“ทนายตั้ม” เข้าให้ปากคำคดี “แตงโม” ตกเรือ

นนทบุรี 4 มี.ค. – “ทนายตั้ม” เข้าพบพนักงานสอบสวนให้ปากคำคดี “แตงโม” ตกเรือ ชี้ “แซน” เป็นกุญแจสำคัญในคดี พร้อมเล่ารายละเอียดขณะคนบนเรือมาปรึกษา


ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ปากคำคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม” ในฐานะพยานของคดี เนื่องจากมีคนบนเรือมาปรึกษาตนเอง หลังเกิดเหตุ โดยทนายษิทรา เผยว่า นายปอ โรเบิร์ต มาปรึกษาตนเองที่ร้านอาหารหลังวันเกิดเหตุ ส่วน กระติก ตามมาทีหลัง ได้เจอกันไม่นาน โดย ปอ-โรเบิร์ต รู้อยู่แล้วว่าจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และผู้อยู่ในเหตุการณ์มีทนายความส่วนตัวอยู่แล้ว

ทนายษิทรา ระบุอีกว่า กุญแจสำคัญของคดีนี้อยู่ที่ “แซน” ซึ่งเป็นคนบอกว่า แตงโม เดินมาปัสสาวะที่ท้ายเรือ ส่วนประเด็นการเจอเส้นผมที่ใบพัดเรือ ยังไม่มีใครยืนยันข้อเท็จจริงส่วนนี้ได้


ทนายษิทรา ยอมรับว่าเป็นพยานเต็มตัวแล้ว วันนี้ได้รับการประสานมา 2 เรื่อง คือ วันที่พบนายปอ กับนายเบิร์ต และเมื่อวาน (3 ก.พ.) ตนได้แจ้งเบาะแสสำคัญ จึงต้องการให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเพิ่ม ทนายษิทรา ย้ำว่าต้องการให้ตำรวจทดลองเกี่ยวกับใบพัด และฟินเรือหรือหางสือในน้ำเพื่อดูรอยตัด เช่น ใช้เนื้อหมู หรือซิลิโคนทดสอบ เพราะคดีอาชญากรรมหลายคดีมีการทดลองเช่นนี้หมด และคาดว่าจะเป็นจุดสำคัญที่ตำรวจควรให้ความสำคัญ

ทนายษิทรา บอกด้วยว่า เป็นเรื่องดีที่ตำรวจย้ายเรือไปเก็บรักษาไว้ป้องกันการยุ่งเกี่ยวพยานหลักฐาน เพราะเรือเป็นหลักฐานสำคัญในคดี แต่ยืนยันว่าเมื่อวานตนแค่ดูเรือ และรู้ว่าคือวัตถุพยาน ไม่มีการสัมผัส ไม่ได้ขึ้นเรือ

ส่วนประเด็นที่พบนายปอ ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ และนายเบิร์ต โรเบิร์ต ไพบูลย์ กาญจนานันท์ นั้น มีเพื่อนที่รู้จัก 2 คนนี้ติดต่อมาเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 มีเวลาคุยกันไม่เกิน 15 นาที ส่วนใหญ่เล่าเหตุการณ์และปรึกษาเพื่อเตรียมตัวเท่านั้น เนื่องจากทั้งคู่รู้จักตนว่าเป็นทนายที่มีความสามารถทางคดีเท่านั้น ตนไม่ได้รู้จักทั้งคู่มาก่อน


โดยการบอกเล่านั้นเป็นการเล่าช่วงเกิดเหตุเหมือนที่สื่อทราบ แต่ตนไม่ขอลงรายละเอียด แต่ต้องการรู้ว่าใครโดนดำเนินคดีบ้าง ตนจึงแนะว่าถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นว่าคนขับเรือ เป็นเจ้าของ และอีกคนเป็นคนขับเรือด้วย ทั้งคู่ก็ถูกดำเนินคดี ระหว่างคุยทั้งคู่มีสีหน้ากังวลกันมาก เพราะรู้ว่าต้องถูกดำเนินคดี และไม่มีการพูดว่าจะเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง รวมถึงไม่มีการปรึกษาแนวทางหลุดพ้นคดี รวมถึงทั้งคู่บอกว่าพยายามหาแตงโมแล้ว และกังวลว่าแตงโมจะเสียชีวิต มีการตั้งความหวังว่าจะมีใครช่วยไว้ได้ไหม

ช่วงที่ได้คุยแค่ 2 คนหลัก และได้เจอกระติกกับโบ สุรัตนาวี ที่ลานจอดรถเพียง 30 วินาที โดยกระติกเดินเข้ามาทักและถามแค่ว่าหนูต้องทำยังไง ตนก็แนะให้ไปโรงพักเท่านั้น ก็แยกย้ายกัน มาทราบภายหลังว่ามีจ๊อบรออยู่ที่รถอีกคน ตนเองยืนยันตั้งแต่ตนว่า การพูดคุยไม่มีการขอให้เป็นทนายความ ส่วนประเด็นที่สังคมสงสัยว่า โรเบิร์ตมี 2 คน ตนยืนยัน โรเบิร์ตที่ตนเห็นเป็นคนเดียวกัน ใส่เสื้อยืด ร่างท้วม แต่ผมไม่ได้ใส่แว็กและจำไม่ได้ว่าหน้าผากเถิกหรือไม่

ส่วนกรณี โบ TK เข้าให้การตำรวจเมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) ซึ่งเป็นให้การไม่เหมือนที่กระติกเล่าให้ฟัง แม้ไม่ใช่ ประจักษ์พยานโดยตรง แต่โบเป็นพยานแวดล้อม ก็น่าเชื่อถือ และข้อมมูลที่โบเล่าเป็นความจริง ทั้งการให้สัมภาษณ์ ดังนั้นหากพิสูจน์ว่าพยานทั้ง 5 คน ให้การไม่เป็นความจริง อาจโดนข้อหาให้การการเท็จ แต่ต้องดูวาระสำคัญก่อนด้วย เพราะพยานกับผู้ต้องหาต่างกัน เช่น ผู้ต้องหาจะให้การยังไงก็ได้ แต่พยาน หากให้การเกินข้อเท็จจริงก็โดนข้อหาได้

ทนายษิทรา กล่าวถึง ประเด็นคุณแม่ของแตงโม ออกรายการโหนกระแสยอมรับว่าค่อนข้างตกใจ เพราะตนก็มีลูก ยืนยันถ้าเป็นลูกตนคงประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งก็ขอให้แม่น้อง เฮง ๆ ปัง ๆ

ซึ่งแม่ประเมินค่าน้องแตงโมเป็นเงิน 30 ล้านบาท นั้น ขึ้นอยู่กับฝ่ายผู้ต้องหาว่าจะจ่ายไหม ถ้าตกลงกันได้ก็จบ แต่หากผู้ต้องหามองว่ามองว่าแม่เพิ่งมาดูแล แตงโม ได้ไม่นาน จำนวนเงินอาจจะไม่ถึง หากได้เงินสินไหมจำนวนนี้ ยอมรับว่าเป็นเหตุบรรเทาโทษได้ แต่คดีนี้มีผู้เสียหาย 2 คน คือแม่กับพี่ชาย หากพี่ชายไม่ยอม คัดค้านก็ต้องต่อสู้กัน แต่คดีก็ยังเบา เป็นเหตุบรรเทาโทษ ผู้ต้องหาจ่ายเงิน รับสารภาพแล้ว น้ำหนักโทษจะเบาลง เช่น รอลงอาญา

ทนายษิทรา ยืนยันว่าคดีนี้ไม่สามารถยอมความได้แน่นอน เพราะเป็นคดีอาญาแผ่นดิน ส่วนตัวมีความรู้เหมือนทุกคน และอธิบายไม่ถูกและอย่าไปเห็นแก่ใคร ให้เห็นแก่ แตงโม ว่าจะต้องได้รับความยุติธรรมความความจริงต้องปรากฏ ให้ช่วยแตงโม และตนก็เชื่อว่าหากความจริงปรากฏน้องคงสบายใจหมดห่วง

“ดังนั้นอยู่ที่ทางตำรวจว่าคิดทำอย่างไร และจะสนใจในประเด็นที่ตนบอกไหม หรือหากไม่สนใจ สรุปตามสำนวนในตอนนี้ ก็ได้ เพราะมีคนสารภาพแล้ว แต่ถ้าสื่อตามข่าว สังคมตาม เชื่อจะเป็นแรงกดดัน ให้ตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา นายษิทรา กล่าว”

ส่วนเงินประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ที่แตงโมได้มอบประโยชน์ให้ลูกสาวกระติก เป็นความประสงค์ของคุณแตงโม ยืนยันว่าแม่ไม่สิทธ์ เนื่องจากการเอาเงินผู้เยาว์ต้องขอคำสั่งศาล แม้แม่จะร้องขอ ศาลก็ไม่ให้แน่นอน เพราะไม่ใช่ประโยชน์ของผู้เยาว์ แต่ทุกอย่างสามารถเจรจากันได้ แต่หากจะเปลี่ยนแปลงต้องเป็นคุณแตงโมเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย