เปิดภาพห้องโดยสาร “สิงคโปร์แอร์ไลน์”

กทม. 22 พ.ค.-เปิดภาพห้องโดยสาร “สิงคโปร์แอร์ไลน์” หลังตกหลุมอากาศ ต้องลงจอดฉุกเฉินสนามบินสุวรรณภูมิ พบสิ่งของกระจัดกระจาย ท่ออากาศฉีกขาดตกจากเพดาน พบรอยเลือดหลายแห่ง เสียชีวิตบนเครื่อง 1 ราย บาดเจ็บ 71 ราย

มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ สภาพภายในเครื่องบินของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ321 เส้นทางลอนดอน สนามบินฮีทโธรว์ ไปยังสิงคโปร์ สนามบินชางงี ที่ขอลงจอดฉุกเฉิน เนื่องจากเผชิญสภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรงระหว่างเส้นทาง ทำให้เครื่องตกหลุมอากาศจากความสูง 37,000 ฟิต ลงมา 31,000 ฟิต ประกอบกับในเที่ยวบินมีผู้โดยสารเกิดอาการเจ็บป่วยกะทันหัน นักบินของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ จึงประสานหอบังคับการบิน ขอเปลี่ยนเส้นทางมาลงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร แทน เมื่อเวลา 15.45 น. เข้าจอดที่หลุม 306 และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ ภายในเครื่องบินจะเห็นสภาพความเสียหาย ทั้งสิ่งของกระจัดกระจายทั่วห้องโดยสาร ท่ออากาศที่มีสภาพฉีกขาด ตกห้อยจากเพดานด้านบนลงมาด้านล่าง หน้ากากออกซิเจนประจำที่นั่งผู้โดยสารหล่นลงมาจำนวนมาก นอกจากนี้บนเพดานหลายจุดยังพบคราบสีแดงคล้ายเลือด


ต่อมา นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) แถลงเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บนเครื่องบิน เป็นชายสัญชาติอังกฤษ อายุ 73 ปี เบื้องต้นทราบว่าเป็นโรคหัวใจ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ มีผู้บาดเจ็บวิกฤติ 7 คน ส่วนใหญ่ศีรษะแตก และปวดบริเวณกล้ามเนื้อ ผู้บาดเจ็บปานกลาง 23 คน และลูกเรือ 1 คน บาดเจ็บเล็กน้อย 16 คน ซึ่งมีผู้โดยสารเข้ามาพักรอภายในอาคารเทียบเครื่องบิน 30 คน โดยมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยและพร้อมเดินทาง โดยเครื่องบินจากชางงี เดินทางมาถึงไทย เวลาประมาณ 21.45-22.00 น.

ขณะเดียวกัน สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ลงข้อความประกาศผ่านเฟซบุ๊ก Singapore Airlines กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมระบุว่า ทางสายการบินทำงานร่วมกับหน่วยงานของไทย เพื่อช่วยเหลือผู้โดยสารและลูกเรือ ในด้านการแพทย์ และขณะนี้ทางสายการบินส่งเจ้าหน้าที่ไปยังประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือเพิ่มเติมแล้ว โดยเครื่องบินลำดังกล่าวมีผู้โดยสารทั้งหมด 211 คน และลูกเรือ 18 คน (รวม 229 คน)


ขณะที่ฝั่งของตำรวจ พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 เดินทางมาดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อยที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ โดยให้สัมภาษณ์เรื่องการชันสูตรศพผู้เสียชีวิต เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ หากเกิดในพื้นที่ กทม. จะต้องส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ อย่างไรก็ตาม กรณีการพบผู้เสียชีวิตในประเทศไทย ย่อมต้องผ่าชันสูตรตามหลักกฎหมายไทยต่อไป ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ได้ติดต่อประสานญาติของผู้เสียชีวิตแล้ว

ต่อมาเวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ได้นำเอกสารมามอบให้แก่สื่อมวลชน เรื่อง การเกิดอุบัติภัยหมู่เครื่องบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ตกหลุมอากาศ โดยมีใจความว่า ก่อนอื่นทางโรงพยาบาลสมิติเวช ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ทั้งหมด 71 ราย โดยได้รับการดูแลจากทีมแพทย์สหสาขาของทางโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด โดยแบ่งเป็น
1. ผู้ป่วยบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 26 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 4 ราย
2. ผู้ป่วยบาดเจ็บอาการปานกลาง จำนวน 39 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 4 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลกรุงเทพ 2 ราย
3. ผู้ป่วยบาดเจ็บอาการรุนแรง จำนวน 6 ราย
4. ไม่มีผู้เสียชีวิตที่ส่งตัวมา และไม่มีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล

สำหรับสัญชาติของผู้บาดเจ็บในเบื้องต้นที่ตรวจสอบได้ ได้แก่ มาเลเซีย 3 ราย สหราชอาณาจักร 3 ราย นิวซีแลนด์ 2 ราย อังกฤษ 1 ราย สเปน 1 ราย สหรัฐอเมริกา 2 ราย และไอร์แลนด์ 1 ราย


เครื่องบินตกหลุมอากาศเกิดขึ้นตอนไหน
1. เกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินบินเข้าไปใกล้กับรอยต่อระหว่างขอบนอกของกระแสลมกรดกับบริเวณสภาพอากาศปกติ ซึ่งสาเหตุข้อนี้ไม่สามารถทราบล่วงหน้าได้
2. เกิดขึ้นเมื่อมีลมพัดปะทะภูเขา ทำให้อากาศอีกด้านปั่นป่วน เกิดเป็นหลุมอากาศ สาเหตุสามารถคาดการณ์ได้ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ นักบินจะเตือนผู้โดยสารให้ทราบ
3. พายุ ฝนฟ้าคะนอง สาเหตุข้อนี้สามารถตรวจพบได้ นักบินจึงหลีกเลี่ยงไม่บินไปใกล้ได้

ระดับความรุนแรงของการตกหลุมอากาศ สำนักอุตุนิยมวิทยาได้แบ่งเป็น 4 ระดับ
1. ความรุนแรงเล็กน้อย (Light) : ผู้โดยสารต้องรัดเข็มขัด นั่งอยู่กับที่ ผู้โดยสารอาจจะไม่รู้สึกถึงการสั่น
2. ความรุนแรงปานกลาง (Moderate) : ผู้โดยสารต้องรัดเข็มขัด อาจถูกโยนตัวขึ้นเป็นครั้งคราว แม้จะรัดเข็มขัดแล้ว และสิ่งของต่างๆ ในเครื่องบินอาจเคลื่อนที่ได้
3. ความรุนแรงมาก (Severe) : สภาพปั่นป่วนทำให้นักบินไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้ขณะหนึ่ง ผู้โดยสารถูกโยนตัวขึ้นลงอย่างรุนแรงขณะรัดเข็มขัด สิ่งของต่างๆ ในเครื่องบินอาจถูกโยนลอยขึ้นในอากาศได้
4. ความรุนแรงมากที่สุด (Extreme) : สภาพความปั่นป่วนระดับนี้พบน้อยมาก ตัวเครื่องบินถูกโยนขึ้นลงอย่างรุนแรงมาก นักบินไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องบิน

วิธีป้องกันอันตรายขณะตกหลุมอากาศ

ผู้โดยสารและลูกเรือจะต้องนั่งประจำที่ รัดเข็มขัดนิรภัยให้กระชับ มีสติและฟังคำแนะนำของพนักงานต้อนรับอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอันตรายจากเหตุที่ไม่คาดคิด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบช.น.ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้คนจีนมีจริง-ตร.แค่เป็นวิทยากร

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้กับคนจีนมีจริง แต่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่ตำรวจนครบาล 3 เพียงแต่ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น ส่วนเจ้าของโครงการ เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี

ชายวัย 53 เมาคว้าปืนลูกซองยิงเพื่อนบ้านวัย 60 ดับ ฉุนฉลองปีใหม่

ชายวัย 53 ปี อารมณ์ร้อน คว้าปืนลูกซองยิงชายวัย 60 ปี เสียชีวิต ฉุนนั่งย่างเนื้อให้ลูกๆ ที่กลับมาเยี่ยมบ้านฉลองปีใหม่

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

นึกว่าแจกฟรี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เมืองเชียงใหม่

เอาใจสายเนื้อ ขึ้นเหนือไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ย่านถนนราชดำเนิน กลางเมืองเชียงใหม่ ขายดิบขายดี นึกว่าแจกฟรี ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียด

ข่าวแนะนำ

กต.เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษไทย 152 คน-ไม่มี 4 ลูกเรือประมงไทย

กระทรวงการต่างประเทศ เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษชาวไทย 152 คน แต่ยังไม่มี 4 ลูกเรือประมง ยืนยันพยายามอย่างเต็มที่

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท

ตร.-ผอ.รพ.แจงวิสามัญผู้ป่วยคลั่ง ทำตามยุทธวิธี

ตำรวจ-รพ. แถลงเหตุวิสามัญผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบ คลั่งกลาง รพ.สุรินทร์ ตำรวจแจงทำตามยุทธวิธี แต่ผู้ป่วยมีอาการคลั่ง ไม่สงบ จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงเพื่อระงับเหตุ ด้าน รพ. เผยเหตุดังกล่าวเกือบเสียคนไข้อีกคน ส่วนกล้องวงจรปิด พบว่าใช้การไม่ได้ อยู่ระหว่างการเปลี่ยน

เพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก เสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกสำเร็จรูป อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จนท.ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงได้ คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน