“เด่นภูมิ” ใช้สิทธิไม่ขอทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – วันนี้ตำรวจมีแผนจะคุมตัว “เด่นภูมิ” ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพคดีกระทำชำเราพริตตี้สาวหลายราย แต่สุดท้ายต้องยกเลิก เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ยินยอม

หลังจากวานนี้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามได้ควบคุมตัวนายเด่นภูมิ หรือโจอี้ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาที่อ้างตัวเป็นโมเดลลิ่ง หลอกข่มขืนพริตตี้สาวหลายราย ไปแถลงข่าว จากนั้นนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ปรากฏว่าระหว่างการนำตัวเข้าสถานีตำรวจ มีผู้เสียหาย ครอบครัว และคนที่รู้จักซึ่งทราบข่าว ไปดักรอรุมประชาทัณฑ์ด้วยความโกรธแค้น จนตำรวจต้องรีบเข้าระงับเหตุการณ์ และพาตัวผู้ต้องหาเข้า สน. ไปอย่างรวดเร็ว

หลังสอบสวนปากคำตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เดิมมีการหารือกันว่าจะพาตัวนายเด่นภูมิไปทำแผนฯ เพื่อชี้จุดเกิดเหตุ และเตรียมจัดกำลังตำรวจดูแลความเรียบร้อย ป้องกันเหตุความวุ่นวายไว้จำนวนหนึ่ง แต่หลังพนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำเพิ่มเติมในช่วงเช้า

พันตำรวจเอกวิศิษฐ์ สังขนันท์ ผู้กำกับการ สน.บางขุนเทียน เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาได้ขอใช้สิทธิไม่ขอให้พาไปทำแผนฯ ชี้จุดเกิดเหตุ พร้อมกับร้องขอทนายความในการต่อสู้คดี โดยยืนยันให้การปฏิเสธตามข้อกล่าวหาที่ถูกออกหมายจับ จากการสังเกตพบว่านายเด่นภูมิมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด จึงกำชับให้เฝ้าระวังป้องกันเหตุคิดสั้นระหว่างถูกควบคุมตัว ส่วนการดำเนินคดีกับนายเด่นภูมิ จะประสานให้ผู้เสียหายทั้ง 2 คดี เข้ามาชี้ตัวยืนยันตัวผู้ต้องหาประกอบสำนวนคดี และวันพรุ่งนี้จะนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรีฝากขัง ส่วนที่ผู้ต้องหาได้ไปก่อเหตุในพื้นที่อื่นๆ คาดว่าจะมีการไปขออายัดตัวอีกครั้งหลังการส่งฝากขังต่อศาลไปแล้ว

สำหรับในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน มีผู้เสียหาย 2 คน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายเด่นภูมิ โดยแยกความผิดเป็น 2 คดี เนื่องจากคนหนึ่งนั้นเหตุเกิดในเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนอีกคนเหตุเกิดในเดือนพฤษภาคม

นายวรกร พงศ์ธนากุล ทนายความ ระบุว่า ไม่ว่าผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรถือเป็นสิทธิ แต่เชื่อว่าจะสามารถเอาผิดได้แน่นอน พร้อมเผยว่านายเด่นเคยก่อเหตุกับเหยื่อกว่า 30 คน เชื่อมั่นว่าเพียงพอจะชี้ให้ศาลเห็นว่าผู้ต้องหาได้ก่อเหตุจริง นอกจากนี้ยังมีพยานหลักฐานอื่น เช่น คลิปเสียงบันทึกการสนทนา ที่สามารถนำไปประกอบสำนวนคดีเอาผิดกับผู้ต้องหาได้.-สำนักข่าวไทย