ญาติเยาวชน 13 ปี ถูกรุ่นพี่ฉีดยาเคจนเสียชีวิตแจ้งความ สน.มีนบุรี

สน.มีนบุรี 11 ก.ค. – สายไหมต้องรอดพาญาติเยาวชน 13 ปี ที่ถูกรุ่นพี่ฉีดยาเคจนเสียชีวิตร้อง สน.มีนบุรี ให้เร่งดำเนินการตามรุ่นพี่ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี


จากกรณีที่เมื่อวันที่ 9 กรกฏาคม ทีมงานสายไหมต้องรอด พร้อมครอบครัวผู้เสียหายนำร่างเยาวชนอายุ 13 ปี ที่เสียชีวิตจากการถูกรุ่นพี่ฉีดยาเคตามีน ชนิดน้ำจนช็อคเสียชีวิต เมื่อวันที่ 7 กรกฏาคมที่ผ่านมา

วันนี้ช่วงสายที่ผ่านมา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน พาพ่อและญาติๆ เด็กชายวัย 13 ปี ที่เสียชีวิต เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี เพื่อแจ้งความเอาผิดกับตัวรุ่นพี่คนดังกล่าว


นางสาวปทิตตา อายุ 47 ปี อาผู้เสียชีวิต ระบุว่าเหตุการณ์วันที่ 6 กรกฎาคม 2557 ประมาณเวลา 18.00 น. น้องไทเกอร์ หลานชาย ได้บอกตนเองว่าไปกินหมูกระทะกับเพื่อนและออกไปช่วงเย็น กระทั่งหลานชายกลับบ้านมา สภาพสลึมสลือ เพลียๆ เหมือนไม่มีเรี่ยวแรง และผลอยหลับไป กระทั่งเช้ามา หลานวัย 3 ขวบ มาเห็น (ผู้ตาย) นอนน้ำลายฟูมปาก จึงเรียกผู้ใหญ่ภายในบ้าน กระทั่งมาทราบว่าเสียชีวิตลงแล้ว

ในตอนแรกนั้น ทางครอบครัวยังคงติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากว่า คนตายเป็นนักกีฬาฟุตบอล สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ไม่น่าจะเจ็บป่วยกะทันหันได้ และเป็นเด็กเรียนตามปกติ ซึ่งยอมรับว่าเรื่องการยุ่งเกี่ยวหรือเกี่ยวข้องยาเสพติดนั้น ทางครอบครัวก็ไม่ทราบว่าจะมีหรือไม่ แต่เมื่อทุกครั้งที่กลับเข้ามาบ้านก็มีท่าทีปกติ ไม่มีอาการคล้ายคนเมา หรือพูดจาไม่รู้เรื่อง อีกทั้งกลุ่มรุ่นพี่กลุ่มนี้ก็เห็นเพียงผิวเผิน ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว

ซึ่งล่าสุดจากที่ไปออกรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่งนั้น ได้มีรุ่นพี่คนดังกล่าวที่อยู่กับน้องในวันที่เกิดเหตุ และรุ่นพี่ยอมรับกลางรายการว่าเป็นคนนำเข็มฉีดยาฉีดแอมเซตามีน เข้าใส่ร่างกายของ น้องไทเกอร์ จริง ซึ่งญาติเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนเองเคยได้พูดคุยกับรุ่นพี่คนนี้ เขาอ้างและยืนยันกับตนเองบอกว่า “ผมให้น้องดื่มน้ำกระท่อมอย่างเดียวไม่มีสารเสพติด” และหลังจากนั้นก็ติดต่อรุ่นพี่คนนี้ไม่ได้อีกเลย จนสามารถติดต่อได้เมื่อวานที่ผ่านมากลางรายการ ในทางคดีนั้นทางญาติอยากให้ตำรวจดำเนินการให้ถึงที่สุดเนื่องจากเขาอาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้หลานเสียชีวิต


ขณะที่ระหว่างนั้น นายเสกสรรค์ อายุ 49 ปี พ่อผู้เสียชีวิต ระบุว่าตนเองมีลูกชายคนเดียว ภรรยาทำงานที่ต่างประเทศ โดยหลังจากที่จบรายการนั้น ตนเองฐานะพ่อที่ได้พูดคุยกับรุ่นพี่คนดังกล่าว รุ่นพี่ได้พูดบอกขอโทษกับตนเอง ซึ่งตนเองก็พยายามอยากจะถามว่าไปทำให้น้องเสียชีวิตเช่นนี้ได้อย่างไร ไปให้น้องใช้ยาเสพติดได้อย่างไร ยืนยันตนเองไม่ให้อภัยกับรุ่นพี่คนนี้ และยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ทางด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ได้ระบุว่าเมื่อวานนี้ ตนเองและครอบครัวของน้องผู้เสียชีวิตได้เดินทางไปร่วมรายการแห่งหนึ่ง กระทั่งระหว่างในรายการได้มีการติดต่อพูดคุยกับรุ่นพี่ของน้องผู้เสียชีวิต จนรับสารภาพกลางรายการว่าเป็นคนที่ฉีดยาเสพติดเข้าสู่ร่างกายของตัวน้องจริง ยอมรับว่าตกใจมากหลังจากที่ทราบ เนื่องจากว่าเมื่อวันที่ญาติเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือ ตนเองเห็นว่า น้องเสียชีวิต และดูผลชันสูตรแพทย์แล้ว มองว่าผิดปกติเนื่องจากอาการที่เสียชีวิตนั้น มีน้ำลายฟูมปากด้วย และประกอบกับรูปภาพในโทรศัพท์ผู้เสียชีวิต มีภาพปืน เข็มฉีดยา ในห้องของรุ่นพี่ จึงตั้งข้อสงสัยว่า น้องอาจจะต้องได้รับยาเสพติดเกินขนาด จึงได้นำร่างตรวจชันสูตร และรอผลแพทย์นานร่วมเดือน กระทั่งความจริงคือ รุ่นพี่มายอมรับกลางรายการ
จึงรีบพาครอบครัวมาแจ้งความยัง สน.มีนบุรี เพื่อรีบเร่งดำเนินการตามล่าจับกุมตัวรุ่นพี่คนนี้ เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายเอกภพ ยังระบุอีกว่าขอฝากถึงประชาชน รวมถึงวัยรุ่นในพื้นที่ ขณะนี้พบว่ามีการแพร่ระบาดของยาเสพติดชนิดนี้ ขอให้ระวังเนื่องจากเป็นสารเสพติดที่มีความอันตรายไม่สามารถประเมินปริมาณได้อย่างถูกต้อง อาจส่งผลให้ถึงแก่เสียชีวิตได้ ขอให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานที่เป็นกลุ่มเสี่ยงให้ดี

ด้าน พ.ต.อ.ชนะวรศิณธ์ ศุภพนารักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 ระบุว่าเบื้องต้น ในวันนี้ได้รับข้อมูลก็จะดำเนินการเร่งตรวจสอบ โดยจะต้องนำตัวรุ่นนี้รายนี้มาดำเนินการสอบปากคำ ซึ่งเบื้องต้นเข้าข่ายความผิด กระทำการอันเป็นความประมาท จนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ส่วนเรื่องยาเสพติดจะต้องขยายผลอีกครั้ง. -412-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]