต่ความเห็นเบื้องต้นระบุสาเหตุการตาย “สันนิษฐาน เกิดจากการจมน้ำ” แต่ผลการผ่าชันสูตรโดยการผ่าอย่างละเอียดจะทราบสาเหตุการตายที่แท้จริง
นพ.ศราวุฒิ กล่าวยอมรับว่า ทราบแต่ต้นว่าศพที่ต้องไปตรวจชันสูตรเป็นศพของ “แตงโม” แต่ไม่ได้เตรียมการอะไรเป็นพิเศษ เนื่องจากการตรวจชันสูตรศพแต่ละเคสมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน เช่น หากเป็นศพที่เสียชีวิตจากอาวุธปืนก็จะมุ่งไปที่การหาหัวกระสุน หรือการเก็บเขม่าดินปืน หากเป็นศพที่ถูกแทงก็จะถ่ายภาพบาดแผลไว้จำนวนมาก เพื่อใช้เทียบเคียงกับอาวุธที่มากระทำ ส่วนกรณีของ “แตงโม” เป็นศพที่มีประวัติจมน้ำ แพทย์ที่ทำการผ่าชันสูตรก็จะเริ่มตรวจตามร่างกาย เปิดดูช่องปาก จมูก ช่องหลอดลม ปอด แขนงปอด เพื่อดูว่ามีเศษดินโคลน พืช และน้ำอยู่หรือไม่ ซึ่งเท่าที่ติดตามข่าวพบว่ามีเศษดินโคลนอยู่ ซึ่งรายละเอียดแต่ละเคสจะขึ้นอยู่กับพฤติการณ์แวดล้อมกับประวัติว่าได้อะไรมาบ้างก็จะมุ่งตรวจชันสูตรไปทางนั้น ขณะเดียวกันก็ดูสาเหตุการเสียชีวิตอื่น ๆ ที่เป็นไปได้ โดยไม่ได้ดูว่าเป็นคนมีชื่อเสียงหรือคนดัง แต่ทุกกรณีจะดูพฤติการณ์แวดล้อมมากกว่า และหากเป็นคดีที่ได้รับความสนใจมากก็ต้องดูว่าสนใจอะไร สงสัยเป็นการฆาตกรรมหรือไม่ ก็จะมุ่งไปเก็บพยานที่สอดคล้องกับเหตุที่สงสัย
ส่วนกรณีเคสที่สงสัยว่าเกิดจากการฆาตกรรม การตรวจชันสูตรจะมีชุดการตรวจพื้นฐานอยู่แล้ว เช่น ถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ ดูกระโหลกศีรษะมีรอยแตก ซี่โครงหัก กระดูกแขนขายังอยู่ดีหรือกระดูกคอหักหรือไม่ ถ้ามีก็จะมุ่งไปประเด็นนั้น ๆ แต่การตรวจชันสูตรเบื้องต้นในจุดที่พบศพไม่สามารถดูได้ ต้องรอผลการผ่าชันสูตร ส่วนกรณีศพเน่าเปื่อย การตรวจพิสูจน์มีข้อจำกัดอยู่แล้ว เพราะบาดแผลต่าง ๆ จะดูไม่ได้บอกไม่ได้ , การเก็บเลือดในศพที่เน่ามาก ๆ ก็จะเก็บไม่ได้ การพิสูจน์ว่าเมาไม่เมา ก็อาจจะพิสูจน์ไม่ได้ เพราะความเน่ากลบหมด ข้อจำกัดจึงมีมากกว่าศพปกติ
นพ.ศราวุฒิ กล่าวว่า สำหรับแพทย์ที่จะทำการชันสูตรเบื้องต้นในที่เกิดเหตุนั้น จะเป็นดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนท้องที่ว่าจะแจ้ง รพ. หรือสถาบันไหน โดยปกติจะแจ้งจุดที่ใกล้ที่สุด ส่วนการส่งไปชันสูตรอย่างละเอียด ตามประมวลกฏหมาย ป.วิอาญา ระบุเพียงว่าให้ส่งตรวจที่ รพ.หรือหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นหน่วยงานใด ส่วนการเปลี่ยนสถานที่ชันสูตรบางเคสก็เป็นไปตามความสมัครใจของญาตว่าสะดวกรับศพที่ไหน หรือหากเคสไหนที่ต้องการเร่งรัดคดี ก็จะส่งไปหน่วยงานที่ทำการชันสูตรได้เร็ว.-สำนักข่าวไทย