จับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

27 มี.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย


ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกันจับกุม นายพลวัฒน์ อายุ 29 ปี และนายหม่องซาอุ อายุ 24 ปี พร้อมแรงงานต่างด้าว 71 คน เป็นผู้ชาย 48 คน เป็นผู้หญิง 23 คน พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์ จำนวน 5 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ตั้งจุดสกัดเพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว โดยในขณะที่ออกตรวจได้รับแจ้งว่า มีการแอบลักลอบขนแรงงานต่างด้าวโดยใช้รถยนต์ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เมื่อไปถึงบริเวณหมู่บ้านในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้พบรถยนต์คันดังกล่าว มุ่งหน้ามาทางอำเภอทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้แสดงตัวและส่งสัญญาณให้ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวหยุด แต่เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวได้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พยายามขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขับรถติดตามไปจนกระทั่งมาถึงบริเวณหน้าร้านอาหารในพื้นที่ รถคันดังกล่าวได้เสียหลักลงข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวและสามารถควบคุมตัวผู้ขับขี่ไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นแรงงานต่างด้าว ทั้งหมดจำนวน 14 คน (ชาย 9 คน, หญิง 5 คน)

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า มีการแอบลักลอบขนแรงงานต่างด้าวโดยใช้รถยนต์ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เมื่อไปถึงบริเวณหมู่บ้านในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ท่าขนุนฯ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรีได้พบรถยนต์คันดังกล่าว มุ่งหน้ามาทางอำเภอทองผาภูมิ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและส่งสัญญาณให้ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวหยุด แต่เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวได้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขับรถติดตามไป จนกระทั่งมาถึงบริเวณบนถนนหลวงหมายเลข 323 หมู่ที่ 1 ต.สหกรณ์นิคม อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี รถคันดังกล่าวได้เสียหลักและไม่สามารถไปต่อได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวและสามารถควบคุมตัวผู้ขับขี่ไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นแรงงานต่างด้าว ทั้งหมดจำนวน 18 คน (ชาย 11 คน, หญิง 7 คน)

ต่อมาในวันเดียวกัน ขณะทำการจับกุมแรงงานต่างด้าว ได้พบรถยนต์ขับมาด้วยความเร็ว มุ่งหน้าไปทางอำเภอทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุด เพื่อทำการตรวจสอบ แต่รถยนต์คันดังกล่าวไม่ยอมหยุดรถและพยามยามที่จะขับขี่หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขับรถติดตามไป จนกระทั่งมาถึงซอยทางเข้าวัดในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลท่าขนุนฯ รถคันกล่าวได้เสียหลัก ไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ ผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวจึงได้จอดรถทิ้งและวิ่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบแรงงานต่างด้าว จำนวน 10 คน (เป็นชาย 10 คน)

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบรถยนต์ขับมาด้วยความเร็ว มุ่งหน้าไปทางอำเภอทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุด เพื่อทำการตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวไม่ยอมหยุดรถและพยายามที่จะขับหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขับรถติดตามไป จนกระทั่งมาถึงบริเวณสถานีวนวัฒนวิจัยทองผาภูมิ หมู่ที่ 1 ตำบลท่าขนุนฯ รถยนต์คันกล่าวได้เสียและไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ ผู้ขับขี่รถยนต์คันกล่าวจึงได้จอดรถทิ้งและได้วิ่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบแรงงานต่างด้าว จำนวน 11 คน (เป็นชาย 10 คน หญิง 1 คน)

จากนั้น ได้พบรถยนต์ขับมาด้วยความเร็ว มุ่งหน้าไปทาง อ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุด เพื่อทำการตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวไม่ยอมหยุดรถและพยามยามที่จะขับขี่หลบหนีไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสงสัยว่าอาจจะแอบลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขับรถติดตามไป จนกระทั่งมาถึงซอยทางเข้าวัดหนองแดง หมู่ที่ 1 ต.ท่าขนุนฯ รถยนต์คันกล่าวได้เสียและไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ ผู้ขับขี่รถยนต์คันกล่าวจึงได้จอดรถทิ้งและได้วิ่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไม่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ทัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวพบว่าเป็นแรงงานต่างด้าว จำนวน 17 คน (ชาย 8 คน หญิง 9 คน) และได้ทำการตรวจสอบแรงงานต่างด้าวทั้งหมด พบว่า ไม่สามารถนำบัตรประจำตัวหรือเอกสารใดๆ มาแสดงให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ภ.จว.กาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


เบื้องต้นผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยนายพลวัฒน์ ให้การว่า ได้รับจ้างจากชายไม่ทราบชื่อ ให้พาแรงงานต่างด้าวไปส่งที่ภายในตัวเมืองกาญจนบุรี โดยจะให้ค่าจ้างเป็นรอบ รอบละ 3,000 – 4,000 บาท

จากการสอบถามนายหม่องซาอุ ให้การว่า ได้รับจ้างจากนายโซ ไม่ทราบชื่อจริงนามกุลจริง ให้พาแรงงานต่างด้าวไปส่งที่ภายในตัวเมืองกาญจนบุรี โดยจะให้ค่าจ้างเป็นจำนวนเงินคนละ 500 บาท

ด้านแรงงานต่างด้าว ให้การยอมรับว่า ได้เดินทางหลบหนีเข้าเมืองมาจากประเทศเมียนมา มาตามช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ บ้านพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี เพื่อที่จะเข้าไปทำงานในตัวเมือง โดยจะเสียค่าเดินทางให้กับนายหน้าประมาณคนละ 13,000-15,000 บาท.-419-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]

รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท ยักยอกเงินวัด

นครสวรรค์ 14 ส.ค. – ตำรวจ บก.ปปป. รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท หลังมีหลักฐานยักยอกเงินวัดกว่า 4.1 ล้านบาท “บิ๊กเต่า” เตรียมแถลงเย็นนี้ ตำรวจ บก.ปปป. จับกุมนายสฤษฏิ์ หรือ พระธรรมวชิรธีรคุณสฤษฏิ์ จันท์ประธาตุ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 147 และ 157 และนางสาวภูธินี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ในคดีเป็นผู้สนับสนุนพนักงานยักยอกทรัพย์ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่ หรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 147 157 และ 86 โดยพฤติกรรมของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2568 ที่ผ่านมา อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ น.ส.ภูธินี และยักยอกเงินวัดนครสวรรค์ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2567-10 ก.ค.2568 เจ้าอาวาสได้สั่งให้พระศตยา พุ่มเดช พระลูกวัด เบิกถอนเงินจากบัญชีวัดนครสวรรค์ […]

สภาถกงบฯ 69 วันที่ 2 “ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์

รัฐสภา 14 ส.ค.- สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วันที่ 2 “สส.ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์คนไทย ดูดีบนกระดาษ แต่ใช้ในชีวิตจริงของเกษตรกรไม่ได้ ข้องใจ ทำไมต้องทำโครงการตลาดกลางที่พะเยา ทั้งที่มูลค่าส่งออกแพ้เชียงราย-น่าน เสี่ยงผูกขาด หรือเป็นเหตุผลทางการเมือง ฉะ “ล้งแห่งชาติ” ของ อ.ต.ก. ล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่ม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 – 3 เป็นวันที่ 2 โดยพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในกำกับ โดยนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณในส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ว่า มีสองโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และเสี่ยงต่อการใช้เงินภาษีอย่างไม่คุ้มค่า เสี่ยงต่อการล้มเหลวของโครงการ ได้แก่โครงการตลาดกลางที่ จ.พะเยา […]

มทภ.2 เผย “ในหลวง” ทรงติดตามกองทัพสู้ศึกชายแดน ถวายรายงานทุกวัน

สาธิตเกษตร 14 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” บรรยายพิเศษ รร.สาธิต ม.เกษตรฯ เผย “ในหลวง” องค์จอมทัพไทย ทรงติดตามกองทัพ สู้ศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุถวายรายงานสถานการณ์ทุกวัน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาและบทบาทหน้าที่ของกองทัพบก และคนไทยทุกคน พล.ท.บุญสิน เล่าถึงสถานการณ์ทหารแนวหน้าให้เด็กๆ ฟัง พี่เขาฝากมาว่า หากพี่น้องคนไทยสู้ ลูกหลานเราสู้ พี่ๆ ทหารก็สู้ พี่ๆ ทหารฝากบอกว่าไม่ต้องห่วงพวกผม ขอเพียงกำลังใจจากคนไทยเท่านั้น นี่คือทหารไทย เมื่อถึงเวลามีจิตวิญญาณของพระนเรศวร พวกเราไม่ต้องหวังว่าสถานการณ์ทหารไทยจะสู้หรือไม่ ชัดเจนอยู่แล้ว เพื่อแผ่นดินที่บรรพบุรุษได้รักษาไว้ เราจะต้องปกป้อง ใครรุกล้ำดินแดนของเรา ต้องผลักดันออกไป ยืนยันว่าเราไม่ได้รุกล้ำประเทศอื่น เรารบในประเทศไทยทั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยอยู่ตลอดเวลา ท่านได้สอบถามสถานการณ์ไปที่แม่ทัพทุกวัน โดยกองงานของพระองค์ ได้สอบถามสถานการณ์จากแม่ทัพ และได้รายงานทุกวัน สิ่งเหล่านี้คือจอมทัพไทย และตั้งแต่ประวัติศาสตร์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์นำกองทัพ และปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นเดิม ดังนั้นทหารทุกคนพร้อมสละชีพเพื่อชาติทุกคน […]