fbpx

จับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

27 มี.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย


ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกันจับกุม นายพลวัฒน์ อายุ 29 ปี และนายหม่องซาอุ อายุ 24 ปี พร้อมแรงงานต่างด้าว 71 คน เป็นผู้ชาย 48 คน เป็นผู้หญิง 23 คน พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์ จำนวน 5 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ตั้งจุดสกัดเพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว โดยในขณะที่ออกตรวจได้รับแจ้งว่า มีการแอบลักลอบขนแรงงานต่างด้าวโดยใช้รถยนต์ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เมื่อไปถึงบริเวณหมู่บ้านในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้พบรถยนต์คันดังกล่าว มุ่งหน้ามาทางอำเภอทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้แสดงตัวและส่งสัญญาณให้ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวหยุด แต่เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวได้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พยายามขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขับรถติดตามไปจนกระทั่งมาถึงบริเวณหน้าร้านอาหารในพื้นที่ รถคันดังกล่าวได้เสียหลักลงข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวและสามารถควบคุมตัวผู้ขับขี่ไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นแรงงานต่างด้าว ทั้งหมดจำนวน 14 คน (ชาย 9 คน, หญิง 5 คน)

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า มีการแอบลักลอบขนแรงงานต่างด้าวโดยใช้รถยนต์ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เมื่อไปถึงบริเวณหมู่บ้านในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ท่าขนุนฯ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรีได้พบรถยนต์คันดังกล่าว มุ่งหน้ามาทางอำเภอทองผาภูมิ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและส่งสัญญาณให้ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวหยุด แต่เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวได้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขับรถติดตามไป จนกระทั่งมาถึงบริเวณบนถนนหลวงหมายเลข 323 หมู่ที่ 1 ต.สหกรณ์นิคม อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี รถคันดังกล่าวได้เสียหลักและไม่สามารถไปต่อได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวและสามารถควบคุมตัวผู้ขับขี่ไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นแรงงานต่างด้าว ทั้งหมดจำนวน 18 คน (ชาย 11 คน, หญิง 7 คน)

ต่อมาในวันเดียวกัน ขณะทำการจับกุมแรงงานต่างด้าว ได้พบรถยนต์ขับมาด้วยความเร็ว มุ่งหน้าไปทางอำเภอทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุด เพื่อทำการตรวจสอบ แต่รถยนต์คันดังกล่าวไม่ยอมหยุดรถและพยามยามที่จะขับขี่หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขับรถติดตามไป จนกระทั่งมาถึงซอยทางเข้าวัดในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลท่าขนุนฯ รถคันกล่าวได้เสียหลัก ไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ ผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวจึงได้จอดรถทิ้งและวิ่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบแรงงานต่างด้าว จำนวน 10 คน (เป็นชาย 10 คน)

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบรถยนต์ขับมาด้วยความเร็ว มุ่งหน้าไปทางอำเภอทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุด เพื่อทำการตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวไม่ยอมหยุดรถและพยายามที่จะขับหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขับรถติดตามไป จนกระทั่งมาถึงบริเวณสถานีวนวัฒนวิจัยทองผาภูมิ หมู่ที่ 1 ตำบลท่าขนุนฯ รถยนต์คันกล่าวได้เสียและไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ ผู้ขับขี่รถยนต์คันกล่าวจึงได้จอดรถทิ้งและได้วิ่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบแรงงานต่างด้าว จำนวน 11 คน (เป็นชาย 10 คน หญิง 1 คน)

จากนั้น ได้พบรถยนต์ขับมาด้วยความเร็ว มุ่งหน้าไปทาง อ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุด เพื่อทำการตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวไม่ยอมหยุดรถและพยามยามที่จะขับขี่หลบหนีไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสงสัยว่าอาจจะแอบลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขับรถติดตามไป จนกระทั่งมาถึงซอยทางเข้าวัดหนองแดง หมู่ที่ 1 ต.ท่าขนุนฯ รถยนต์คันกล่าวได้เสียและไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ ผู้ขับขี่รถยนต์คันกล่าวจึงได้จอดรถทิ้งและได้วิ่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไม่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ทัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวพบว่าเป็นแรงงานต่างด้าว จำนวน 17 คน (ชาย 8 คน หญิง 9 คน) และได้ทำการตรวจสอบแรงงานต่างด้าวทั้งหมด พบว่า ไม่สามารถนำบัตรประจำตัวหรือเอกสารใดๆ มาแสดงให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ภ.จว.กาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


เบื้องต้นผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยนายพลวัฒน์ ให้การว่า ได้รับจ้างจากชายไม่ทราบชื่อ ให้พาแรงงานต่างด้าวไปส่งที่ภายในตัวเมืองกาญจนบุรี โดยจะให้ค่าจ้างเป็นรอบ รอบละ 3,000 – 4,000 บาท

จากการสอบถามนายหม่องซาอุ ให้การว่า ได้รับจ้างจากนายโซ ไม่ทราบชื่อจริงนามกุลจริง ให้พาแรงงานต่างด้าวไปส่งที่ภายในตัวเมืองกาญจนบุรี โดยจะให้ค่าจ้างเป็นจำนวนเงินคนละ 500 บาท

ด้านแรงงานต่างด้าว ให้การยอมรับว่า ได้เดินทางหลบหนีเข้าเมืองมาจากประเทศเมียนมา มาตามช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ บ้านพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี เพื่อที่จะเข้าไปทำงานในตัวเมือง โดยจะเสียค่าเดินทางให้กับนายหน้าประมาณคนละ 13,000-15,000 บาท.-419-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ข่าวแนะนำ

“ปานปรีย์” รับยื่นลาออก หลังถูกปรับพ้นรองนายกฯ

“ปานปรีย์” ยอมรับยื่นลาออก หลังถูกปรับออกจากรองนายกฯ ชี้หากไม่มีตำแหน่งพ่วงอาจทำงานไม่ราบรื่น ลั่นหากมีคนอื่นเหมาะสมกว่าให้มาทำงานแทน

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. “เศรษฐา 1/1”

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ โปรดเกล้าฯ ครม.เศรษฐา 1/1 แล้ว “พิชัย” รองนายกฯ ควบ รมว.คลัง โยก “สมศักดิ์” นั่ง รมว.สธ. แทน “นพ.ชลน่าน”

อาลัย “ดาบต้าร์” ตร.ทางหลวง เสียชีวิตแล้ว

ข่าวเศร้าเช้าวันหยุด ด.ต.ปิยะนันท์ สีเสื้อ หรือ “ดาบต้าร์” เสียชีวิตแล้ว หลังบาดเจ็บสาหัสจากเหตุเก๋งพุ่งชนขณะอำนวยการจราจรช่วงสงกรานต์

ไฟไหม้ “วิน โพรเสส” ยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด

กรมควบคุมมลพิษ เผยผลตรวจติดตามผลกระทบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากเหตุเพลิงไหม้โกดังโรงงานเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตราย ล่าสุดยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด ในปริมาณเล็กน้อย แต่บางจุดพบสารบางชนิดในระดับจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง พร้อมร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม เตรียมแผนรับมือช่วงฤดูฝน ที่อาจจะมีวัตถุอันตรายหลุดออกมานอกพื้นที่