แรงหึง! เซียนเครื่องรางกระทืบรุ่นน้องดับ–เมียสาหัส

กรุงเทพฯ 7 ส.ค.- เซียนเครื่องรางเลือดร้อน เห็นเมียนุ่งกระโจมอกอยู่กับเพื่อนรุ่นน้อง รุดเข้ากระทืบจนเสียชีวิต ส่วนฝ่ายหญิงโดนตีหัวแตก


เหตุเกิดเมื่อกลางดึก ตำรวจ สน.บางพลัด รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายในบ้านเลขที่ 16 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้ปากซอย 66 แขวงและเขตบางพลัด กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นศูนย์รับเช่าและจำหน่ายเครื่องรางของขลังชื่อร้าน “เต๋า ซังฮี้” ให้บริการจัดหาวัตถุมงคลสายตรง “บ้านมีดี” ของ อ.เที่ยง น่วมมานา และ อ.ป่อง น่วมมานา ฆราวาสสายสักยันต์ชื่อดังฝั่งธนบุรี จากการตรวจสอบบนที่นอนในโซนพักผ่อนหลังบ้านชั้นล่าง พบศพ นายภาณุพล หรือเบียร์ อายุ 34 ปี นอนตะแคงซ้ายคว่ำหน้า มีบาดแผลถูกทำร้ายที่ใบหน้า กระดูกดั้งจมูกแตก เบ้าตาช้ำ 2 ข้าง ใบหูขวาฉีก จนถึงแก่ความตาย เบื้องต้นจึงมอบศพให้แพทย์นิติเวชนำไปผ่าชันสูตรหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง

ส่วนฆาตกรเป็นเจ้าของศูนย์จัดหาเครื่องรางดังกล่าวและเป็นเพื่อนรุ่นพี่ผู้ตายชื่อ นายทรัพย์สิน หรือเต๋า อายุ 37 ปี ยืนรอมอบตัวกับตำรวจในสภาพเมาสุราอย่างหนัก พร้อมให้การว่าก่อนเกิดเหตุตนกับภรรยาชื่อ น.ส.อรสา หรือสา อายุ 28 ปี ที่เพิ่งคบหามา 5 เดือน และนายภาณุพล ผู้ตายที่แวะมาเยี่ยมเยียน ได้นั่งกินดื่มเบียร์อยู่ในบ้านจนเมา เมื่อตนง่วงนอนจึงขอตัวขึ้นไปนอนบนห้องพักชั้น 2 จากนั้นตนลงมาเข้าห้องน้ำ แต่เห็นภาพบาดตาคือ ภรรยาตนกำลังนุ่งผ้าขนหนูกระโจมอกผืนเดียว อยู่กับนายภาณุพล บนที่นอนในโซนพักผ่อนชั้นล่างทำให้เกิดบันดาลโทสะ ใช้เท้าเตะและกระทืบนายภาณุพลจนแน่นิ่ง จากนั้นใช้เก้าอี้ฟาด น.ส.อรสา จนแตกที่บริเวณศีรษะด้านหลังแล้วรอมอบตัวกับตำรวจ


ตำรวจบอกว่า หลังเกิดเหตุได้ให้กู้ภัยนำตัว น.ส.อรสา ไปรักษาอาการบาดเจ็บศีรษะแตกที่ รพ.วชิรพยาบาล จากนั้นจะให้พนักงานสอบสวนตามไปสอบปากคำว่าให้การสอดคล้องหรือต่างกับ นายทรัพย์สินสามีเลือดร้อนหรือไม่ ส่วนนายทรัพย์สินนั้นระหว่างที่ตำรวจเข้ามาตรวจที่เกิดเหตุสามารถตรวจยึดอาวุธปืน ยี่ห้อโคลท์ รุ่นดีเฟนเดอร์ ขนาด 11 มม.ที่เจ้าตัวอ้างว่า เป็นของส่วนตัวมีทะเบียนถูกต้องไว้ได้ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน แต่ไม่ได้ใช้ยิงใคร จากนี้จะนำตัวนายทรัพย์สินไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพักเพื่อดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนอาวุธปืนจะยึดไว้ตรวจสอบว่าเคยนำไปก่อคดีใดมาก่อนด้วยหรือไม่

นางจุฑาทิพ ช่อจอหอ อายุ 56 ปี มารดาของผู้ต้องหา เดินทางมาที่เกิดเหตุเล่าว่า เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 6 ส.ค.ทราบว่า นายภาณุพล เพื่อนรุ่นน้องคนสนิทของลูกชาย เเวะมา และชักชวนลูกชายกับภรรยานั่งดื่มเบียร์กัน กระทั่งทราบอีกทีว่าเกิดเรื่องขึ้นจึงรีบเดินทางมาดูลูก โดยก่อนหน้านี้ตนก็เคยตักเตือนแล้ว ว่าช่วงเข้าพรรษาขอให้งดดื่มสุรา และตั้งใจสวดมนต์ภาวนาให้มากๆ เนื่องจากลูกชายก็เป็นคนศรัทธาพระพุทธศาสนา ชอบศึกษาพระเครื่องและเครื่องรางประกอบกับเป็นคนมีครูบาอาจารย์สักอักขระเลขยันต์เต็มร่างกาย กระทั่งวันนี้พอดื่มสุราเข้าไปจึงทำให้เกิดเหตุน่าสลดใจที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

ตร.ส่งสัญญาณจับตายโจรมาเลย์ชิงทอง

ตำรวจประชุมเร่งรัดคดีชายชาวมาเลเซียชิงทอง 184 บาท กลางเมืองหาดใหญ่ ย้ำใช้หลักยุทธวิธีไม่ประมาท เพราะคนร้ายมีปืน ส่งสัญญาณอย่าคิดต่อสู้ ตำรวจพร้อมป้องกันตัว

ศาล รธน.ไม่รับคำร้อง “ณฐพร” ขอสั่งฟัน กกต.ปล่อยฮั้วเลือก สว.

ศาลรัฐธรรมนูญเอกฉันท์ ไม่รับคำร้อง “ณฐพร” ขอสั่งฟัน กกต. ปล่อยฮั้วเลือก สว. เหตุไม่ใช่ผู้ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ กกต.ทำตามกฎหมาย หากเสียหายใช้สิทธิทางศาลอื่นได้

กู้ภัยโต้กระแสข่าวอาคารยุบตัวไม่เป็นความจริง

กู้ภัยโต้กระแสข่าวอาคารยุบตัวไม่เป็นความจริง เจ้าหน้าที่เน้นใช้เครื่องจักรสลับทีมกู้ภัย คาด 2 วัน พบผู้สูญหายมากขึ้น