กรุงเทพฯ 15 ก.ย.- ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง มั่นใจสกัดแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองได้ เตือนเกรียนคีย์บอร์ดปล่อยข่าวคนติดโควิดลักลอบเข้าไทย ระวังติดคุก!
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/09/S__58212374.jpg)
พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการสกัดแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยช่วงที่ผ่านมา ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก สามารถจับกุมชาวต่างด้าวหลบหนีมาจากเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ได้ในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พบเป็นชาวจีน 5 คน ชาวเมียนมา 11 คน และชาวไทย ซึ่งให้ความช่วยเหลืออีก 2 คน
พลตำรวจโทสมพงษ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้านที่ยังรุนแรง ทำให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองยังต้องคุมเข้มชายแดนช่องทางธรรมชาติอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะชายแดนที่ติดกับประเทศเมียนมา และกัมพูชา จึงกำชับให้ตรวจคนเข้าเมืองประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจตราต่อเนื่อง มั่นใจสามารถสกัดกั้นการหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ แต่ต้องขอความร่วมมือประชาชน และผู้ประกอบการอย่าใช้แรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง เพราะจะมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ส่วนกรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ระบุว่า ขณะไปรับเพื่อนที่สนามบินสุวรรณภูมิ พบผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยขณะนี้ มีชาวไทยเพียงร้อยละ 20 ส่วนอีกร้อยละ 80 เป็นชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาพบแพทย์ในไทย โดยไม่ผ่านการกักตัว ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง พร้อมมอบหมายให้ตำรวจคนเข้าเมือง 2 แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จแล้ว
ด้านพันตำรวจเอกเชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ชี้แจงเพิ่มเติมว่า แม้จะเป็นชาวต่างชาติ ที่ได้รับอนุญาตเข้ามารักษาตัวในประเทศไทย ก็จะต้องเข้ารับการกักตัวในโรงพยาบาล ซึ่งต้องได้รับการอนุญาตจากสถานทูตก่อน สถิติผู้โดยสาร 4 เมษายน ถึง 13 กันยายน 2563 มีคนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศไทยแล้วกว่า 49,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 80 ส่วนคนต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 13 กันยายน 2563 มีประมาณ 12,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 20 เท่านั้น ในจำนวนนี้มีผู้ที่เข้ามารักษาพยาบาลทั้งหมด 367 ราย และเฉพาะวันที่ 10 กันยายน ที่มีการกล่าวอ้างในสื่อสังคมออนไลน์ พบข้อมูลมีคนไทยเดินทางเข้าไทย 690 คน คนต่างชาติ 479 คน ในจำนวนนี้เข้ามารักษาพยาบาลเพียง 10 คน เชื่อว่าการโพสต์ข้อความลักษณะนั้นอาจเกิดจากความไม่เข้าใจ หรือความคึกคะนอง แต่เนื่องจากข้อความสร้างความตื่นตระหนกและสร้างความเสียหาย ทำให้สังคมเกิดความไม่เชื่อมั่นในระบบสาธารณสุข จึงต้องมีการแจ้งความดำเนินคดี .-สำนักข่าวไทย