ผลเจรจาผู้กองไซเบอร์กับภรรยาคนที่ 5 จบด้วยดี ทั้งสองฝ่ายต่างพอใจ

9 พ.ค. – ผู้กองไซเบอร์ รุดเจรจากับภรรยาคนที่ 5 ต่อหน้าผู้บังคับบัญชา ยอมถอยคนละก้าว ผลเป็นที่พอใจทั้ง 2 ฝ่าย ขณะที่สมุดลับ “โดเรม่อน” ที่ฝ่ายภรรยาเก็บไว้ขู่ฝ่ายสามียังเป็นปริศนาให้ขยายผลต่อ


ภรรยา “ร.ต.อ.” สังกัดกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 พร้อมด้วยนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 เพื่อเจรจากับผู้กอง ซึ่งเป็นสามี และทำข้อตกลงในการดูแลบุตร ทั้ง 5 คน ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าเรียนหนังสือ และค่ารักษาพยาบาลของลูก หลังจากเมื่อวานนี้เข้าไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ถูกสามีทำร้ายร่างกาย และทอดทิ้งไปนาน 2 เดือน

“กัน จอมพลัง” กล่าวว่า หลังจากเข้าไปพูดคุยเจรจาตกลงร่วมกัน 2 ฝ่าย โดยมีผู้บังคับบัญชาของฝ่ายชาย เข้าไปเป็นคนกลางเจรจาพูดคุยด้วย เบื้องต้นมีข้อมูลว่าฝ่ายชายมีปัญหาเรื่องเงิน เป็นหนี้สินในระบบ โดยหลังเจรจา ทั้ง 2 ฝ่าย ยอมถอยคนละก้าว หันกลับมาเป็นพ่อและแม่ของลูก โดยจะแยกกันอยู่และให้ฝ่ายชายมาหาลูกในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ได้ ส่วนลูกชายคนโตที่พบว่าเป็นเด็กพิเศษ และมีอาการเจ็บป่วย ส่วนนี้ผู้เป็นพ่อก็ต้องมาช่วยรับผิดชอบ รวมถึงตัวเองจะประสานกรมกิจการเด็ก กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ช่วยเข้ามาดูแล โดยขณะนี้อยู่ระหว่างร่างเอกสารว่าจะตกลงความช่วยเหลือกันอย่างไรบ้าง


สำหรับหนังสือทำข้อตกลงได้ข้อสรุปคือ ฝ่ายสามีต้องดูแลรับผิดชอบในเรื่องค่าผ่อนบ้านเดือนละ 20,000 บาท จ่ายทุกวันที่ 12 ของเดือน, ค่าใช้จ่ายในครอบครัวเดือนละ 30,000 บาท จ่ายทุกวันที่ 25 ของเดือน ซึ่งมีผู้บังคับบัญชาช่วยเหลือส่วนนี้ด้วย การตกลงเลี้ยงดูบุตรเรื่องค่าเรียน การดูแลแบ่งเบาภาระเลี้ยงดูบุตร รวมถึงเวลาเจ็บป่วยค่ารักษาพยาบาลทางพ่อก็จะดูแล ส่วนการเจอลูก ฝ่ายสามีจะมาหาทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งทางภรรยาไม่ได้กีดกัน

ส่วนกรณีที่สามีหนีหายจากบ้านไปนานถึง 2 เดือน ฝ่ายชายชี้แจงว่าเป็นเพราะไม่อยากทะเลาะกับภรรยาต่อหน้าลูก ซึ่งส่วนนี้มองว่าทุกคนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าหน้าที่คนเป็นพ่อก็ต้องกลับมารับผิดชอบดูแลลูกซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างขอโทษกันแล้ว

ด้านภรรยา บอกว่า หลังจากพูดคุยเจรจากัน เรื่องข้อตกลงพอใจในระดับหนึ่ง ถ้าเป็นไปตามที่ผู้ใหญ่รับปากไว้ก็ไม่มีความกังวลใด ๆ เรื่องความรับผิดชอบดูแลลูก ซึ่งบอกว่าตอนนี้ความพอใจยังอยู่ระดับกลางต้องรอดูต่อไปเรื่อยๆ ส่วนความสัมพันธ์กับสามี ตอนนี้พูดคุยกันเรื่องลูกได้ตามปกติ กลับไปทำหน้าที่เพียงพ่อกับแม่ ส่วนประเด็นที่ทางฝ่ายสามีบอกว่าตัวเองป่วยจิตเวช ยอมรับว่าเคยปรึกษาจิตแพทย์จริง ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นอาการที่เกิดจากความเครียด ถ้าปล่อยไว้อาจส่งผลระยะยาวให้เป็นอาการซึมเศร้า หรือเป็นจิตเวชได้ แต่ขณะนี้ไม่ถึงขั้นป่วยจิตเวช ซึ่งเรื่องนี้สามารถตรวจสอบกับทางแพทย์ได้


ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้แม่ของตัวเองออกมาปกป้องฝ่ายชายเป็นเพราะว่าความรักและความผูกพันในครอบครัวที่มีมานาน แต่ทางแม่ของตัวเองก็ไม่ได้มาอยู่ด้วยกันที่บ้านเลย ทำให้ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว สำหรับกรณีนี้อาจไม่ใช่ประเด็นเรื่องของปัญหาครอบครัวเพียงอย่างเดียวหลังจากที่ นายกัน จอมพลัง มีการเปิดเผยข้อมูลเรื่องสมุดโดเรม่อนที่ทางด้านภรรยาของนายตำรวจพบอยู่ที่บ้าน ซึ่ง กัน จอมพลัง ได้เปิดเนื้อหาบางส่วนในสมุดโดเรม่อน ตามที่ประกาศเอาไว้ว่า หากไม่ติดต่อมาจะเปิด “สมุดโดเรม่อน” ที่เปิดแล้วจะมีคนเดือดร้อนนับร้อยคน โดยที่เรียกว่าสมุดโดเรม่อน เพราะว่ามีข้อมูลทุกอย่างอยู่ในสมุดเล่มนี้

กัน จอมพลัง ระบุว่า ในสมุดโดเรม่อนนี้เกี่ยวกับธุรกิจสีเทาที่เป็นลักษณะคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในการดำเนินการทางธุรกิจ ซึ่งเบื้องต้นได้ส่งข้อมูลให้กับตำรวจท้องที่ตรวจสอบ นอกจากนี้ในสมุดดังกล่าวยังมีบุคคลที่เกี่ยวข้องนับ 100 รายชื่อ ซึ่งในนั้นมีระดับบิ๊ก ที่ใครก็รู้จัก ขนาดตัวเองเห็นแล้วยังตกใจ
อย่างไรก็ตามข้อมูลดังกล่าวยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดและจะเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย เพราะมองว่าหากในข้อมูลตำรวจเล่มนี้ตกไปอยู่ในมือคนที่ไม่ดี อาจมีการแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง และประเมินว่าอาจมีการนำรายชื่อของบุคคลที่อยู่ในสมุดไปรีดไถ ซึ่งมูลค่าที่ตัวเองประเมินจะได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

กัน จอมพลัง ย้ำว่า ตัวเองเป็นนักช่วยไม่ใช่นักแฉ มั่นใจว่าจะไม่นำข้อมูลในสมุดเล่มนี้ไปหาผลประโยชน์ให้ตัวเองอย่างแน่นอน พร้อมระบุ สมุดโดเรม่อน มีข้อมูลสถานีตำรวจกว่า 80 แห่งทั่วประเทศ มีตัวเลขอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ก่อนจะบอกตัวอย่างว่ามีเบอร์โทรเบอร์หนึ่ง ซึ่งได้เอาเบอร์ไปค้นแล้วขึ้นว่า “ลูกน้อง สจ.” และ “ชุดเคลียร์ตำรวจ”

สำหรับหลักฐานที่ กัน จอมพลัง นำมาเปิดเผยวันนี้มีใบเสร็จที่เขียนระบุประเภท เช่น มวย ตู้ /บ่อตกกุ้ง บอลตู้ออนไลน์ และไฮโล ซึ่งมีทั้งเบอร์โทร และยอดเงินระบุชัด ตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น โดยตัวอย่างแผ่นนี้ ยอดสูงสุดคือ 30,000 บาท ซึ่งเป็นการเคลียร์พนันประเภทตู้ ทั้งตู้บอลออนไลน์ เคลียร์ 20,000 บาท ไฮโล เคลียร์ 10,000 บาท เป็นต้น.-412-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาชายแดน

กองทัพบก 30 พ.ค.-ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาพิพาทชายแดน ยันทหาร 2 ฝ่ายถอนกำลังจากจุดปะทะช่องบกแล้ว วอนประชาชนรับฟังข้อมูลสื่อหลัก ขอเชื่อมั่นทหารปกป้องอธิปไตยทุกตารางนิ้ว กองทัพบก ออกหนังสือแถลงการณ์ผลการเจรจาระหว่าง ผบ.ทบ.ไทย – ผบ.ทบ.กัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ 1.ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์ปะทะ และเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญต่อเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของทั้งสองประเทศ ที่ต้องการให้มีการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนการพูดคุยเจรจาด้วยสันติวิธีในการหาข้อตกลงร่วมกัน และขอยืนยันว่าจะไม่มีการรุกรานอธิปไตยหรือการหยิบยกประเด็นข้อขัดแย้งในอธิปไตยของกัมพูชาโดยเด็ดขาด การเจรจาครั้งนี้จะส่งผลดีต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ 2.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทยและกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ โดยปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้ตกลงที่จะเคลื่อนออกจากพื้นที่ ถือเป็นการคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นพ้องในการใช้กลไกคณะกรรมการร่วมมือรักษาความ สงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน หรือ Reqional Border Committee (RBC) เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยที่อาจค้างคา และส่งเสริมกลไก JBC ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น […]

ทบ. จ่อออกแถลงการณ์ ห้ามทหารกัมพูชาเข้าใช้พื้นที่เนิน 745

กองทัพบก 30 พ.ค.-ทบ. เตรียมออกแถลงการณ์จุดปะทะช่องบก ไม่ให้ทหารกัมพูชาเข้ามาใช้พื้นที่เนิน 745 – ต้นสัตบรรณ ถึงสามแยกลาว เล็งพูดคุยจัดชุดลาดตระเวนร่วม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พิธีไถ่ชีวิตกระบือ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระราชินี 3 มิ.ย. โดยในวันนี้ กองทัพบกเตรียมออกแถลงการณ์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อย่างเป็นทางการ ภายหลังวานนี้ (29 พ.ค.) พล.อ.พนา ได้หารือกับ พลเอก เมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และคณะฝ่ายกัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน กรณีเกิดเหตุปะทะช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี จนได้ข้อสรุป 3 ข้อ 1.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทย และกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ 2.ปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้เคลื่อนออกจากพื้นที่แล้ว คลี่คลายความตึงเครียด […]

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้มาตรการภาษี ‘ทรัมป์’ ยังบังคับใช้

วอชิงตัน 30 พ.ค. – ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางมีคำสั่งในวันพฤหัสบดี ให้มาตรการภาษีตอบโต้ที่ครอบคลุมมากที่สุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมามีผลบังคับใช้อีกครั้งเป็นการชั่วคราว เพียงหนึ่งวันหลังจากที่ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ ตัดสินว่านายทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตในการเรียกเก็บภาษีเหล่านั้นและสั่งให้ระงับมาตรการภาษีดังกล่าวทันที ศาลอุทธรณ์กลางแห่งสหรัฐอเมริกา ประจำเขตวอชิงตัน ระบุว่ากำลังระงับคำตัดสินของศาลชั้นต้นไว้ชั่วคราว เพื่อพิจารณาคำอุทธรณ์ของรัฐบาล และมีคำสั่งให้ฝ่ายโจทก์ที่ยื่นฟ้องหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีในคดีนี้ยื่นเอกสารตอบกลับภายในวันที่ 5 มิถุนายน และให้ฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเป็นฝ่ายที่ถูกฟ้องร้องหรือเป็นผู้กำหนดภาษี ให้ส่งเอกสารตอบกลับภายในวันที่ 9 มิถุนายน นายทรัมป์เขียนแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ว่า เขาหวังว่าศาลฎีกาของสหรัฐจะ ‘กลับคำตัดสินอันเลวร้ายที่คุกคามประเทศ’ ของศาลการค้าระหว่างประเทศ พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายตุลาการของรัฐบาลว่า ‘เป็นปฏิปักษ์ต่ออเมริกา’ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คณะผู้พิพากษา 3 คนของศาลการค้าระหว่างประเทศ ตัดสินว่ารัฐธรรมนูญให้อำนาจแก่รัฐสภา ไม่ใช่ประธานาธิบดี ในการเรียกเก็บภาษีและอากรศุลกากร และประธานาธิบดีได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตโดยการอ้างใช้กฎหมายว่าด้วยอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (International Emergency Economic Powers Act) ซึ่งเป็นกฎหมายที่มุ่งหมายเพื่อรับมือกับภัยคุกคามในสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ.-813.-สำนักข่าวไทย