กมธ.ตร.ติดตามคดียิง จนท.องค์การเภสัชดับหน้าสน.ดุสิต

กทม.8 ธ.ค.- รองประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เข้าติดตามความคืบหน้าคดี ตำรวจ ยิง เจ้าหน้าที่องค์การเภสัช เสียชีวิตหน้า สน.ดุสิต ยืนยันพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


เวลา 12.30 น. นาวสาวจิตภัสร์ กฤดากร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เข้าติดตาม กรณี ครอบครัว นายปิยะพงษ์ รุ่งวิทยากุล เจ้าหน้าที่องค์การเภสัชกรรม ถูกยิงเสียชีวิตหน้าสถานีตำรวจนครบาลดุสิต ยื่นหนังสือขอเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวน เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยมีพลตำรวจโทอิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จเรตำรวจ(สบ.8) พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อม นางจันทร์เพ็ญ สิทธิบุ่น มารดา และญาติของ ผู้เสียชีวิต มาติดตามผลหารือ

ก่อนหน้านี้ครอบครัวของผู้ตายเคยเข้ายื่นหนังสือร้องขอให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวน โดยโอนสำนวนไปให้กองบังคับการปราบปรามทำคดี ต่อผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2564 ก่อนจะร้องเรียนต่อนางสาวจิตภัสร์ จนนำมาสู่การนัดหมายหารือเรื่องให้อำนวยความยุติธรรมทางคดีกับคู่กรณี


นางสาวจิตภัสร์ กล่าวว่า กรรมาธิการตำรวจ จะติดตามคดีนี้ และเชื่อมั่นว่าจะสามารถมอบความเป็นธรรมให้ทั้ง 2 ฝ่าย ด้านผู้ร้องต้องการที่จะเปลี่ยนคณะทำงานคดี จึงได้ประสานไปยังผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งตอบรับว่าพร้อมที่จะตั้งคณะกรรมการทำงานในระดับกองบัญชาการมาทำในคดีนี้ ขอเป็นกำลังใจตำรวจที่ทำงานอย่างเคร่งครัด ทราบมาว่าได้มีการเร่งสอบสวนอย่างรวดเร็วเพราะเป็นคดีอุจฉกรรจ์ที่สนใจของประชาชน

ด้านพลตำรวจตรีปิยะ กล่าวความเสียใจกับการสูญเสียในครั้งนี้ ยืนยันว่าการดำเนินคดีทุกคดี ยึดข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเป็นหลัก ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะเป็นตำรวจหรือใครก็ตาม ต้องอยู่ใต้กฎหมายเดียว ขอให้ครอบครัวเชื่อมั่นและมั่นใจในการทำงานของตำรวจสน.ดุสิต นอกจากนี้ก็จะตั้งคณะกรรมการระดับกองบัญชาการพิจารณาอีกชุด โดยมีรองผู้บัญชาการ  เป็นหัวหน้าคณะร่วมกับตำรวจอีกหลายนาย และจะเร่งทำงานให้เร็วตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด  ส่วนจะให้  สิบตำรวจเอกธีรยุทธ จันทร์คง ผู้ก่อ  เหตุออกจากราชการ ต้องดูจากพฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง  หากส่อว่าจะไปยุ่งเหยิงคดี หรือข่มขู่ พยานทำให้คดีเสียหาย  ก็จะให้ออกจากราชการไว้ก่อนแน่นอน  เบื้องต้นขณะนี้ ได้มีการโยกย้าย ผู้ก่อนเหตุ ออกจาก สน.ดุสิต ไปปฏิบัติหน้าที่อื่น แล้ว

ด้าน นางจันทร์เพ็ญ กล่าวว่า ได้ความกระจ่างในคดีทุกด้านแล้ว แต่ก็ยังต้องการให้เปลี่ยนชุดสืบสวนสอบสวนเข่นเดิม และต่อไปเป็นขั้นตอนของการไปคุยกันที่ศาล -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง