กทม.26 ก.ย.- ปปป.ส่งสำนวนคดีทุจริตเงินทอนวัด 21 สำนวนให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบแล้ว อีก 2 สำนวนส่งให้ศุกร์นี้ ล่าสุดผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชสิทธาราม 1 ใน 4 พระผู้ใหญ่ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
พันตำรวจเอกวรายุทธ สุขวัฒน์ธนกุล รองผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ป.พร้อมพนักงานสอบสวน นำสำนวนคดีทุจริตเงินทอนวัด 21 สำนวน 33 แฟ้ม หรือกว่า 13,000 แผ่น ส่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. หลังจากเช้าวันนี้มีการประชุมสรุปความคืบหน้าของคดีที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป.
พันตำรวจเอกวรายุทธ เปิดเผยว่า ล่าสุดพระครูวิสุทธิวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชสิทธาราม เขตบางกอกใหญ่ เข้ารับทราบ 3 ข้อหา คือเป็นเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจหน้าที่เบียดบังทรัพย์เป็นของตน ตามมาตรา 147 , ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157 และ ให้ความสะดวก สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด มาตรา 86 ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ โดยสำนวนที่เหลืออีก 2 สำนวน จะส่ง ป.ป.ช. เพิ่มเติมวันศุกร์นี้ ส่วนพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีก 3 รูป ที่มีส่วนเกี่ยวข้องคดีทุจริตเงินทอนวัด ประกอบด้วยพระครูกิตติพัชรคุณ เจ้าอาวาสวัดลาดแค จังหวัดเพชรบูรณ์ ,พระราชรัตนมุณี เลขาสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะหนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพิชยญาติการาม ย่านคลองสาน และพระเทพเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดกวิศราราม ตำบลท่าหิน อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ซึ่งยังไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา จากนี้เป็นอำนาจของ ป.ป.ช.ที่จะดำเนินการเนื่องจากหลังส่งมอบสำนวน ปปป. จะไม่สามารถดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสำนวนได้อีก
การส่งมอบสำนวนครั้งนี้ มีนายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักการข่าวและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นตัวแทนรับมอบพร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า จากนี้จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง คาดใช้เวลาไม่นาน โดยอาจจะมีแบ่งชุดคณะทำงานเพื่อความรวดเร็วในการตรวจสอบ
สำหรับสำนวนทั้ง 21 สำนวน มีความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา 19 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา กลุ่มใหม่ 9 คน เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา กลุ่มเดิม 4 คน พระ 4 รูป และประชาชนอีก 2 คน.-สำนักข่าวไทย