ป.ป.ส. 20 มิ.ย. – ป.ป.ส.แถลงยึดทรัพย์นักค้ายาฯ รายสำคัญกว่า 2 พันล้านบาท ตัดวงจรยาเสพติด ตามนโยบายรัฐบาล ชวนประชาชนร่วมชี้เบาะแสกลุ่มเครือข่ายหรือนักค้ายาเสพติด จะได้รับรางวัลเงินสินบน 5% ด้วย
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และนายไพศาล กันทะเตียน ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด แถลงผลการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ครั้งที่ 12/2567 ยึดอายัดทรัพย์สินเครือช่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ 2,022 ล้านบาท เป็นการตรวจสอบทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด 78 คดี ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะส่งสำนวนคดีไปยังพนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลพิจารณาต่อไป
สำหรับครั้งนี้ มี 3 คดีเครือข่ายสำคัญจากการจับกุมเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จับกุมนายธีนพันธ์ พร้อมพวก 2 คน ของกลางยาเสพติด (เฮโรอีน) จำนวน 1,000 แท่ง น้ำหนักประมาณ 35 กิโลกรัม ณ บริเวณด่านควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 บ้านนาหวายใหม่ อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน และนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านหลวง จังหวัดน่าน ดำเนินคดี และขยายผลถึงเครือข่ายทั้งกลุ่มเจ้าของยาเสพติด กลุ่มลำเลียงยาเสพติดนายทุนและกลุ่มฟอก กลุ่มกรรมการบริษัท/ผู้ถือหุ้น นำไปสู่การตรวจยึดอายัดทรัพย์สินของกลุ่มดังกล่าว
จากการรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบความผิดปกติของกลุ่มนายทุนและกลุ่มฟอกเงินที่มีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในปี พ.ศ.2564 พบมีมากกว่า 5,000 ล้านบาท ไม่สอดคล้องกับรายได้จากการประกอบอาชีพ หรือการประกอบธุรกิจในนามบริษัทของกลุ่มผู้ที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล เพื่ออำพรางว่ามีการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นการฟอกเงินที่ได้จากยาเสพติด และมีการนำเอาบัญชีของแรงงานลูกจ้างชาวเมียนมาของบริษัท มาใช้ทำธุรกรรมที่เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อพิจารณาจากพยานหลักฐานดังกล่าวแล้ว จึงเชื่อได้ว่า ทรัพย์สินของกลุ่มเครือข่ายเป็นทรัพย์สินที่มีอยู่หรือได้มาเกินกว่าฐานะ หรือความสามารถในการประกอบอาชีพอื่นใดโดยสุจริตและเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน มีคำวินิจฉัย และมีมติให้ยึดอายัดทรัพย์สินของกลุ่ม
เครือข่ายนี้ จำนวน 3 คดี ดังนี้
คดีที่ 1.นางสาวเขมิกาฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 3 ราย ทรัพย์สิน จำนวน 45 รายการ มูลค่าประมาณ 9,378,823.95 บาท
คดีที่ 2. นางตง เฉินฯ (หลบหนี) และผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 1 ราย ทรัพย์สิน 24 รายการ มูลค่าประมาณ 527,815,332.18 บาท
คดีที่ 3. นางสาวณัฐพัชร์ฯ หรือนางผิงฯ เฉิน (หลบหนี) และผู้เกี่ยวข้องจำนวน 3 ราย ทรัพย์สินจำนวน 809 รายการ มูลค่าประมาณ 1,485,438,514.51 บาท
รวมทรัพย์สิน 878 รายการ แบ่งเป็น เงินสด จำนวน 29,744,233.07 บาท เงินฝาก จำนวน 1, 193,445,452.02 บาท อสังหาริมทรัพย์ จำนวน 191,378,073 บาท และอื่นๆ อาทิ ทองรูปพรรณเครื่องประดับ ยานพาหนะ จำนวน 608,064,9 12.55 บาท รวมมูลค่าทั้งหมด 2,022,632,670.64 บาท
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า การดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินในกลุ่มเครือข่ายดังกล่าว เป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ พ.ศ.2534 และตามประมวลกฎหมายยาเสพติด กรณีถ้ามีผู้แจ้งเบาะแส จะได้รับเงินสินบน 5% ขณะที่คนที่ทำคดีตั้งแต่ต้นผู้จับกุมจนถึงผู้ที่เกี่ยวข้องจะได้ส่วนแบ่งเงินรางวัล 25% ซึ่งกฎหมายฉบับใหม่จะดำเนินคดีได้เร็วขึ้น อย่างการยึดทรัพย์ 2,022 ล้านบาทนี้ ถ้าหากมีผู้แจ้งเบาะแส จะได้ 5% หรือ 101 ล้านบาท จึงขอชวนประชาชนร่วมชี้เบาะแสเกี่ยวกับทรัพย์สินของกลุ่มเครือข่ายหรือนักค้ายาเสพติดมายัง สำนักงาน ป.ป.ส. หลังคดีสิ้นสุดทรัพย์สินตกเป็นของกองทุนป้องกัน ปราบปราม และการแก้ไขปัญหายาเสพติด ผู้แจ้งเบาะแส จะได้รับเงินสินบนร้อยละ 5 ด้วยทันที. -119-สำนักข่าวไทย