ผลเจรจาผู้กองไซเบอร์กับภรรยาคนที่ 5 จบด้วยดี ทั้งสองฝ่ายต่างพอใจ

9 พ.ค. – ผู้กองไซเบอร์ รุดเจรจากับภรรยาคนที่ 5 ต่อหน้าผู้บังคับบัญชา ยอมถอยคนละก้าว ผลเป็นที่พอใจทั้ง 2 ฝ่าย ขณะที่สมุดลับ “โดเรม่อน” ที่ฝ่ายภรรยาเก็บไว้ขู่ฝ่ายสามียังเป็นปริศนาให้ขยายผลต่อ


ภรรยา “ร.ต.อ.” สังกัดกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 พร้อมด้วยนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 เพื่อเจรจากับผู้กอง ซึ่งเป็นสามี และทำข้อตกลงในการดูแลบุตร ทั้ง 5 คน ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าเรียนหนังสือ และค่ารักษาพยาบาลของลูก หลังจากเมื่อวานนี้เข้าไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ถูกสามีทำร้ายร่างกาย และทอดทิ้งไปนาน 2 เดือน

“กัน จอมพลัง” กล่าวว่า หลังจากเข้าไปพูดคุยเจรจาตกลงร่วมกัน 2 ฝ่าย โดยมีผู้บังคับบัญชาของฝ่ายชาย เข้าไปเป็นคนกลางเจรจาพูดคุยด้วย เบื้องต้นมีข้อมูลว่าฝ่ายชายมีปัญหาเรื่องเงิน เป็นหนี้สินในระบบ โดยหลังเจรจา ทั้ง 2 ฝ่าย ยอมถอยคนละก้าว หันกลับมาเป็นพ่อและแม่ของลูก โดยจะแยกกันอยู่และให้ฝ่ายชายมาหาลูกในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ได้ ส่วนลูกชายคนโตที่พบว่าเป็นเด็กพิเศษ และมีอาการเจ็บป่วย ส่วนนี้ผู้เป็นพ่อก็ต้องมาช่วยรับผิดชอบ รวมถึงตัวเองจะประสานกรมกิจการเด็ก กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ช่วยเข้ามาดูแล โดยขณะนี้อยู่ระหว่างร่างเอกสารว่าจะตกลงความช่วยเหลือกันอย่างไรบ้าง


สำหรับหนังสือทำข้อตกลงได้ข้อสรุปคือ ฝ่ายสามีต้องดูแลรับผิดชอบในเรื่องค่าผ่อนบ้านเดือนละ 20,000 บาท จ่ายทุกวันที่ 12 ของเดือน, ค่าใช้จ่ายในครอบครัวเดือนละ 30,000 บาท จ่ายทุกวันที่ 25 ของเดือน ซึ่งมีผู้บังคับบัญชาช่วยเหลือส่วนนี้ด้วย การตกลงเลี้ยงดูบุตรเรื่องค่าเรียน การดูแลแบ่งเบาภาระเลี้ยงดูบุตร รวมถึงเวลาเจ็บป่วยค่ารักษาพยาบาลทางพ่อก็จะดูแล ส่วนการเจอลูก ฝ่ายสามีจะมาหาทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งทางภรรยาไม่ได้กีดกัน

ส่วนกรณีที่สามีหนีหายจากบ้านไปนานถึง 2 เดือน ฝ่ายชายชี้แจงว่าเป็นเพราะไม่อยากทะเลาะกับภรรยาต่อหน้าลูก ซึ่งส่วนนี้มองว่าทุกคนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าหน้าที่คนเป็นพ่อก็ต้องกลับมารับผิดชอบดูแลลูกซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างขอโทษกันแล้ว

ด้านภรรยา บอกว่า หลังจากพูดคุยเจรจากัน เรื่องข้อตกลงพอใจในระดับหนึ่ง ถ้าเป็นไปตามที่ผู้ใหญ่รับปากไว้ก็ไม่มีความกังวลใด ๆ เรื่องความรับผิดชอบดูแลลูก ซึ่งบอกว่าตอนนี้ความพอใจยังอยู่ระดับกลางต้องรอดูต่อไปเรื่อยๆ ส่วนความสัมพันธ์กับสามี ตอนนี้พูดคุยกันเรื่องลูกได้ตามปกติ กลับไปทำหน้าที่เพียงพ่อกับแม่ ส่วนประเด็นที่ทางฝ่ายสามีบอกว่าตัวเองป่วยจิตเวช ยอมรับว่าเคยปรึกษาจิตแพทย์จริง ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นอาการที่เกิดจากความเครียด ถ้าปล่อยไว้อาจส่งผลระยะยาวให้เป็นอาการซึมเศร้า หรือเป็นจิตเวชได้ แต่ขณะนี้ไม่ถึงขั้นป่วยจิตเวช ซึ่งเรื่องนี้สามารถตรวจสอบกับทางแพทย์ได้


ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้แม่ของตัวเองออกมาปกป้องฝ่ายชายเป็นเพราะว่าความรักและความผูกพันในครอบครัวที่มีมานาน แต่ทางแม่ของตัวเองก็ไม่ได้มาอยู่ด้วยกันที่บ้านเลย ทำให้ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว สำหรับกรณีนี้อาจไม่ใช่ประเด็นเรื่องของปัญหาครอบครัวเพียงอย่างเดียวหลังจากที่ นายกัน จอมพลัง มีการเปิดเผยข้อมูลเรื่องสมุดโดเรม่อนที่ทางด้านภรรยาของนายตำรวจพบอยู่ที่บ้าน ซึ่ง กัน จอมพลัง ได้เปิดเนื้อหาบางส่วนในสมุดโดเรม่อน ตามที่ประกาศเอาไว้ว่า หากไม่ติดต่อมาจะเปิด “สมุดโดเรม่อน” ที่เปิดแล้วจะมีคนเดือดร้อนนับร้อยคน โดยที่เรียกว่าสมุดโดเรม่อน เพราะว่ามีข้อมูลทุกอย่างอยู่ในสมุดเล่มนี้

กัน จอมพลัง ระบุว่า ในสมุดโดเรม่อนนี้เกี่ยวกับธุรกิจสีเทาที่เป็นลักษณะคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในการดำเนินการทางธุรกิจ ซึ่งเบื้องต้นได้ส่งข้อมูลให้กับตำรวจท้องที่ตรวจสอบ นอกจากนี้ในสมุดดังกล่าวยังมีบุคคลที่เกี่ยวข้องนับ 100 รายชื่อ ซึ่งในนั้นมีระดับบิ๊ก ที่ใครก็รู้จัก ขนาดตัวเองเห็นแล้วยังตกใจ
อย่างไรก็ตามข้อมูลดังกล่าวยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดและจะเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย เพราะมองว่าหากในข้อมูลตำรวจเล่มนี้ตกไปอยู่ในมือคนที่ไม่ดี อาจมีการแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง และประเมินว่าอาจมีการนำรายชื่อของบุคคลที่อยู่ในสมุดไปรีดไถ ซึ่งมูลค่าที่ตัวเองประเมินจะได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

กัน จอมพลัง ย้ำว่า ตัวเองเป็นนักช่วยไม่ใช่นักแฉ มั่นใจว่าจะไม่นำข้อมูลในสมุดเล่มนี้ไปหาผลประโยชน์ให้ตัวเองอย่างแน่นอน พร้อมระบุ สมุดโดเรม่อน มีข้อมูลสถานีตำรวจกว่า 80 แห่งทั่วประเทศ มีตัวเลขอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ก่อนจะบอกตัวอย่างว่ามีเบอร์โทรเบอร์หนึ่ง ซึ่งได้เอาเบอร์ไปค้นแล้วขึ้นว่า “ลูกน้อง สจ.” และ “ชุดเคลียร์ตำรวจ”

สำหรับหลักฐานที่ กัน จอมพลัง นำมาเปิดเผยวันนี้มีใบเสร็จที่เขียนระบุประเภท เช่น มวย ตู้ /บ่อตกกุ้ง บอลตู้ออนไลน์ และไฮโล ซึ่งมีทั้งเบอร์โทร และยอดเงินระบุชัด ตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น โดยตัวอย่างแผ่นนี้ ยอดสูงสุดคือ 30,000 บาท ซึ่งเป็นการเคลียร์พนันประเภทตู้ ทั้งตู้บอลออนไลน์ เคลียร์ 20,000 บาท ไฮโล เคลียร์ 10,000 บาท เป็นต้น.-412-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]

รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท ยักยอกเงินวัด

นครสวรรค์ 14 ส.ค. – ตำรวจ บก.ปปป. รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท หลังมีหลักฐานยักยอกเงินวัดกว่า 4.1 ล้านบาท “บิ๊กเต่า” เตรียมแถลงเย็นนี้ ตำรวจ บก.ปปป. จับกุมนายสฤษฏิ์ หรือ พระธรรมวชิรธีรคุณสฤษฏิ์ จันท์ประธาตุ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 147 และ 157 และนางสาวภูธินี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ในคดีเป็นผู้สนับสนุนพนักงานยักยอกทรัพย์ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่ หรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 147 157 และ 86 โดยพฤติกรรมของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2568 ที่ผ่านมา อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ น.ส.ภูธินี และยักยอกเงินวัดนครสวรรค์ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2567-10 ก.ค.2568 เจ้าอาวาสได้สั่งให้พระศตยา พุ่มเดช พระลูกวัด เบิกถอนเงินจากบัญชีวัดนครสวรรค์ […]

สภาถกงบฯ 69 วันที่ 2 “ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์

รัฐสภา 14 ส.ค.- สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วันที่ 2 “สส.ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์คนไทย ดูดีบนกระดาษ แต่ใช้ในชีวิตจริงของเกษตรกรไม่ได้ ข้องใจ ทำไมต้องทำโครงการตลาดกลางที่พะเยา ทั้งที่มูลค่าส่งออกแพ้เชียงราย-น่าน เสี่ยงผูกขาด หรือเป็นเหตุผลทางการเมือง ฉะ “ล้งแห่งชาติ” ของ อ.ต.ก. ล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่ม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 – 3 เป็นวันที่ 2 โดยพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในกำกับ โดยนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณในส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ว่า มีสองโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และเสี่ยงต่อการใช้เงินภาษีอย่างไม่คุ้มค่า เสี่ยงต่อการล้มเหลวของโครงการ ได้แก่โครงการตลาดกลางที่ จ.พะเยา […]

มทภ.2 เผย “ในหลวง” ทรงติดตามกองทัพสู้ศึกชายแดน ถวายรายงานทุกวัน

สาธิตเกษตร 14 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” บรรยายพิเศษ รร.สาธิต ม.เกษตรฯ เผย “ในหลวง” องค์จอมทัพไทย ทรงติดตามกองทัพ สู้ศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุถวายรายงานสถานการณ์ทุกวัน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาและบทบาทหน้าที่ของกองทัพบก และคนไทยทุกคน พล.ท.บุญสิน เล่าถึงสถานการณ์ทหารแนวหน้าให้เด็กๆ ฟัง พี่เขาฝากมาว่า หากพี่น้องคนไทยสู้ ลูกหลานเราสู้ พี่ๆ ทหารก็สู้ พี่ๆ ทหารฝากบอกว่าไม่ต้องห่วงพวกผม ขอเพียงกำลังใจจากคนไทยเท่านั้น นี่คือทหารไทย เมื่อถึงเวลามีจิตวิญญาณของพระนเรศวร พวกเราไม่ต้องหวังว่าสถานการณ์ทหารไทยจะสู้หรือไม่ ชัดเจนอยู่แล้ว เพื่อแผ่นดินที่บรรพบุรุษได้รักษาไว้ เราจะต้องปกป้อง ใครรุกล้ำดินแดนของเรา ต้องผลักดันออกไป ยืนยันว่าเราไม่ได้รุกล้ำประเทศอื่น เรารบในประเทศไทยทั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยอยู่ตลอดเวลา ท่านได้สอบถามสถานการณ์ไปที่แม่ทัพทุกวัน โดยกองงานของพระองค์ ได้สอบถามสถานการณ์จากแม่ทัพ และได้รายงานทุกวัน สิ่งเหล่านี้คือจอมทัพไทย และตั้งแต่ประวัติศาสตร์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์นำกองทัพ และปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นเดิม ดังนั้นทหารทุกคนพร้อมสละชีพเพื่อชาติทุกคน […]