บช.น.เตรียมพร้อมรับมือการชุมนุม “ม็อบ22สิงหา”

กทม. 22 ส.ค.-บช.น.แถลงเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมกลุ่มทะลุฟ้า บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และกลุ่มทะลุแก๊ส ถนนดินแดงและถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงเย็นวันนี้ ขอประชาชนเลี่ยงเข้าพื้นที่

พลตำรวจตรี ปิยะต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก กล่าวถึงการเตรียมการรับมือการชุมนุมในวันนี้ของกลุ่มทะลุฟ้าบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และกลุ่มทะลุแก๊ส ถนนดินแดงและถนนวิภาวดีรังสิต โดยในช่วงเย็นวันนี้เจ้าหน้าที่จะยังคงใช้การจัดกำลังตามสถานการณ์การชุมนุมของแต่ละพื้นที่ และจะเริ่มปิดการจราจรช่วงก่อนการชุมนุมประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่ในช่วงเวลาดังกล่าว


สำหรับการชุมนุมเมื่อวานนี้ที่บริเวณถนนดินแดงและวิภาวดีรังสิต ของกลุ่มทะลุแก๊ส พบว่ามีการเคลื่อนกำลังผ่านไปบนถนนวิภาวดีรังสิตพร้อมกับใช้ประทัดยักษ์และวัตถุทรงกระบอกคล้ายไปป์บอมหรือระเบิดแสวงเครื่อง ปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจและสถานที่ราชการเช่น กองดุริยางค์ทหารบก อุปกรณ์โทรศัพท์ฉุกเฉินบนทางด่วน และตู้เก็บเงิน จนเกิดความเสียหาย อีกทั้งยังมีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานของวัตถุที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจากนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ให้มีการยกเลิกการใช้สิ่งกีดขวางบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตและถนนดินแดงคุณเมื่อวานนี้เป็นวันแรกที่เริ่มมีการปรับใช้ตามแผนของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ก็พบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมยังคงใช้ความรุนแรงเหมือนเดิม จึงจำเป็นต้องนำกำลังของตำรวจควบคุมฝูงชนเข้าไปควบคุมสถานการณ์ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะแยกย้ายกันออกไป

ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลจะมีการปรับรูปแบบการเข้าควบคุมสถานการณ์การจัดกำลังของตำรวจควบคุมฝูงชนในแต่ละวันแตกต่างกันไปตามการข่าวที่ได้รับ และสถานการณ์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการควบคุมสถานการณ์มากที่สุด แต่ก็จะให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด


ส่วนกรณีที่ชาวบ้านบริเวณแฟลตดินแดงยังคงร้องเรียนถึงผลกระทบจากการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ล่าสุดทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ทำการประสานกับกรุงเทพมหานคร และการเคหะแห่งชาติ ให้เข้ามาติดตั้งประตูเหล็ก และตาข่ายกั้นสูง เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมขว้างปาสิ่งของเข้าไปด้านใน หรือได้รับผลกระทบจากกระสุนยางและก๊าซน้ำตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกทั้งยังเป็นการกันพื้นที่แยกผู้ชุมนุมออกจากชาวบ้านภายในแฟลตดินแดง ยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติงาน

สำหรับกรณีของคลิปภาพเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชนใช้ปืนยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุมที่ขี่รถจักรยานยนต์ในระยะประชิดตัวนี้การเผยแพร่ภาพลงในโลกโซเชียลและเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ว่า ขณะนี้ทราบว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว ซึ่งเบื้องต้นทราบแล้วว่าตำรวจนายดังกล่าวคือใครพร้อมทั้งมีการเรียกเข้ามาพูดคุยสอบถามข้อเท็จจริงแล้วในระดับหนึ่ง แต่ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะทำงานจึงจะสามารถระบุได้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจนายดังกล่าวมีความผิดหรือไม่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมฝูงชนตามปกติ แต่ก็ได้ให้ผู้บังคับบัญชาแต่ละหน่วยกำชับแนวทางการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามยุทธวิธีและกฎหมายมากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดภาพในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก

ด้านพลตำรวจตรีจิรสันต์ ชี้แจงถึงการจัดการจราจรในช่วงที่มีการชุมนุมโดยเฉพาะบริเวณถนนดินแดงและวิภาวดีรังสิตของกลุ่มทะลุแก๊ส ที่มักมีประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนพี่ไม่ทราบว่าเริ่มมีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือมีการรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมแล้วขับรถเข้าไปภายในจุดดังกล่าวเป็นจำนวนมากจนเกิดการร้องเรียนกับสื่อมวลชนหลายครั้ง เบื้องต้นในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการจราจรของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละจุดพบว่าได้มีการนำแผงเหล็กมากั้นปิดการจราจรแล้วและให้ตำรวจจราจรยืนประจำการในแต่ละจุดแต่เมื่อการชุมนุมรุนแรงขึ้นพบว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและนำแผงเหล็กที่นำมากั้นไว้ออก จนทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดและขับรถเข้าไปในจุดดังกล่าว อีกครั้งการทำงานยังต้องประสานกับฝ่ายความมั่นคงเพื่อทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมและนำไปปรับใช้กับการปิดการจราจรในพื้นที่ ทำให้เกิดข้อจำกัดในการทำงานค่อนข้างมาก แต่หลังจากนี้จะนำข้อมูลการต้องการของประชาชนไปปรับแก้ให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด


สำหรับการดำเนินคดีล่าสุดวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 13 คน พร้อมของกลาง ระเบิดปิงปอง 53 ลูก ระเบิดแสวงเครื่อง 10 ลูก เครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง ข้อหาความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมช่วงก.ค.-ส.ค. ดำเนินคดีทั้งสิ้น 90 คดี มีผู้ต้องหาที่จะถูกดำเนินคดี 481 คน จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย 224 คน คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนบช.น. จะออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมและกระทำผิดต่างๆ อีก 118 หมาย แบ่งเป็นกลุ่มแกนนำทั้งหมด 16 หมาย กลุ่มผู้ชุมนุมอื่นๆ 102 หมาย ทั้งนี้ กรณีที่มีการใช้ความรุนแรงตามที่มีภาพปรากฎออกมา มีความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาอั้งยี่ซ่องโจร การวางเพลิงเผาทรัพย์ และการสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อนให้เกิดเหตุความรุนแรงในบ้านเมือง ทางพนักงานสอบสวนจะออกหมายจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุดังกล่าว

ขณะที่ความคืบหน้าที่คดีเด็กอายุ 14 ปี ถูกยิง นายชุณหะวัน พ่อของเด็กชายวัย 14 ปี เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีความ ว่า เมื่อวานที่ผ่านมาตัวเองและลูกชายลงพื้นที่พร้อมตำรวจสืบสวน เพื่อพิสูจน์ทราบจุดเกิดเหตุ โดยตำรวจเทียบเคียงจากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางเกิดเหตุ บนถนนประชาสงเคราะห์และพบข้อมูลภาพระบุเวลาช่วงค่ำในวันที่ 16 สิงหาคม ซึ่งเวลาใกล้ช่วงเกิดเหตุที่ลูกชายถูกยิง ซึ่งจุดเกิดเหตุคือ ปากซอยประชาสงเคราะห์ 14 ช่วงโค้งหน้าปากซอย ชายต้องสงสัยมีลักษณะผอม สูงในมือถือปืนชัดเจน โดยลูกชายยืนยันว่า มีลักษณะคล้ายผู้ก่อเหตุ

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตำรวจสืบสวนมีข้อมูลผู้ต้องสงสัยแล้ว และอยู่ระหว่างสืบสวนติดตามเพื่อพิสูจน์ตัวตน จากนั้นจะรวบรวมพยานหยักฐานยื่นต่อศาลเพื่อขอออกหมายจับผู้ก่อเหตุ มาดำเนินคดี .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ