จ่อดำเนินคดีผู้ชุมนุมทุบทำลายรถควบคุมแกนนำคณะราษฎร

กทม.31 ต.ค.- ตำรวจเตรียมกำลัง 8 กองร้อย ดูแลการชุมนุม บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมทุบทำลายรถควบคุมแกนนำคณะราษฎร “เพนกวิน -ไมค์-รุ้ง” ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์และข้อหาอื่นๆ


เวลา 12.00 น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุททางการเมืองในขณะนี้ว่าผู้บัญชาการตำรวจนครบาลมีนโยบายชัดเจนให้ผู้บังคับการ และผู้กำกับการทุกในพื้นที่ ตั้งกองอำนวยการร่วมในพื้นที่ ที่มีการจัดกิจกรรม เช่น ท่ามหาราช ซึ่งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการตั้งกองอำนวยการร่วมอยู่ที่ท่ามหาราช ดูแลประชาชนที่มาลอยกระทง ส่วนการชุมนุมคาดอาจจะมีขึ้นบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีกองอำนวยการร่วมอีกส่วนหนึ่ง มีการจัดเตรียมกำลังตำรวจ 7 กองร้อย และ กองร้อยควบคุมฝูงชนหญิง อีก 1 กองร้อย ไว้ดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย

ส่วนกรณีการทุบทำลายรถควบคุม 3แกนนำคณะราษฎรในพื้นที่ สน.ประชาชื่น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่าประชาชนคงจะเห็นคลิปชัดเจนอยู่แล้ว มีกลุ่มผู้ชุมนุมหรือผู้ไม่หวังดี กลุ่มหนึ่งพยายามชิงตัวผู้ต้องหา มีการนำรถจักรยานยนต์มากีดขวาง จนกระทั้งตำรวจต้องตัดสินใจใช้รถควบคุมผู้ต้องหา ดันรถจักรยานยนต์ ออกจากเส้นทาง นอกจากนั้น มีการพยายามใช้สิ่งต่างๆ เช่น หมวกกันน็อค แท่งเหล็ก ทุบทำลายรถควบคุมผู้ต้องหาระหว่างทาง และคงมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเข้าข่ายความผิดทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งทรัพย์สินทางราชการ และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาพฤติกรรมว่ากลุ่มผู้ชุมนุนมจะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 215 สมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองหรือก่อให้เกิดเหตุร้ายในบ้างเมืองหรือไม่ ถ้าพยานหลักฐานไปถึง ต้องมีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีด้วยเช่นกัน


นอกจากนี้ ยังปรากฎข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ กล่าวร้ายการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐทั้งตำรวจ หรือ เจ้าหน้าที่อื่นๆ เช่นการใช้คำว่าใช้หมายจับที่หมดสภาพมาดำเนินการจับกุมตัวผู้ต้องหา หรือมีการใช้กำลังทุบตีผู้ต้องหาคนหนึ่งคนใด จนได้รับบาดเจ็บหมดสติ ซึ่งข้อความเหล่านั้นเป็นข้อความอันเป็นเท็จ เป็นความผิด ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา14 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบก.ปอท. จะต้องดำเนินคดีกับผู้ต้องหา พร้อมฝากเตือนประชาชนที่ทราบข่าวแล้วอย่าเผยแพร่ ส่งต่อ ทำซ้ำ อาจจะได้รับโทษตามกฎหมายด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนกรณีการเจ็บป่วย ตำรวจก็ดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชน -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ซิงซิง

ผลมติพบ “ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์-ปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

“ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์ หลังผลมติคัดแยก-คัดกรองออกแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองแล้ว ให้ พม.ดูแลต่อ ขณะที่ทีมกฎหมายของดาราจีน เผยเจ้าตัวปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

เลือกตั้ง อบจ.

กกต.เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

กกต.จัดกิจกรรม kick off เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. ภายใต้แนวคิด “สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง” ด้าน “อิทธพร” ให้ความมั่นใจพร้อมจัดการเลือกตั้งอย่างสุจริต

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน