“บิ๊กโจ๊ก” มาตามนัด ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดี “บิ๊กเต่า” หมิ่นประมาท

ศาลอาญา 24 มิ.ย. – “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” มาตามนัดศาลไต่สวนมูลฟ้องคดี “พล.ต.ต.จรูญเกียรติ” หมิ่นประมาทฯ ยืนยันไม่มีการยอมความ หรือไกล่เกลี่ยแน่นอน


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ตามนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ตัวเองเป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กรณีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาจากการที่รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้เดินทางมาศาลตามนัดไต่สวนมูลฟ้อง เบื้องต้นทราบว่าฝั่งของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ขอเลื่อนการนัดไต่สวนคาดว่าจะมีการนัดไต่สวนในครั้งหน้า ส่วนที่มีการจงใจใส่ความหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณานั้น เนื่องจากผู้ถูกฟ้องได้นำข้อมูลซึ่งอยู่ในสำนวนไปให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ทั้งที่รู้ว่าจะต้องมีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ มีหน้าที่เป็นเพียงพนักงานสอบสวนสิ่งที่ทำได้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 คือการรวบรวมข้อมูล และส่งสำนวนไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่ได้มีอำนาจในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน รวมถึงแสดงความคิดเห็นวินิจฉัยคดี หรือพิพากษาคดี จึงทำให้สังคมเชื่อว่าตัวเองเป็นผู้กระทำผิดไปแล้ว จึงจำเป็นต้องยื่นฟ้องเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับตัวเอง ที่ผ่านมาเคยมีคำวินิจฉัยของศาลฎีกา ในคดีที่มีผู้ออกมาแสดงความคิดเห็น หริอวินิจฉัยคดี ชี้นำสังคมซึ่งศาลฎีกาเคยมีคำพิพากษาจำคุกไปแล้ว ยืนยันจะไม่มีการยอมความ หรือไกล่เกลี่ยอย่างแน่นอน


ผู้สื่อข่าวถามถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่ามีมติ 10:0 ว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมติดังกล่าวจะทำให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กลับมาทำหน้าที่ รองผบ.ตร. เลยหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ต) เพราะถือเป็นศาลปกครองของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีอำนาจชี้ว่าจะให้ตนกลับไปทำหน้าเลยหรือไม่ แม้ว่าผลของกฤษฎีกาจะไม่มีผลทางกฎหมาย แต่กฤษฎีกาเป็นมือกฎหมายของรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาในคดีอื่นๆ ศาลก็รับฟังความเห็นของกฤษฎีกา พร้อมย้ำว่า อย่าลืมว่าองค์คณะกรรมการกฤษฎีกามีใครบ้าง ที่ประกอบไปด้วยอดีตประธานศาลฎีกา รวมถึงอดีตเลขากฤษฎีกา และปลัดกระทรวงยุติธรรม ฉะนั้นมติ 10:0 ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.อสุรเชษฐ์ จะกลับเข้า ตร. เมื่อไหร่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่จะกลับหรือไม่นั้น ต้องว่าไปตามกฎหมาย แต่ตนจะชี้ให้เห็นว่าวันนี้จะต้องยึดหลักตามกฎหมาย ถ้าวันนี้ยังให้ความยุติธรรมกับตนเองไม่ได้ ในวันข้างหน้าจะให้ความยุติธรรมกับตำรวจ และประชาชนได้อย่างไร ซึ่งวันนี้หลักกฎหมายต้องเป็นไปตามกฏหมาย ไม่เช่นนั้นจะมี พ.ร.บ.ตำรวจฯ ไว้ทำไม นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า คำสั่งใครเป็นคนเซ็นจะต้องรับผิดชอบ ซึ่งตนจะดำเนินคดีโดยยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หลายฝ่ายมองว่าเป็นดีลที่ท้ายที่สุด จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนกลับเข้ารับตำแหน่งเหมือนเดิม ที่จบเหมือนละครแฮปปี้ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบเหมือนกัน แต่ตนเองเป็นคนที่ยึดตามหลักการแบบนี้มานานแล้ว เหมือนในอดีตที่ตนเคยฟ้องอดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่าตนยึดหลักยุติธรรม ซึ่งครั้งนี้ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นการกลั่นแกล้ง รังแก ตัดแข้งตัดขา และสังคมก็เห็นได้ชัด


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ย้อนถามกลับว่า ทำไมถึงไม่เพิกถอนคำสั่งออกจากข้าราชการเสียที ปล่อยให้ตนเป็น รอง ผบ.ตร. ลอยไปลอยมาแบบนี้ ตามหลักแล้วตนสามารถเข้าประชุม ก.ตร. ได้ แต่ไม่เลือกที่จะทำเพราะถือเป็นการให้เกียรติ พร้อมยืนยันว่าตนเองยังมีสถานะเป็น รอง ผบ.ตร.อยู่ หากตนเองได้กลับไป จะไปดูคำสั่งให้ออกจากราชการที่มีตำรวจถูกสั่งให้ออกราชการ 70-80 นาย ก่อนหน้านี้ว่าเป็นธรรมหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่าการส่งกลับมารอบนี้หวังว่าจะปรองดองภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นองค์กรใหญ่ จะปรองดองหรือไม่ขึ้นอยู่กับนายกฯ ซึ่งนายกฯ จะต้องเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ลอยตัว ถ้านายกฯ ไม่ตัดสินใจ องค์กรก็จะอยู่ไปแบบนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้นำ

ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกฯ ออกมาแถลงแทนนายกฯ ในคำสั่งย้ายกลับ ผบ.ตร. จะถือเป็นการลอยตัวของนายกฯ หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ นายกฯ จะต้องทำหน้าที่ ถ้าท่านไม่ลอยตัวและตัดสินใจทุกอย่างก็จะไม่เกิด ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับผู้นำ เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีรัฐมนตรีประจำกระทรวง ฉะนั้นนายกฯ ก็เปรียบเหมือนรัฐมนตรีประจำกระทรวง เมื่อมีปัญหาจะต้องลงมาแก้ และย้ำว่าจะต้องไม่ลอยตัว.-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนยังมีฝนตกหนักบางแห่ง ภาคเหนือ-อีสาน-ตะวันออก ฝน70%

กทม. 31 พ.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนยังมีฝนตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ ส่วนภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณเกาะไหหลำ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย ออกประกาศ 31 พฤษภาคม 2568 พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. […]

เด้งผู้การกองบิน-รองผู้การ-ช่างอากาศยาน รวม 4 นาย เซ่นปม ฮ.ตก

กรุงเทพฯ 30 พ.ค. – ผบ.ตร. สั่งเด้งผู้การกองบิน-รองผู้การ-ช่างอากาศยาน รวม 4 นาย ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม ปมอากาศยานของกองบินตำรวจตก 2 ครั้ง ห้วงใกล้เคียงกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 308/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการและรักษาราชการแทน ใจความระบุว่า ด้วย กรณีเหตุการณ์อากาศยานของกองบินตำรวจตก เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 และวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นการเกิดเหตุ 2 ครั้ง ในห้วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้มีข้าราชการตำรวจเสียชีวิตหลายนาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริงในรายละเอียดการซ่อมบำรุงอากาศยานของกองบินตำรวจที่ผ่านมา ให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีข้อสังเกตหรือความบกพร่องในกรณีใด และจเรตำรวจได้มีคำสั่ง ที่ 89/2568 ลงวันที่ 30 เมษายน 2568 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบกับกรณีดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสื่อสังคมออนไลน์ […]

“สมศักดิ์” แจงยิบวีโต้มติแพทยสภา ยันไร้ใบสั่ง ปัดเอื้อ “ทักษิณ”

รัฐสภา 30 พ.ค.- “สมศักดิ์” แจงยิบ วีโต้มติแพทยสภา ยกโทษให้หมด แพทย์ไม่มีความผิด อ้างไม่อยากสร้างบรรทัดฐานใหม่ เกรงกระทบแพทย์ทั้งประเทศ ยันไม่มีใบสั่ง-ไม่ได้เอื้อ “ทักษิณ” ขึ้นศาล 13 มิ.ย. ไม่หวั่นถูกล่าชื่อถอดถอน บอกทำการเมืองมา 43 ปีแล้ว ไม่ห่วงเรื่องพวกนี้ มั่นใจไม่ใช่การเปิดศึกแพทย์ เพราะถ้าอยู่ในวิชาชีพจะรู้ว่าเป็นการปกป้อง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเหตุผลหลังวีโต้มติแพทยสภา ว่า หลังจากการพิจารณาในรายละเอียดขั้นตอนการพิจารณาลงโทษ 3 แพทย์ พบว่า คณะกรรมการจริยธรรมรับเรื่องรองเรียนพบว่ามีความผิด จึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งใช้เวลารวบรวมข้อเท็จจริงและพิจารณาถึง 4 เดือน ก่อนจะความเห็นว่านายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่1 ไม่มีความผิด ส่วนแพทย์หญิง รวมทิพย์ สุภานันท์ ในฐานะแพทย์ผู้ตรวจร่างกาย ขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่ รพ.ราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่2 มีความผิด ลงโทษให้ว่ากล่าวตักเตือน ขณะที่พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ เมื่อครั้งนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ มีความผิดให้ลงภาคทัณฑ์ […]

มอบตัวแล้วหลานคลั่งยิงญาติดับ 3 เจ็บสาหัส 1

สุพรรณบุรี 30 พ.ค. – มอบตัวแล้ว หลานคลั่งยิงญาติเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 1 ราย คาดปมเหตุมาจากเรื่องที่ดินมรดกที่ยังแบ่งกันไม่ลงตัว เหตุสลดหลานชายคลั่งใช้อาวุธปืนยิงนายภาสกร อายุ 67 ปี ลุง, นายลำเพย อายุ 71 ปี ป้า, นางชตารัตน์ อายุ 50 ปี ญาติ เสียชีวิตรวม 3 คน และยังมีนางชุติมน อายุ 67 ปี ญาติ บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวันนี้ บริเวณหลังบ้าน ม.2 ต.บ้านดอน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นหลานของผู้ตาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายไพบูลย์ หรือ บาส อายุ 32 ปี อาชีพเป็นช่างสัก หลังก่อเหตุได้ขี่จักรยานยนต์พ่วงข้างหลบหนีออกจากบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย […]