ผลประชุมองค์กรสื่อ กับ ผบช.น. หารือการทำงานสื่อมวลชนในพื้นที่ชุมนุม

กทม. 25 มี.ค.- ตัวแทน 6 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ประกอบด้วย สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติสภาวิชาชีพนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทยเข้าพบและประชุมร่วมกับ พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บช.น. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ห้องปารุสกวัน 2 กองบัญชาการตำรวจนครบาล 


ประเด็นหารือเรื่องแนวทางการทำงานของสื่อในสถานการณ์การชุมนุม หลังเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 20 มีค.2564 ที่มีนักข่าวได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยางของตำรวจ และสถานการณ์อื่น ๆ ก่อนหน้านี้ที่มีผลกระทบกับสื่อมวลชนในพื้นที่ชุมนุม  โดยในที่ประชุมองค์กรวิชาชีพนำเสียงสะท้อนจากสื่อมวลชนภาคสนาม บรรณาธิการสื่อหลายสำนักที่ได้เปิดรับฟังข้อเสนอก่อนหน้านี้ สรุปเป็นปัญหาในการทำงานในพื้นที่ชุมนุม 

โดยองค์กรวิชาชีพ ยืนยันความมีเสรีภาพของสื่อมวลชน เมื่อเกิดเหตุการณ์ควรจะให้มีสื่อมี”พื้นที่ที่ปลอดภัย” ในการรายงานข่าวได้ ไม่ใช่กันให้ออกจากพื้นที่ เพราะไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่ายในการรายงานข้อเท็จจริง และได้สะท้อนปัญหาการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ที่บางครั้งใช้ความรุนแรงต่อสื่อมวลชน พร้อมกับปฏิเสธการใช้ปลอกแขนสื่อมวลชนที่จะมีการดำเนินการจัดทำและลงทะเบียนโดยฝ่ายตำรวจ ยืนยันที่จะใช้ปลอกแขนสื่อมวลชนที่ออกโดยองค์กรวิชาชีพเท่านั้น ซึ่งจะมีการออกแบบใหม่ให้เห็นเด่นชัด มีความคงทนถาวร และลงทะเบียนป้องกันการแฝงตัวการเป็นสื่อมวลชน


พร้อมกับยืนยันว่าปลอกแขนสื่อมวลชนเป็นเพียงสัญลักษณ์ในการแสดงตัว ไม่ใช่ใช้เป็นเครื่องมือในการอ้างเพื่อละเมิดกฎหมาย  นอกจากนี้จะมีการรับฟังความคิดเห็นเพื่อจัดทำสัญลักษณ์อื่นที่ไม่ใช่ปลอกแขน อาทิ เสื้อกั๊กสะท้อนแสง ที่มีสื่อมวลชนต่างประเทศใช้ในพื้นที่ชุมนุม 

องค์กรวิชาชีพสื่อ เสนอให้ตำรวจแจ้งประชาสัมพันธ์ตำรวจที่สลับสับเปลี่ยนมาปฏิบัติภารกิจควบคุมฝูงชนว่า สื่อมวลชนใช้สัญลักษณ์ใดแสดงตน  พร้อมกับสะท้อนปัญหาที่รับแจ้งจากสื่อมวลชนภาคสนามว่ามีตำรวจบางคนใช้ปลอกแขนที่อาจจะคล้ายของสื่อมวลชน ที่อาจจะสร้างความเข้าใจผิดได้ ซึ่ง ผบช.น. รับปากและยืนยันจะสั่งการการผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติเช่นนั้น

อย่างไรก็ตามเมื่อมีการชุมนุมองค์กรวิชาชีพสื่อจะจัดให้มี “ผู้ประสานงาน” ของสื่อในภาคสนามโดยอาจเป็นสื่อที่มีอาวุโสหรือเป็นที่รู้จักของคนในภาคสนามเป็นตัวแทน  สำหรับประสานงานกับทางตำรวจที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ประสาน รวมถึงทำหน้าที่ประสานกับแกนนำผู้ชุมนุมเมื่อเกิดเหตุเฉพาะหน้าที่จะมีสัญลักษณ์ ปลอกแขนสีขาว ขลิบสีส้ม 


ขณะเดียวกัน องค์กรวิชาชีพสื่อ สะท้อนว่าเนื่องจากมีสื่อมวลชนหน้าใหม่ อายุงานยังน้อยจำนวนมาก ไม่เคยผ่านประสบการณ์ทำข่าวการชุมนุม และไม่เคยผ่านการอบรมโครงการอบรมการรายการข่าวในสถานการณ์ขัดแย้งฯ หรือ safety training ขององค์กรวิชาชีพ จึงเสนอจัดอบรมหลักสูตรเร่งรัด พร้อมกับจะจัดทำคู่มือการทำข่าวในสถานการณ์ขัดแย้ง เน้นการชุมนุมทางการเมือง

ข้อมูลจากสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย https://www.tja.or.th/view/activities/media-movements/947233

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

พ่อขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิตจากตึก สตง.ถล่ม

พ่อของหนุ่มขอนแก่น วัย 35 ปี หนึ่งในผู้สูญหายจากอาคาร สตง.ถล่ม ขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิต ส่วนหนุ่มช่างประปา วัย 32 ปี เหยื่อตึก สตง.ถล่ม เผาแล้ว แม่ยังทำใจไม่ได้ สะอื้นไห้หน้าเมรุ

“ชัชชาติ” เผยเตรียมกู้ 5 ร่างที่พบ-ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเตรียมกู้ 5 ร่าง จาก 14 ร่างที่พบ ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน ยันไม่ขีดเส้นตายหยุดช่วยเหลือ ปรับแผนเพิ่มการรื้อถอนด้วยเครื่องจักรหนักควบคู่ไปมากขึ้น