กทม.4 พ.ย.- ร้อง ผบ.ตร.เอาผิด ตร.สน.ท่าข้าม 2 นาย จับผิดตัว ทำตกเป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ พร้อมเอาผิดอัยการ เจ้าของบ้าน ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงาน
นายชิตพงษ์ วิทะไชย แพะคดีลักทรัพย์ท้องที่ สน.ท่าข้าม พร้อมนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ยื่นหนังสือถึงพลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เอาผิดตำรวจ 2 นาย ซึ่งเป็นอดีตพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ยศร้อยตำรวจเอก และพันตำรวจโท ขณะนั้นในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานกระทำการในตำแหน่งมิชอบเพื่อกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา รวมถึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และลงโทษไล่ออกตำรวจทั้ง 2 นาย โดยนำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดยืนยันที่อยู่ของนายชิตพงษ์ ,คำพิพากษาและคำเบิกความของพยานมอบให้เป็นหลักฐานการเอาผิด
นายชิตพงษ์ เล่าว่า ทำงานเป็นพนักงานส่งเอกสาร วันเกิดเหตุ 21 พฤศจิกายน 2561 ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งเอกสารตามธนาคารระหว่างทางขับขี่ผ่านบ้านที่ถูกลักทรัพย์ ต่อมาเจ้าทุกข์แจ้งความดำเนินคดีกับตน ซึ่งตามข้อเท็จจริงคือขับขี่ผ่านเพื่อไปธนาคารตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น.เป็นต้นไป มีกล้องวงจรปิดของธนาคารเป็นหลักฐาน ยืนยันว่า ไม่ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ตามที่ถูกกล่าวหา แต่กลับถูกตำรวจจับกุมโดยอ้างอิงภาพวงจรปิดที่ตนขับขี่ผ่านบ้านที่เกิดเหตุมาดำเนินคดี วงจรปิดดังกล่าวมีการตั้งเวลาไม่ตรงกับความเป็นจริง การตกเป็นแพะครั้งนี้ทำให้ได้รับความเสียหาย ถูกสังคมและเพื่อนๆ ตราหน้าว่าเป็นผู้กระทำความผิด รวมถึงต้องลำบากหาเงินมาประกันตัวด้วย
ด้านทนายรัชพล เพิ่มเติมว่า นอกจากใช้ภาพวงจรปิดที่ผ่านหน้าบ้านมาเป็นหลักฐานแล้ว ตำรวจยังได้นำภาพของนายชิตพงษ์ ไปให้เจ้าของบ้านที่ถูกลักทรัพย์ดูก่อนชี้ตัว ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเจ้าของบ้านจำหน้าคนร้ายไม่ได้ ประเด็นนี้มีหลักฐานเป็นบันทึกคำเบิกความของเจ้าของบ้านที่เบิกความต่อศาล ดังนั้นจะดำเนินการกับตำรวจ 2 นาย ซึ่งเป็นผู้ทำคดีและนำภาพไปให้เจ้าของบ้านดูก่อนการชี้ตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ไปยื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.เพื่อให้ดำเนินคดีอาญา และมาร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อเอาผิดทางวินัย และว่ายังมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีก 3 คนที่ต้องถูกดำเนินคดี ประกอบด้วยอัยการที่ดูแลคดี เจ้าของบ้านที่ถูกลักทรัพย์และลูกสาว ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานในการกระทำความผิด และเบิกความเท็จต่อศาลด้วย .-สำนักข่าวไทย