ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ฯ 4 มี.ค. – ร้องศูนย์ 1111 ทำเนียบรัฐบาลตรวจประวัติ ที่มาธุรกิจและพื้นที่บ้านพักฝรั่งทำร้ายหมอที่ภูเก็ต
จากกรณีชาวสวิตเซอร์แลนด์ ทำร้ายหมอที่ จ.ภูเก็ต นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ เข้ายื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 ถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี) ขอให้รัฐเข้าไปตรวจสอบให้ชัดเจนว่า บ้านพักที่ชาวต่างชาติที่ก่อเหตุเช่า และอาคารแนวเดียวกันนั้นรุกล้ำพื้นที่สาธารณะหรือไม่ พร้อมตรวจสอบประวัติการเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยของชาวต่างชาติรายดังกล่าว เงินทุนทำปางช้าง การก่อตั้งมูลนิธิ ซึ่งบางข้อมูลพบว่า อยู่สวิตฯ เป็น รปภ.เหตุใดมาไทยจึงกว้างขวางจิบไวน์กับเจ้าหน้าที่ มีเจ้าหน้าที่รายใดดูแลอยู่ และภรรยาชาวไทยเป็นนอมินีหรือไม่ นอกจากนี้ขอให้ตรวจสอบพื้นที่รุกล้ำชายหาด ที่สาธารณะอื่น ๆ ในจังหวัดท่องเที่ยวและเอาผิดพื้นที่ที่ไม่ถูกต้อง เพื่อคืนพื้นที่ให้ประชาชน
โดยนายกองตรี ดร.ธนกฤต รับเรื่อง และแถลงพร้อมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ผู้แทนจากกองคดีระหว่างประเทศ และกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยจะประสานไปยังกรมป่าไม้ กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมการปกครอง และ ปปง. เพื่อบูรณาการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดทั้ง ในส่วนการถือครองวีซ่า, ภูมิก่อนหลังเข้ามาอยู่ในไทย, การนำเงินเข้ามาในราชอาณาจักรไทย, การประกอบธุรกิจที่ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งหากพบว่า ที่ดินรุกล้ำ มีมูลค่าเสียหายกว่า 100 ล้านบาท หรือมากกว่า 50 ไร่ ดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษได้ ประเมินเบื้องต้นวิลล่าที่พักขายอยู่ที่ 2-3 พันล้าน ดีเอสไอสามารถตั้งสอบ และประสานปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินในการทำธุรกิจต่างๆ ของชาวต่างชาติรายนี้ โดยในสัปดาห์หน้าในวันที่ 12 มี.ค. ตนพร้อมผู้แทน 5 หน่วยงานจะลงพื้นที่เกิดเหตุ จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบ และชี้ชัดติดประกาศว่าพื้นที่ส่วนไหนเป็นเอกชน ส่วนไหน เป็นชายหาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนรู้ชัดว่าจะเข้าใช้พื้นที่ใดได้หรือไม่ได้
ด้านนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพย์ฯ กล่าวว่า กรณีที่ดินที่บ้านพักฝรั่งเช่าอยู่ต้องตรวจสอบที่ว่ามี นส.3 ก.ถูกต้องหรือไม่ ปมบันได ที่มีคำสั่งให้รื้อถอน การบุกรุกครอบครองความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2534 มาตรา 54 พ.ร.บ.ควบคุมอาคารถ้าแจ้งข้อหาแล้วก็ส่งดีเอสไอสอบสวนเป็นคดีพิเศษ ส่วนที่เกี่ยวกับกรมเจ้าท่าต้องตรวจเรื่องระดับน้ำทะเล
สำหรับเรื่องที่ชาวสวิตฯ รายนี้เปิดมูลนิธิ รับบริจาคทำปางช้าง จะประสานมหาดไทย ตรวจสอบว่ามีการแจ้งวัตถุประสงค์การเปิดมูลนิธิไว้อย่างไร เหตุใดกลับมีการเช่าช้างมาทำธุรกิจ หากไม่เป็นตามวัตถุประสงค์หรือคลาดเคลื่อนก็ต้องส่งนายทะเบียนตรวจสอบปิดมูลนิธิตามขั้นตอน รวมทั้งดีเอสไอจะสอบเส้นทางการเงิน หากพบธุรกรรมต้องสงสัย ส่งสำนักงาน ปปง.ดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป.-119-สำนักข่าวไทย