ตร.ภาค 1 เดินหน้าขยายผลตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 17 ธ.ค.-สืบสวนภาค 1 เดินหน้าขยายผลตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์หลอกเหยื่อจำนวนหลายราย พบใช้ชื่อคนต่างชาติเช่าที่พัก ติดกล้องวงจรปิดสังเกตการณ์

ตร.สืบสวนภาค 1 ได้ดำเนินการสืบสวนมาจากเคสที่มีผู้เสียหายในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินหลักหมื่นบาท จากนั้นได้มีการสืบสวนจนพบว่าเครื่องซิมบ็อกถูกติดตั้งที่ไหนบ้าง และเห็นว่าการตรวจยึดอุปกรณ์เครื่องส่งสัญญาน หรือ simbox เป็นการตัดขบวนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในการหลอกลวงประชาชน


พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 ได้เปิดเผยถึงปฏิบัติการบุกค้นเครื่องกระจายสัญญาณของแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลังจากพบเบาะแสว่ามีการวางเครื่องดังกล่าวที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ในคอนโดย่านห้วยขวาง โดยระบุว่า วันนี้เป็นการค้นจุดที่ 3 หลังจากที่มีการขยายผลต่อเนื่องจากตรวจค้นมาแล้ว 2 จุดก่อนหน้านี้ / ครั้งแรกบุกค้นในพื้นที่ จ.นนทบุรี และครั้งที่ 2 ที่ซอยเสือใหญ่ เขตจตุจักร โดยทั้ง 3 จุด มีการตรวจยึดเครื่องกระจายสัญญาณ (ซิมบ็อก) ที่ละ 3 เครื่อง รวม 9 เครื่อง / โดยแต่ละเครื่องจะมีการใส่ซิม 128 ซิม ทั้ง 9 เครื่อง รวม 1,152 ซิม และแต่ละซิมสามารถโทรได้ถึง 7,000 ครั้งต่อวัน โดยรวมๆ แล้ว แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะสามารถโทรหลอกลวงประชาชนได้ถึงวันละหลายแสนเบอร์

โดยพฤติการของคนร้ายมีลักษณะคล้ายกันทั้ง 3 จุด จากการตรวจสอบในแต่ละที่จะมีการใช้ชื่อของคนเวียดนามและคนไต้หวันมาเช่าห้องพัก แต่ไม่มีตัวบุคคลเข้าพักอาศัย จากนั้นจะนำเครื่องซิมบ็อกมาวางที่ห้อง ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อสังเกตการณ์ แล้วเดินทางออกนอกประเทศทันที จะกลับมาก็ต่อเมื่อเครื่องซิมบ็อกมีปัญหาและมาซ่อมแซมเพียงเท่านั้น และกล้องวงจรปิดนั้น ไม่เพียงแต่ดูการทำงานของเครื่องซิมบ็อก แต่ยังติดตั้งไว้เพื่อดูว่ามีการบุกทำลายหรือยัง ถ้าหากถูกตำรวจบุกแล้ว ก็จะทำลายเบอร์ที่โทรมายังเครื่องซิมบ็อกทิ้งทันที โดยในห้องพักแห่งนี้มีการเช่าอยู่ตั้งแต่เดือน ก.ย. เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน


ในการทำงานของเครื่องซิมบ็อก จะเป็นการแปลงเบอร์โทรของต่างประเทศ ปกติถ้าเบอร์ต่างประเทศโทรมาในประเทศไทย จะขึ้นเป็น +69 แต่ถ้าโทรผ่านเครื่องซิมบ็อก เบอร์ที่โทรเข้าจะเป็นเบอร์โทร 10 หลักปกติ ซึ่งจะทำให้สังเกตได้ยากว่าเป็นเบอร์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และจากการบุกค้น และตรวจสอบในครั้งนี้ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาเก็บลายนิ้วมือเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับการค้น 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ว่าตรงกันและเป็นขบวนการเดียวกันหรือไม่ ภายในห้องไม่พบตัวผู้เช่า จึงทำการตรวจยึดซิมบ็อกซ์มา 3 เครื่อง ส่งตรวจสอบที่ สน.ห้วยขวาง ต่อไป. -420- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมสุราษฎร์ธานี

สุราษฎร์ฯ ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติเพิ่มเป็น 8 อำเภอ-ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

จ.สุราษฎร์ธานี ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติเพิ่มเป็น 8 อำเภอ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก รักษาการผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี นำเจ้าหน้าที่ ปภ. และฝ่ายปกครอง นำถุงยังชีพเยี่ยมชาวบ้าน

น้ำท่วมนครศรีฯ

นครศรีฯ ฝนถล่ม อ.ท่าศาลา น้ำล้นสะพาน-เสาไฟหักโค่น

สถานการณ์น้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช ฝนยังตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะ อ.ท่าศาลา น้ำทะลักท่วมสะพาน-เสาไฟหักโค่น ขณะที่ย่านเศรษฐกิจ อ.เมือง อ่วม มีคนจมน้ำเสียชีวิตเพิ่มอีกเป็นศพที่ 4

น้ำท่วมชุมพรสถานการณ์ดีขึ้นยกเว้น อ.สวี ยังอ่วม

สถานการณ์น้ำท่วมชุมพร หลายพื้นที่ระดับน้ำทยอยลดหมดแล้ว ยกเว้นอำเภอสวี ยังมีชาวบ้านเดือดร้อนหลายพันคน ขณะที่การจราจรฝั่งขาขึ้นกรุงเทพฯ และขาล่องใต้ ถนนเอเชีย สาย 41 กลับคืนสู่สภาวะปกติแล้ว

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถึงนครศรีธรรมราช คาดไม่เกิน 20 ธ.ค. น้ำแห้งทั้งหมด

นายกฯ ถึงนครศรีธรรมราช ประชุม 5 ผู้ว่าฯ ภาคใต้ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เผยรัฐบาลจัดการได้เร็ว เงินเยียวยาถึงมือชาวบ้านไว ส่งกำลังใจบอกเหตุการณ์ใกล้ผ่านแล้ว ไม่เกิน 20 ธ.ค. น้ำแห้งทั้งหมด สั่งการเตรียมพร้อม “น้ำ-ไฟ” รับคนกลับบ้าน ด้าน “อนุทิน” โปรยคำหวาน บอกตั้งแต่เกิดสถานการณ์น้ำท่วม ได้รับการสนับสนุนจากนายกฯ อย่างดี ช่วยเหลือประชาชนไม่มีชะลอ

น้ำท่วมนครศรีฯ

น้ำท่วมนครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลาย

สถานการณ์น้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลาย ไม่มีฝนตกลงมาเติม ทำให้ระดับน้ำลดลงในหลายจุด ถนนสายหลักกลับมาเปิดให้รถสัญจรได้แล้ว

พิสูจน์หลักฐานกลางตรวจแนววิถีกระสุนบ้าน “โกทร” เพิ่ม

พิสูจน์หลักฐานกลางรับคำสั่ง ผบ.ตร. ลงตรวจแนววิถีกระสุนเพิ่มเติม พิสูจน์ข้อสงสัยเด็ก 2 คน เป็นมือยิง “สจ.โต้ง” จริงหรือไม่