กรุงเทพฯ 8 ต.ค. – เมื่อคืนที่ผ่านมา ย่านดินแดงเงียบสงบ ไร้เสียงพลุและประทัดยักษ์ หลังตำรวจสนธิกำลัง 2 กองร้อย ปิดล็อกพื้นที่ ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. ภายหลังเกิดเหตุมือมืดยิงตำรวจควบคุมฝูงชนบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนก่อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน สนธิกำลังร่วมกับตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 รวม 2 กองร้อย ปล่อยแถวบริเวณชุมชนแฟลตดินแดง เพื่อปฏิบัติการปิดล็อกพื้นที่ ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเคอร์ฟิว และมักเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มวัยรุ่น “ทะลุแก๊ส” ก่อความวุ่นวาย โดยตำรวจประกาศให้ชาวชุมชนแฟลตดินแดงกลับเข้าเคหสถาน และไม่ออกมาตลอดช่วงเวลาเคอร์ฟิวด้วย
สำหรับมาตรการนี้ เน้นกวดขันไม่ให้ผู้ชุมนุม หรือบุคคลภายนอก ปะปนแฝงตัวเข้าไปในชุมชนแฟลตดินแดงและก่อความวุ่นวาย ซึ่งยังได้รับความร่วมมือจากชาวชุมชนแฟลตดินแดง ร่วมเป็นสายตรวจคอยสอดส่องดูแลคนนอกพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุต่างๆ ด้วย
ทั้งนี้ ตำรวจย้ำว่า การจับกุมผู้ชุมนุมกว่า 70 คน เมื่อวานนี้ (7 ต.ค.) เป็นการจับกุมตามกฎหมายที่ออกนอกเคหสถานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ถือเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งตำรวจจะมีการคัดกรองผู้กระทำผิดตามกระบวนการ
สำหรับปฏิบัติการปูพรมตรวจค้นแฟลตดินแดง ปิดล้อมตั้งแต่ซอยจตุรทิศ 2 แยก 23 เขตดินแดง ใกล้กับร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเป็นจุดที่ตำรวจถูกยิง บริเวณถนนหลังตลาด และอยู่หลังแฟลตดินแดง อาคาร 1 เมื่อวานนี้ (7 ต.ค.) โดยมีการนำกำลังเจ้าหน้าที่อีโอดี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง เร่งหาพยานหลักฐานและพยานวัตถุ เพื่อใช้ในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นทุกซอย โดยเฉพาะอาคารพาณิชย์ให้เช่า เนื่องจากมีกลุ่มคนต่างจังหวัดพักอาศัย และที่ผ่านมามีชาวบ้านเห็นบุคคลนอกพื้นที่เข้า-ออก เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะซอยหมอเหล็ง กับแฟลตดินแดง ที่เชื่อมต่อกัน ทำให้กลุ่มคนดังกล่าวผ่านเส้นทางนี้จำนวนมาก และบริเวณแฟลตดินแดง อาคาร 1 ใกล้จุดเกิดเหตุตำรวจถูกยิงมากที่สุด เบื้องต้นตำรวจควบคุมผู้ต้องสงสัย 13 คน ก่อนจะนำไปสอบสวน. – สำนักข่าวไทย