fbpx

ตั้งคณะกรรมการสอบคดี “แตงโม” พลัดตกเจ้าพระยา

นนทบุรี 1 มี.ค. – ผบก.ภ.จว.นนทบุรี มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนคดีดาราสาว “แตงโม-ภัทรธิดา” พลัดตกแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต เนื่องจากญาติสงสัยและสังคมจับตา ขณะผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เรียกประชุมทีมสืบสวนชุดใหญ่ หลังคดีผ่านมา 5 วัน ยังไม่สามารถหาสาเหตุการตกเรือจมน้ำเสียชีวิตได้


บรรยกาศที่ สภ.เมืองนนทบุรี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เรียกประชุมคณะกรรมการสอบสวนคดีจมน้ำเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม” ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ซึ่งผ่านมาแล้ว 5 วัน ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการตกเรือสปีดโบ๊ทและจมน้ำเสียชีวิตได้ โดยการประชุมวันนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานวานนี้ นำวัตถุพยานที่ได้จากเรือ 2 ถุงใหญ่และอุปกรณ์การทดสอบทสารเคมี เข้ารายงานในที่ประชุม

ขณะที่แพทย์หญิงผู้ทำการผ่าศพ “แตงโม” เข้าร่วมประชุมพร้อมชี้แจงรายละเอียดในการชันสูตรศพของดาราสาว โดยเฉพาะบาดแผลที่ต้นขา ความยาวขนาด 1 คืบ ว่าสามารถพิสูจน์ว่าเกิดก่อนดาราสาวเสียชีวิตหรือไม่ รวมถึงประเด็นน้ำปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะของผู้เสียชีวิต เพื่อพิสูจน์คำให้การที่ว่าดาราสาวไปปัสสาวะท้ายเรือแล้วตกน้ำตาย


พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนคดี “แตงโม” แล้ว โดยมีรองผู้บังคับการสอบสวนเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนเพื่อสะสางคดีในรูปคณะกรรมการ เนื่องจากเป็นคดีใหญ่ มีข้อพิรุจจำนวนมาก สังคมเฝ้าจับตามอง ซึ่งการเชิญแพทย์นิติเวชและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าพบวันนี้เพื่อสอบถามเรื่องวัตถุพยานและผลชันตรสูตรศพเนื่องจากต้องซักถามด้วยวาจา โดยเฉพาะบาดแผลบนร่างกายผู้เสียชีวิตที่ด้านต้นขวาด้านขวา เกิดก่อนหรือหลังเสียชีวิต ส่วนสาเหตุที่ต้องตรวจร่างกายบนเรือทั้ง 5 คนซ้ำอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์บางอย่าง โดยจะตรวจดูบริเวณเล็บ มีเนื้อเยื่อบุคคลอื่นติดหรือไม่ ทุกอย่างจะนำไปประกอบในสำนวนคดี ล่าสุด “กระติก” เพื่อนสนิท ได้เดินมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้

ผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ส่ง พฐ.ร่วมตรวจพิสูจน์

สพฐ. เผยผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทั้งภาค ก. ภาค ข. และไม่ติด 1 ใน 10 ส่งข้อสอบให้ พฐ. ตรวจพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส