กทม.31 มี.ค. –ตำรวจแจ้งเพิ่มอีก 4 ข้อหา กลุ่มการ์ดวีโว่ที่พยายามขัดขวางชิงตัวผู้ต้องหา จากการชุมนุมหน้าศาลอาญาฯ เมื่อ 6 มีนาคมที่ผ่านมา
ตำรวจควบคุมฝูงชนกว่า 30 นาย กระจายกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย บริเวณโดยรอบ และ ภายใน สน.พหลโยธิน เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันกำหนดนัดหมายนำตัวกลุ่มการ์ดวีโว่ ที่ถูกจับกุมบริเวณลานจอดรถศูนย์การค้าเมเจอร์รัชโยธิน และที่มีการสกัดกั้นรถควบคุมผู้ต้องหา เป็นเหตุให้ตำรวจไม่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีได้ เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ไปส่งฟ้องพนักงานอัยการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยภายใน สน. มีการตั้งจุดตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 และวางแนวแผงเหล็กที่หน้าทางเข้าสถานีตำรวจ นอกจากนี้ยังมีการติดป้ายเตือนให้เห็นว่าเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ห้ามนำสิ่งของต่างๆ เข้าพื้นที่ควบคุม เช่น อาวุธ , รถและเครื่องขยายเสียง รวมถึงป้ายข้อความ หรือสัญลักษณ์ต่างๆ อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบ ขณะที่ผู้ถูกออกหมายเรียก จำนวน 45 คน และทนายความ ก็ทยอยเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรายงานตัว
พันตำรวจเอกประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.พหลโยธิน ระบุว่า เป็นการนัดหมายผู้ต้องหาเพื่อมาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอย่างน้อยใน 4 ข้อหา คือ มียุทธภัณฑ์ทางทหารไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , มีวิทยุสื่อสารไว้ในครอบครอง , ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนำหลักฐานต่างๆ ที่ตรวจยึดได้จากที่เกิดเหตุ เช่น พลุ , ประทัด , ดอกไม้ไฟ , วิทยุสื่อสาร และของกลางอื่นๆ ไปตรวจพิสูจน์ และรายงานผลกลับมาประกอบการพิจารณาดำเนินคดี แต่เนื่องจากผู้ต้องหาแต่ละคนมีพฤติการณ์กระทำผิดไม่เหมือนกัน จึงต้องแยกแจ้งข้อกล่าวหาไปตามข้อเท็จจริงที่ตำรวจพิสูจน์ได้ จากนั้นก็จะอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ระหว่างรอประกอบสำนวนคดี ก่อนนำตัวส่งพนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป
สำหรับผู้กระทำผิดในคดีนี้พบว่าในวันเกิดเหตุวันที่ 6 มีนาคม มีผู้ถูกจับกุม18 คน หลบหนี 30 คน ก่อนที่ผู้ที่หลบหนีจะทยอยเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี ซึ่งต่อมาตำรวจได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา 45 คน เข้ารับทราบข้อหาฐาน เป็นอั้งยี่ , ซ่องโจร , ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ -สำนักข่าวไทย