กาฬสินธุ์ 27 ก.พ. – หลานชายวัย 24 ใช้ท่อนเหล็ก ตีลุงวัย 50 เสียชีวิต หลังไม่พอใจ ลุงชอบด่าหมาที่เลี้ยงไว้เป็นประจำ และไม่จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ทำให้แม่เดือดร้อน
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา กล้องวงจรปิดบันทึกภาพชายคนหนึ่ง พูดเสียงดังจับใจความว่า “ให้ถามเบิ่งเกิ่นหนะ ให้เว้าม่วนๆ แหน่ เว้าให้มันม่วนๆ แหน่” ก่อนจะเปิดประตูรั้ว เดินเข้ามาในบ้าน มีเสียงหมาเห่า และมีชายอีกคนในบ้าน และหญิงเสื้อชมพูเดินออกมาหา ที่บริเวณหน้าบ้าน หญิงใส่เสื้อสีชมพูถามว่า “ลุงข่อยถามแหน่เจ้าเมาบ่อ” คุณลุงก็ตอบว่า “เมา แต่ว่ามีความคิด” จากนั้นก็มีปากเสียงกัน โดยระหว่างนั้น ชายที่อยู่ในบ้านซึ่งในมือกำท่อนเหล็กไว้อยู่ก่อนแล้ว ได้กระหน่ำตีชายที่เข้ามาในบ้านไปหลายครั้ง ก่อนใช้เท้าทีบ จนล้มลงไปนอนกับพื้น ไม่ได้สติ จนญาติๆ ต้องเขย่าตัว เรียกหลายครั้งผ่านไป 3 นาที ก็ยังไม่ฟื้น จึงต้องแจ้งกู้ภัย และตำรวจ สภ.นามน มาช่วยเหลือทำซีพีอาร์ จนชีพจรกลับคืนมา และส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลนามน แต่ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา เบื้องต้นสภาพศพ พบรอยแดงช้ำที่ใต้ราวนม จากการถูกท่อนเหล็กตีซ้ำหลายครั้ง
เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นในบ้านพัก หมู่ 1 บ.หลักเหลี่ยม ต.หลักเหลี่ยม อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ และหลังเกิดเหตุ มีนายธนาทรณ์ อายุ 24 ปี หลานชาย ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ สอบถามพยานในที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิต ชื่อนายสวัสดิ์ หรือก้อง มีศักดิ์เป็นลุงของผู้ก่อเหตุ โดยก่อนเกิดเหตุ ลุงได้เดินมาเปิดประตูบ้านจุดเกิดเหตุเข้ามาหาหลายชาย เพื่อต้องการสอบถามถึงเรื่องที่ผู้ก่อเหตุพูดจาก้าวร้าวตน ไม่ให้เกียรติผู้หลักผู้ใหญ่ ก่อนจะมีปากเสียงกันขึ้นระหว่างนั้น ผู้ก่อเหตุได้ถือเหล็กป้องอ้อยยาว 70 ซม. ติดมือออกมาจากบ้านด้วย ก่อนจะใช้เหล็กตีลุง 4 ครั้ง และใช้เท้าถีบลงจนล้ม โดยลุงไม่ได้ต่อสู้ หรือป้องกันตัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ก่อนควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์
ระหว่างนั้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามผู้ก่อเหตุ ว่าปัญหาขัดแย้งกับลุงเรื่องอะไร ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าต้นเหตุ เกิดจาก นายสวัสดิ์ หรือ ลุงก้อง ไม่ยอมจ่ายค่าน้ำค่าไฟที่บ้านสวน ทำให้เกิดปัญหากับแม่ตนมากว่า 1 ปี ล่าสุดลุงก้องยังมาด่าหมาของตนว่า ชอบเห่าเสียงดัง และกระทบมาถึงตนและมารดา ทำให้บันดาลโทสะก่อเหตุดังกล่าว และการกระทำของตนก็ทำเพื่อปกป้องคนในครอบครัว หากไม่ทำคนในครอบครัวอาจได้รับอันตรายแก่ชีวิตได้.-สำนักข่าวไทย
