27 เม.ย. – ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย รับรางวัลผู้สื่อข่าวภาคสนามดีเด่น โดยมี “พีระพันธุ์” เป็นประธานมอบรางวัล พร้อมกันนี้ยังมีรางวัลเชิดชูเกียรติต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ รางวัลผู้ประกาศข่าวดีเด่น และมอบทุนการศึกษา 120 ทุน
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานมอบรางวัลผู้สื่อข่าว-ผู้ประกาศข่าวดีเด่น และรางวัลเชิดชูเกียรติต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แบ่งเป็นตำรวจผู้ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ “ต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” 16 รางวัล, รางวัลเชิดชูเกียรติแก่ผู้สื่อข่าวภาคสนามดีเด่น จำนวน 8 รางวัล และผู้ประกาศข่าวดีเด่น จำนวน 5 รางวัล ซึ่งหนึ่งในรางวัลผู้สื่อข่าวภาคสนามดีเด่นมีรายชื่อของ น.ส.ทัศนีย์ ดำมุณี ผู้สื่อข่าวอาวุโสสำนักข่าวไทย รวมอยู่ด้วย
สำหรับตำรวจผู้ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ “ต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” สาขาต่างๆ มีดังต่อไปนี้
1.พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ สาขาปราบปรามอาชญากรรมดีเด่น จากการทำหน้าที่เชิงรุกอย่างขยันขันแข็งและเสียสละช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด รวมทั้งมีผลงานสำคัญทั้งการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปราบปรามภัยทางออนไลน์ ทั้งหลอกลงทุน หลอกซื้อสินค้าและเว็บพนันออนไลน์ จนผลงานเป็นที่ประจักษ์
2.พล.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. สาขาสืบสวนและปราบปรามดีเด่น เจ้าของวลีที่ว่า “ทำงานเหนื่อยเพื่อตัวเอง อยู่แค่สิ้นลม แต่ทำงานเพื่อสังคม มันอยู่ชั่วฟ้าดินสลาย” เป็นนายตำรวจมากฝีมือที่รับผิดชอบคดีสำคัญ เช่น คดียิง สจ.โต้ง และกวาดล้างผู้มีอิทธิพลใน จ.ปราจีนบุรี คดี “เป้ รักผู้การ” รีดเงินผู้ต้องหาเว็บพนัน 140 ล้าน คดี “แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์” ไลฟ์ขายทองไม่ตรงปก คดี “The Icon Group” งานกวาดล้างผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญทั่วประเทศ
3.พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. สาขาสืบสวนและปราบปรามดีเด่น เป็นนายตำรวจฝีมือดีที่ทำงานสางคดีสำคัญๆ หลายคดี เช่น คดี “แอม ไซยาไนด์” คดีกำนันนก คดีจับกุมคนร้ายกระทำชำเราหญิงชราต่อเนื่องถึง 4 ราย ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จับกุมตำรวจ 9 นาย ตั้งแต่ระดับ “สารวัตร-ชั้นประทวน” หลังก่อเหตุนำตัวชาวจีน 4 คน มาเรียกรับเงิน 300 ล้านบาท
4.พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สาขาปราบปรามอาชญากรรมดีเด่น เป็นนายตำรวจหนุ่มที่มีไฟแรงและมากฝีมือ ได้รับมอบหมายงานด้านปราบปราม โดยเฉพาะคดียาเสพติด-เด็กแว้น-น้ำมันเถื่อน รวมทั้งดูแลสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย
5.พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สาขาปราบปรามองค์กรอาชญากรรมดีเด่น โดยกว่า 3 ปี บนเก้าอี้แม่ทัพสอบสวนกลาง ได้พัฒนาหน่วยงานทุกด้านให้มีมาตรฐาน รวมทั้งมีผลงานปราบปรามอาชญากรรมเรียกได้ว่าครบเครื่องทุกมิติ
6.พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สาขาปราบปรามยาเสพติดดีเด่น โดยนับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งแม่ทัพขับเคลื่อนแก้ปัญหายาเสพติด ก็มีผลการดำเนินการปราบปรามยาเสพติด ทั้งยาบ้า 197,408,178 เม็ด ยาไอซ์ 15,108.92 กิโลกรัม ยาเค 724.35 กิโลกรัม เฮโรอีน 372.08 กิโลกรัม จับคดียาเสพติด 308 ราย ผู้ต้องหา 326 คน ยึดอายัดทรัพย์สิน 1,434,770,065 บาท
7.พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) สาขา ปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ดีเด่น โดยได้เร่งปรับโฉมภาพลักษณ์หน่วยงาน เดินหน้าเชิงรุกในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์เตือนภัยออนไลน์ต่างๆ และสามารถจับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์ที่สำคัญได้หลายคดี เช่น จับกุมขบวนการคอลเซ็นเตอร์ตุ๋นซาลอต ออสติน ทลายเครือข่ายพนันออนไลน์มินนี่ ภาค 2 จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทลายเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า เป็นต้น
8.พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 สาขาปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบชายแดนใต้ดีเด่น หลังเปิดยุทธการกวาดล้างอาชญากรรมในการยึดอาวุธปืนและอาวุธสงครามที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการของกลุ่มบีอาร์เอ็น สามารถปิดคดีสำคัญๆ ได้หลายคดี
9.พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สาขาสืบสวนและปราบปรามดีเด่น โดยได้รับผิดชอบคุมงานสืบสวนให้หน่วย ซึ่งได้นำเอาประสบการณ์ที่สั่งสมมาทั้งชีวิตลุยงานกวาดล้างอาชญากรรมข้ามชาติสารพัด ช่วยเสริมแกร่งขุมกำลังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่าด้วยเรื่องงานสืบสวนและปราบปราม
10.พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สาขาปราบปรามคอร์รัปชันดีเด่น ถือเป็นนายตำรวจที่ขึ้นชื่อเรื่องการปราบปรามทุจริต สร้างผลงานปราบปรามคอร์รัปชันจนสร้างชื่อเสียงให้กองบัญชาการสอบสวนกลาง โดยเฉพาะการกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลและข้าราชการบางคนที่เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ
11.พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สาขาสืบสวนดีเด่น ด้วยประสบการณ์การทำงานในวงการสืบสวนสอบสวนมามากกว่า 21 ปี ถือเป็นนักสืบชั้นครูของวงการตำรวจไทยที่ทุ่มเทกายและใจเพื่อพัฒนาการทำงานเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ตำรวจรุ่นน้อง สามารถคลี่คลายคดีสำคัญๆ มากมาย เช่น จับกุมมือวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า คดี “น้องชมพู่” คดีฆ่าแหม่มชาวสวิสที่มาเที่ยวภูเก็ต และคดีชาวเวียดนามเสียชีวิต 6 ราย ถูกวางยาพิษในโรงแรมดังย่านราชประสงค์
12.พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผู้บัญชาการตำวจนครบาล สาขาสืบสวนดีเด่น ในฐานะ “รองจ๋อ” ปรมาจารย์นักสืบแห่งยุค ระดับมือฉมังผู้ผ่านผลงานจับกุมคดีสำคัญมานับไม่ถ้วนด้วยฝีมือระดับตำนานนักสืบและได้รับประกาศนียบัตรในหลักสูตรต่างๆ จากต่างประเทศ รวมทั้งทำงานเชิงรุกจนประจักษ์ต่อสายตาประชาชนและทันกระแสโซเชียลจากก่อตั้งเพจ “สืบนครบาล” ทำให้สังคมรู้จักและเข้าถึงตำรวจมากยิ่งขึ้น
13.พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม สาขาสอบสวนดีเด่น ถือเป็นมือสอบสวนมากด้วย “เขี้ยวเล็บ” ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้คุมการสอบสวนดูสำนวนคดีใหญ่ๆ หลายคดี เช่น คดีวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ คดี “แอม ไซยาไนด์” คดียิง สจ.โต้ง คดี “แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์” และคดี “The Icon Group” เป็นต้น
14.ร.ต.อ.ศรัณยพงศ์ อ่อนสิงห์ รองสารวัตรตำรวจทางหลวงนครปฐม สาขาจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ดีเด่น จากเหตุการณ์เข้าช่วยเหลืออาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดลประสบอุบัติเหตุรถเก๋งชนท้ายกระบะจนเกิดเพลิงลุกไหม้ติดภายในรถ ร.ต.อ.ศรัณยพงศ์ เข้าช่วยเหลือถอดเครื่องแบบและห้ามเลือดช่วยชีวิตเด็กชายวัย 11 ขวบที่บาดเจ็บสาหัสไว้ได้ โดย ร.ต.อ.ศรัณยพงศ์ เคยบอกว่า ผมแค่อยากช่วยให้เขาปลอดภัย อยากให้เขามีชีวิตรอด ผมไม่ได้หวังคำชื่นชม ไม่ต้องการเป็นฮีโร่ หน้าที่ของตำรวจคือการช่วยประชาชน
15.จ.ส.ต.เมธาวุฒิ เพ็ชรศรี ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองขอนแก่น สาขาจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ดีเด่น จากการปีนกำแพงบ้านเข้าช่วยเหลือสองสามีภรรยาที่ติดอยู่ในห้องน้ำ ขณะเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านในพื้นที่เขตเทศบาลนครขอนแก่น ก่อนช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย
16.จ.ส.ต.วรวิทย์ ณะรัตตะ ผบ.หมู่ ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส สาขาวีรบุรุษชายแดนใต้ จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดจนขาทั้ง 2 ขาด ผ่านมาเกือบ 10 เดือน แม้ร่างกายไม่เหมือนเดิม แต่ไม่ย่อท้อสู้ชีวิต
นอกจากนี้ยังมีการมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรของผู้สื่อข่าวในสมาคมฯ อีก 120 ทุน ตั้งแต่อนุบาลจนถึง ปริญญาตรี.-420-สำนักข่าวไทย
