กลุ่มรวมพลังแผ่นดินนัดแสดงพลังใหญ่ไล่นายกฯ 28 มิ.ย.นี้

รร.รัตนโกสินทร์ 24 มิ.ย. – กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน นัดแสดงพลังใหญ่ปกป้องอธิปไตยของชาติ 28 มิ.ย.นี้ ขับไล่นายกฯ ลาออก-พรรคร่วมฯ ถอนตัว และร่วมกันปกป้องอธิปไตยของชาติ


นักเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายกลุ่ม ร่วมกันแถลง “รวมพลังแผ่นดิน” ปกป้องอธิปไตยไทย เพื่อขับไล่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีแกนนำหลักๆ อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, นายประพันธ์ คูณมี อดีต สว., อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน, นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา, นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่ม คปท. และนายแก้วสรร อติโพธิ

นายพิชิต กล่าวว่า กิจกรรมของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทยยังคงเดินหน้าขอให้ประชาชนมาร่วมกันแสดงพลังได้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายนนี้ ตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น. โดยยืนยัน “แพทองธาร” ต้องลาออก โดยในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ ขอเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศ ร่วมกันร้องเพลงชาติในจังหวัดของตัวเอง โดยจะนัดหมายกันที่ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ต่างๆ ที่มีการนัดหมายกัน ซึ่งมีการตอบกลับจากประชาชนในหลายจังหวัดแล้ว


อาจารย์ปานเทพ บอกว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนที่จะมาร่วมแสดงพลังในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ โดยติดแฮชแท็ก #28มิถุนามาแน่ เพราะต้องการทราบจำนวนที่อยู่ในทุกแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ยังร่วมกิจกรรมได้จากพื้นที่ที่ท่านอยู่ โดยการติดธงชาติไทย หรือสติกเกอร์ธงชาติไทย ที่บ้าน รถ ฯลฯ ส่วนวันที่ 26 มิถุนายนนี้ เชิญชวนร่วมกันร้องเพลงเคารพธงชาติร่วมกันในพื้นที่ที่เหมาะสมในแต่ละจังหวัด เพื่อแสดงความประสงค์ของการแสดงพลังในครั้งนี้โดยไม่มีคนหนุนหลังจากนักการเมืองหรือนายทุนคนใด จึงมีการลงมติให้มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เป็นผู้เปิดรับบริจาคจากประชาชนโดยมีที่มาที่ไปชัดเจน มอบหมายให้คน 3 คน เป็นผู้ตัดสินใจในการเบิกจ่าย ประกอบด้วย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, อ.แก้วสรร อติโพธิ และทนายนิติธร ล้ำเหลือ จนถึงขณะนี้มีคนผู้สนับสนุนกว่า 12,000 คน ยอดเงินกว่า 10 ล้านบาท เพื่อแสดงพลังว่าทุกคนรักชาติ รักแผ่นดิน ด้วยพลังบริสุทธิ์อย่างแท้จริง

อาจารย์ปานเทพ บอกว่า ขณะนี้มีความพยายามดิสเครดิตอ้างว่านายสนธิจะมีสคริปต์เตรียมด่าลุงตู่ ยืนยันว่าเป็นเท็จทั้งสิ้น ขณะนี้มีความพร้อมในการจัดงานและจะดำเนินการชุมนุมอย่างโปร่งใส ทั้งนี้จะให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่รัฐในทุกประเด็น ส่วนเงินที่เหลือจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ทั้งหมดจะมอบไปสนับสนุนภารกิจของกองทัพภาคที่ 2 ทั้งหมด 100% เพื่อให้ทหารหาญได้มีขวัญกำลังใจ ให้เป็นรั้วของชาติที่เข้มแข็งและมีพลังที่สุด

นายจตุพร กล่าวว่า มีคนฝากเงินจากคนรักชาติรักบ้านเมืองไม่ประสงค์จะออกนามเพื่อมอบให้กับกองทุนนี้จำนวน 100,000 บาท ขณะนี้ทราบว่ามีคนสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดโดยบุคคลตัวโตไม่ออกนาม ว่าจังหวัดใดปล่อยให้ประชาชนเดินทางมาในวันเสาร์นี้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจะมีการคาดโทษ จึงขอเรียกร้องเชิญชวนประชาชนคนไทยทุกคนร่วมมือ ร่วมใจสามัคคี ลดเงื่อนไขความขัดแย้งร่วมกันเป็นพลังแผ่นดิน แสดงตนให้นายกรัฐมนตรีลาออกทันที พรรคร่วมรัฐบาลต้องถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลทันที พร้อมให้ขวัญกำลังใจเคียงข้างทหารเพื่อปกป้องแผ่นดินอธิปไตยของชาติอย่างกล้าหาญมั่นคง และร่วมกันหารือแนวทางแก้ไขบ้านเมืองตามวิถีทางตามระบอบการปกครองประชาธิปไตย โดยยึดหลักศีลธรรม หลักความสุจริต หลักสิทธิมนุษยชน หลักธรรมาภิบาล เพื่อให้ประเทศพัฒนาจนเกิดความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน ทั้งด้านการเมืองเศรษฐกิจ สังคม และกลุ่มสัมพันธ์ระหว่างประเทศสืบไป


นายจตุพร กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้มี 3 ภารกิจหลัก คือ ให้นายกรัฐมนตรีลาออก, พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และร่วมกันปกป้องอธิปไตยของชาติ โดยจะไม่มีการเรียกร้องให้มีการรัฐประหารอย่างเด็ดขาด การดำเนินการในครั้งนี้ไม่มีสีใด มีสีเดียวคือสีประเทศไทยเท่านั้น ทั้งนี้มีการปั่น IO ไม่ให้คนมาร่วมแสดงพลังเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ดังนั้นการแสดงพลังในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ จำนวนประชาชนที่มาจะบอกได้ว่าเขาจะอยู่หรือไป ไม่ว่าคุณจะมีอาชีพอะไรสามารถมาแสดงพลังได้แต่เวทีนี้จะไม่รองรับคนขายชาติบ้านเมืองอย่างเด็ดขาด ในวันดังกล่าวจะมีทหารที่รักชาติบ้านเมืองจะมาร่วมแสดงพลังด้วย

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ บอกว่า ในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ จะไปร่วมชุมนุมกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีวัตถุประสงค์เพื่อขับไล่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลนี้ให้พ้นจากการบริหารประเทศให้ได้ พร้อมยืนยันว่าการทำกิจกรรมชุมนุมนี้ไม่มีแกนนำ กิจกรรมครั้งนี้ไม่ได้จัดขึ้นเล่นๆ เปรียบเทียบกับการที่ตัวเองจับคนร้ายสมัยเป็นตำรวจก็ไม่เคยทำเล่นๆ และในการชุมนุมครั้งนี้จะมีอดีตทหารมาร่วมปราศรัยด้วย ส่วนเรื่องจัดการปัญหาระหว่างดินแดนมองว่าอยากให้มีการจัดการอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่การสั่งปิดด่านอย่างในตอนนี้ แต่อยากให้มีการยึดพื้นที่ของประเทศไทยคืนกลับมาทั้งหมด ไม่เช่นนั้นปัญหานี้จะไม่จบ.-419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย